“อธิบดีกรมธนารักษ์” ลงพื้นที่ตรวจราชการเขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ป้องกันโรคระบาดโควิด-19 แก่ 5 โรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดน จังหวัดตาก
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ นำทีมกรมธนารักษ์ลงพื้นที่ตรวจราชการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ซึ่งมีเนื้อที่กว่า 1,055 ไร่เศษ เพื่อติดตามความคืบหน้าในการดำเนินโครงการ ในการนี้ นายเตชวิทย์ ทุ้ยแป ธนารักษ์พื้นที่ตาก ให้การต้อนรับ โดยก่อนที่จะลงพื้นที่ตรวจราชการ นายยุทธนา ได้เดินทางไปมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ณ โรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดน จังหวัดตาก ประกอบด้วยชุด PPE หน้ากากอนามัย และน้ำยาทำความสะอาดป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยร่วมกับผู้มีจิตศรัทธา และด่านศุลกากรแม่สอด ซึ่งมี นายนิวัฒน์ สุขศรี เป็นผู้แทน มาร่วมมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าวด้วย
“โรงพยาบาลในพื้นที่ชายแดนของจังหวัดตาก มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน ตนพร้อมผู้มีจิตศรัทธา จึงต้องการที่จะมอบชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์เหล่านี้ให้ทางโรงพยาบาลนำไปใช้ประโยชน์ อันเป็นการแสดงความห่วงใยและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปให้ได้ ในการนี้ มี นายแพทย์ธวัชชัย เศรษฐศุภพนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด นายแพทย์ศักดิ์บัญชา สมชัยมงคล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพบพระ ผู้แทนโรงพยาบาลอุ้มผาง นายแพทย์สุธา ภัทรกิจรุ่งเรือง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่ระมาด และผู้แทนโรงพยาบาลท่าสองยาง เป็นผู้รับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ ณ โรงพยาบาลแม่สอดโรงพยาบาลพบพระ และโรงพยาบาลแม่ระมาด ตามลำดับ” นายยุทธนา กล่าว
อธิบดีกรมธนารักษ์ เผยต่อว่า การช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ตลอดจนการสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ เหล่านี้ กรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการคลัง ได้มีนโยบายช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 มาโดยตลอด เช่น มาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ผู้เช่าที่ราชพัสดุ การแจกอาหารกลางวัน น้ำดื่ม และเจลแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาด ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2563 ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 เป็นระยะเวลา 37 วันต่อเนื่อง การมอบถุงยังชีพให้กับชุมชนที่เป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว จำนวน 11 ชุมชน รวม 1,733 ครัวเรือน การมอบตู้ปันสุข ภายใต้กิจกรรม “ธนารักษ์ปันสุข” ตามจุดบริการต่างๆ ของกรมธนารักษ์ และภายในชุมชนที่เป็นผู้เช่าที่ราชพัสดุ เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการสนองรับนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงการคลังแล้ว ยังเป็นการช่วยให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างเข้มแข็ง และตนในฐานะอธิบดีกรมธนารักษ์ก็จะยังคงจัดให้มีโครงการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องต่อไป