พระราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ทอดพระเนตรการดำเนินงานหน่วยแพทย์พระราชทาน และผลิตภัณฑ์สินค้าโอท็อป ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
วานนี้ 18 ต.ค. 63 เวลา 19.11 น. สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปลานหน้าอาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร จังหวัดสกลนคร ทอดพระเนตรการดำเนินงานหน่วยแพทย์พระราชทาน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้กองแพทย์หลวง ร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ ออกหน่วยตรวจสุขภาพ และให้บริการด้านทันตกรรมแก่ราษฎร ตั้งเวลา 09.00 น. จนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2563 เพื่อให้บริการเชิงรุกเพิ่มโอกาสเข้าถึงบริการสาธารณสุข โดยวันนี้มีผู้เข้ารับบริการรวม 520 คน ส่วนมากเจ็บป่วยด้วยโรคตา โรคทางทันตกรรม โรคกล้ามเนื้ออักเสบ และความดันโลหิตสูง โอกาสนี้ พระราชทานยาชุดพระราชทาน แก่ผู้ป่วยซึ่งทรงรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ จำนวน 2 คน ซึ่งป่วยด้วยโรคความจำเสื่อม และโรคมะเร็ง นอกจากนี้ยังมีบริการตรวจโรคเฉพาะทางด้วยเครื่องตรวจหัวใจด้วยคลื่นความถี่สูง, ตรวจอัลตราซาวด์, ตรวจภาพจอประสาทตา และตรวจโควิด-19 ด้วยรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทาน พร้อมกันนี้ทรงเยี่ยมราษฎรชาวจังหวัดสกลนครและพื้นที่ใกล้เคียง ที่ทราบข่าวการเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจครั้งนี้ และได้รวมกลุ่มกันเพื่อเดินทางมารอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จและชื่นชมพระบารมี
จากนั้น ทอดพระเนตรการออกร้านผลิตภัณฑ์ชุมชนและสินค้าโอท็อป ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ได้เข้าไปส่งเสริมอาชีพให้ชุมชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 20 จังหวัด ตามภูมิปัญญาที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นเพื่อสืบสานต่อยอดพระราชปณิธานใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมทั้งเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์สร้างรายได้ให้ราษฎรสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน อาทิ หม่ำจากจังหวัดชัยภูมิ, ขนมเปี๊ยะจากจังหวัดอุดรธานี, ข้าวหอมมะลิอินทรีย์จากกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์การเกษตรในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครพนม, รวมทั้งยังมีผ้าฝ้ายเข็นมือย้อมสีธรรมชาติ จากกลุ่มตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีบ้านซ่ง จังหวัดมุกดาหาร, ผ้ากาบบัวและอัญญานางหรือผ้าเจ้าเมือง จากกลุ่มต้นเทียนไหมไทย จังหวัดอุบลราชธานี, ผ้าซิ่นยกไหมเงินลายดอกแก้ว ซึ่งเป็นลวดลายที่ชาวอุบลราชธานีได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ปี 2493, ผ้าไหมแพรวา จากกลุ่มไหมสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งประยุกต์ต่อยอดผ้าแพรวาภูมิปัญญาท้องถิ่นมาเป็นผ้าซิ่นแพรวา พร้อมกับคิดค้นและพัฒนาลายใหม่ อาทิ ลายนาคไต่เครือ และลายบัวพ้นน้ำ เพื่อเพิ่มมูลค่าแต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิม ในการนี้ ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับผู้มาออกร้านอย่างใกล้ชิด สร้างความปลาบปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้