อดีตรองอธิการบดี ธรรมศาสตร์ ชี้ชัดจดหมายสภานักศึกษา ธรรมศาสตร์ ตอกย้ำ “ลัทธิปลดแอก” มีอยู่จริง คนในลัทธิเดียวกันถือเป็นพวกเดียวกัน ใครไม่เห็นตรงกันถือว่าฝ่ายตรงข้ามทั้งหมด แม้เป็นสิ่งผิดตามมาตรฐานทั่วไป ไม่ต่างจากกรณีศรีพันวา และให้ของลับประธานชวน
วันนี้ (29 ก.ย.) นายหริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Harirak Sutabutr ระบุว่า วันนี้ได้เห็นจดหมายเปิดผนึกของสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประณามผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกี่ยวกับการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา มีใจความว่า การชุมนุมที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเรียกร้องอำนาจอธิปไตย กลับคืนสู่มวลชนชาวไทยอย่างแท้จริง แต่มิได้รับความช่วยเหลือจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยเท่าที่ควร เห็นได้จากการปฏิเสธไม่ให้ใช้สถานที่ และยังอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายความมั่นคง เข้ามาเพ่นพ่านในรั้วมหาวิทยาลัย และกลับปิดประตูมหาวิทยาลัย ทำให้นักศึกษาและผู้ชุมนุมต้องกระเสือกกระสน เข้ามาในรั้วมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง พฤติกรรมขัดขวางของผู้บริหารมหาวิทยาลัย ไม่เพียงเป็นการผลักไสไล่ส่งให้ผู้ชุมนุมไปเผชิญกับอันตรายเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดอุบัติเหตุอันน่าหดหู่ กับการ์ดของผู้ชุมนุมคนหนึ่ง จนถึงขั้นอวัยวะปลายนิ้วก้อยขาดออกจากร่างกาย ข้อความตอนท้าย เป็นการประณามและเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความเสียใจ และรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
นายหริรักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้ชื่อว่า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศชัดเจนแล้วว่า ต้องการให้ประเทศไทยเป็นสาธารณรัฐ (Republic) และเกี่ยวกับลัทธิใหม่ที่เกิดขึ้นว่ามีความเชื่อที่ฝังแน่น โดยเฉพาะข้อสังเกตที่ว่า คนในลัทธิเดียวกันถือเป็นพวกเดียวกัน คนอื่นๆ หากเห็นไม่ตรงกับความเชื่อของลัทธิ ถือว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และญาติพี่น้อง อีกทั้งพวกเดียวกันทำอะไร แม้เป็นสิ่งผิดตามมาตรฐานทั่วไป กลับมองว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ฝ่ายตรงข้ามแม้ทำถูกกลับมองว่าผิด ไม่ว่าจะอธิบายว่าคนรุ่นใหม่ ย่อมมีความคิดและพฤติกรรมที่ต่างจากคนรุ่นเก่าเป็นธรรมดาอย่างไร ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น และกำลังดำเนินต่อไป ตอกย้ำว่า “ลัทธิปลดแอก” มีจริง
ก่อนหน้านี้ นายหริรักษ์ เคยกล่าวถึงกรณีที่ นายสุกิจ อัถโถปรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงข่าวเกี่ยวกับการชุมนุม ตอนหนึ่งได้ตำหนิกลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมและหยาบคายต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในโซเชียลมีเดีย ปรากฏว่า ทัวร์ลง ใช้คำหยาบไม่น้อยไปกว่าแกนนำ เกือบทุกคอมเมนต์ ด่าทอนายชวนอย่างสาดเสียเทเสีย เชื่อว่าในชีวิตอันยาวนานของการเป็นนักการเมืองของนายชวน ไม่เคยถูกใครด่าทอมากขนาดนี้ หยาบคายขนาดนี้มาก่อน ปรากฏการณ์ ศรีพันวา ได้เกิดขึ้นกับอดีตนายกรัฐมนตรีแล้ว อย่างนี้ไม่เรียกความเชื่อ และพฤติกรรมของคนกลุ่มนี้ว่าลัทธิแล้วจะเรียกว่าอะไร เนื่องจากลัทธินี้ ดูเหมือนจะยังไม่มีชื่อ ขอเรียกชื่อ ลัทธินี้ว่า “ลัทธิปลดแอก” ตามชื่อกลุ่มประชาชนปลดแอก
