อย่าตกใจ! หมอเผยเคสคนไข้ผ่าตัดเนื้องอก พบเล็บ-ฟัน-เส้นผม ยันไม่ใช่ไสยศาสตร์

หมอเวรเผยภาพเคสคนไข้ผ่าตัดเนื้องอกในช่องท้อง พบกระดูก เล็บ ฟัน และเส้นผมปะปน วอนโซเชียลฯอย่าตกใจไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์ หรือถูกเสก หรือการทานเนื้อมนุษย์เข้าไป แต่คือความผิดปกติของของเซลล์ต้นกำเนิด ที่สามารถเจอได้เป็นปกติ

เมื่อวันที่ 27 ก.ย. เพจ “หมอเวร” ได้โพสต์ให้ความรู้ หลังพบเคสคนไข้ผ่าเนื้องอกในช่องท้อง พบกระดูก เล็บ ฟัน และเส้นผมปะปนอยู่ในเนื้องอกตอนผ่าตัดเต็มไปหมด โดยชี้ว่าหากเป็นสมัยก่อนนั้น คนไทยซึ่งมีความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ ย่อมคิดว่าคนไข้อาจถูกเล่นของ โดยยืนยันว่า คนไข้ไม่ได้ถูกเล่นของแน่นอน สามารถพบเจอได้เป็นปกติ และมันคือความผิดปกติของของเซลล์ต้นกำเนิด

โดยมีเนื้อหาโพสต์ว่า “วันก่อนคุยกับอาจารย์หมอแผนกสูตินรีแพทย์ที่ รพ.ราม อาจารย์ท่านเล่าว่า มีเคสผ่าเนื้องอกในช่องท้อง ปรากฏว่า อาจารย์แกเจอทั้ง กระดูก เล็บ ฟัน และเส้นผมปะปนอยู่ในเนื้องอกตอนผ่าตัดเต็มไปหมดเลย หมอเวรเห็นว่า เป็นเรื่องที่เคยได้ยินกันมาบ่อยสมัยก่อน เลยขออาจารย์และคนไข้เพื่อนำเรื่องราวมาเล่าให้ฟัง เพราะเชื่อว่า หลายคนอาจสงสัยว่าเค้าไปโดนใครทำคุณไสย หรือโดนของเสกเข้าท้องมาหรือเปล่า คือ ถ้าเป็นสมัยก่อน ผ่าแล้วไปเจออะไรแบบนี้เข้าล่ะก็ ญาติๆ ต้องเอาน้ำมนต์มาพรมให้คนไข้ถึงเตียงแล้วแน่ๆ แต่จะบอกว่า จริงๆ เรื่องพวกนี้สามารถพบเจอได้เป็นปกติ ไม่ได้โดนใครเสกของใส่มาหรอก มันสามารถอธิบายด้วยหลักการแพทย์ได้ เพราะมันคือความผิดปกติของเซลล์ต้นกำเนิดนั่นเอง

เผื่อใครงง หมอขอเล่างี้ ว่า ในร่างกายเราจะมีเซลล์ต้นกำเนิดอยู่ ซึ่งมันคือเซลล์พื้นฐานที่สามารถแปลงตัวเองเป็นเซลล์อะไรก็ได้ตามที่ร่างกายได้ตั้งโปรแกรมเอาไว้ เช่น ตัวนี้โตไปจะเป็นเล็บ ตัวนี้โตไปเป็นเส้นผม อารมณ์เหมือนเลี้ยงโปเกมอนอะไรแบบนั้นเลย แต่ทว่าร่างกายเรา บางทีก็มีอาการอ๊องที่ทำให้โปรแกรมมันเพี้ยน อารมณ์เหมือนเจอบัคอ่ะ ก็เลยทำให้เซลล์ต้นกำเนิดแปลงร่างไปอยู่ผิดที่ผิดทางได้ เช่น บางคนนิ้วมือดันงอกมาเป็น 6 นิ้ว หรืออย่างเคสนี้ แทนที่เซลล์ต้นกำเนิดจะทำให้ฟันแทนเติบโตในปาก ก็กลายเป็นงอกมาอยู่ในท้องเราแทนได้นั่นเอง อยู่ที่ว่าร่างกายเราเซลล์ตัวไหนจะเพี้ยนไปโตบริเวณใดหน่ะนะ ดังนั้น อย่างเคสนี้ก็เลยทำให้กระดูก เล็บ ฟัน และเส้นผมไปโตอยู่ในท้องเรานั่นเอง ไม่ใช่ว่าใครเพิ่งเสกเข้าท้องมา หรือคนไข้กินเข้าไปเองหรอกนะ

และนอกจากฟันหรือผมไปเกิดผิดที่ผิดทางแล้ว บางรายอาจผิดเพี้ยนถึงขั้นมีฝาแฝดอีกคนไปโตอยู่ในท้องเลยด้วยซ้ำ หรือบางคนภายนอกก็ดูปกติ แต่พอตรวจอย่างละเอียดก็พบว่ามีเซลล์ในร่างกาย 2 ชุดผสมรวมกัน เรียกง่ายๆ คือ มี DNA 2 ชุดในร่างเดียวนั่นแหละ ซึ่ง 1 คนก็ควรมีแค่ DNA เดียวนึกออกมะ คือ กรณีมีแฝดอีกคนในท้องเนี่ย ถ้ามันไม่ได้ไปพันอวัยวะภายใน ก็ยังสามารถผ่าตัดออกได้ แต่กรณีที่มีเซลล์แฝงในร่างแบบนี้ อาจทำให้คนไข้เจอปัญหาแพ้ภูมิต้านทานตัวเอง เพราะภูมิคุ้มกันของเราดันเข้าใจว่าเซลล์อีกชุด คือ สิ่งแปลกปลอมที่ต้องกำจัด เลยทำให้คนไข้กลุ่มนี้มีปัญหาสุขภาพมากกว่าปกตินั่นเอง แต่ฟังแล้วก็อย่าเพิ่งตกใจกันนะ เพราะในโลกเจอเคสเหล่านี้กันน้อยมากๆ รวมถึงหากตรวจเจอแต่เนิ่นๆ แพทย์ก็สามารถวางแผนรับมือและจัดการได้ตั้งแต่เซลล์ยังไม่งอกผิดเพี้ยนลุกลามใหญ่โต เหมือนอย่างเคสนี้ที่อาจารย์หมอที่ รพ.รามคำแหง ท่านช่วยจัดการผ่าออกไปได้ทันการณ์นั่นเอง
ปัจจุบันคนไข้ท่านนี้ปลอดภัยดี”

พอดีวันก่อนคุยกับอาจารย์หมอแผนกสูตินรีแพทย์ที่รพ.ราม อาจารย์ท่าเล่าว่ามีเคสผ่าเนื้องอกในช่องท้อง...โพสต์โดย หมอเวร เมื่อ วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน 2020