ดร.ธรณ์ เผยภาพสุดงดงามของวาฬยักษ์ พุ่งทะยานขึ้นมาจากผืนน้ำในอ่าวไทย ชี้ เป็นความสำเร็จของคนไทยเพราะทุกฝ่ายต่างร่วมด้วยช่วยกัน จนกล้ากล่าวว่า “บรูด้าโมเดล” คือหนึ่งในการอนุรักษ์วาฬดีที่สุดในโลก และระบุว่า หากต้องการไปดูวาฬช่วงนี้เป็นช่วงเหมาะสมที่สุดในการดูวาฬ
วันนี้ (16 ต.ค.) เฟซบุ๊ก “Thon Thamrongnawasawat” หรือ ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้โพสต์ภาพวาฬบรูด้า โดยระบุว่า เป็นขณะวาฬยักษ์พุ่งทะยานขึ้นมาจากผืนน้ำในอ่าวไทย ดูแล้วสดชื่นเหลือหลาย จึงนำมาฝากเพื่อนธรณ์ตั้งแต่เช้า และเผยอีกว่า เมื่อ 10+ ปีก่อน ผมลงเรือกับคุณนัท ช่างภาพทะเล เรานั่งเรือสำรวจวาฬบรูด้าในอ่าวตัว ก. วันนั้นเรายังไม่คิดอะไร มันเป็นเพียงแค่การสำรวจ เจอวาฬก็ดีใจแล้ว เราเจอวาฬแม้ไม่มากมาย แต่มีภาพหนึ่งที่เห็นแล้วติดใจ เป็นภาพวาฬว่ายอยู่ใกล้ๆ เรือประมง วาฬในน้ำกำลังหาปลา คนบนเรือกำลังหาปลา ทั้งสองต่างทำมาหากินเป็นภาพที่งดงามในตอนนั้น ในวันที่ตามหาคำตอบว่า “ยั่งยืน” คืออะไร ? คำตอบอยู่ในทะเลตรงหน้า เป็นเป้าหมายแสนง่าย ภาพเช่นนี้ต้องดำรงต่อไป เวลาผ่านไปเกินสิบปี วาฬบรูด้ากลายเป็นสัตว์สงวน ปริมาณในอ่าวไทยไม่ลดน้อยลง จะเพิ่มขึ้นนิดๆ ด้วยซ้ำ
ข้อมูลจากกรมทะเล ตอนนี้มี 50+ ตัว ในรอบ 3 ปี เกิด 13 ตาย 6 เท่ากับ 3 ปีเรามีวาฬ +7 การศึกษายังก้าวไกลไปถึงขั้นรู้จักวาฬทุกตัว ลูกวาฬเกิดใหม่มีชื่อทุกราย
ผู้ประกอบการพาคนไปดูวาฬเพิ่มขึ้น มีเรือหลายลำ เปิดโอกาสทางธุรกิจของชุมชนชาวบ้านท้องถิ่น เปิดตัว SME การท่องเที่ยวสายพาคนไปดูสัตว์ใหญ่ที่สุดในโลก ความร่วมมือเพิ่มขึ้น ความรู้เพิ่มขึ้น ทุกฝ่ายต่างร่วมด้วยช่วยกัน จนกล้ากล่าวว่า “บรูด้าโมเดล” คือหนึ่งในการอนุรักษ์วาฬดีที่สุดในโลก ณ เวลานี้สามารถใช้เป็นตัวอย่างให้ประเทศต่างๆ ได้เลย โดยเฉพาะกระแสสังคม และความร่วมมือร่วมใจ ทำให้อ่าวไทยตอนในกลายเป็นห้องเรียนธรรมชาติใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก กลายเป็นอะควอเรียมขนาดยักษ์ ที่ไม่ต้องจับสัตว์ใดมากักขัง อยากให้ลูกรักทะเล ก็แค่ลงเรือไปดูวาฬ ดูนก ดูปลา ดูป่าชายเลน ดูแม่น้ำ ดูทะเลดูการทำมาหากินของผู้คน
จนถึงเมื่อวาน คุณนัทออกทะเลอีกครั้ง เขาถ่ายภาพนี้ได้ เป็นภาพที่เห็นแล้วนอกจากร้องโอ้ววว์ ยังดีใจเหลือหลาย เพราะสิบกว่าปีผ่านไป ยั่งยืนยังดำรงอยู่ในอ่าวไทย ช่วยเพิ่มแรงฮึดเติมแต่งฝัน ในวันที่โลกกำลังเปลี่ยนไป มีนิวนอร์มัล มีการลงทุนพัฒนาใหม่ๆ มีการศึกษาการอนุรักษ์ด้วยแนวทางใหม่ๆ การเชื่อมต่อสองเรื่องให้ไปด้วยกันได้ ถือเป็นความท้าทาย แต่ผมเชื่อว่าเราทำได้ หากเราเปิดใจให้กัน ช่วยเหลือกันและกันเพราะเราทำอย่างนั้นมาตลอดสิบปี วันนี้จึงมีวาฬกระโดดได้ เรื่องอื่นพี่ไม่รู้ แต่เรื่องทะเลพี่มั่นใจคนไทยทำได้ครับ ในอ่าวไทยตอนใน มีทัวร์ดูวาฬแบบไปเช้าเย็นกลับหลายแห่ง ลงเรือได้หลายที่ เช่น บางตะบูน เพชรบุรี ดูได้ตลอดปี แต่ช่วงนี้เป็นช่วงพีคของการดูวาฬครับ”
คลิกโพสต์ต้นฉบับ