จากกรณี “โรเบิร์ต สายควัน” เสียชีวิต เพจ “หมอเวร” จึงออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับโรควัณโรคปอด ชี้ติดต่อง่ายเพียงนั่งใกล้ หรือใช้ชีวิตร่วมห้อง ซึ่งเชื้อมีขนาดที่เล็กมาก เลยทำให้แพร่กระจายติดกันได้ผ่านทางหายใจ แนะคนเคยแวะเยี่ยมโรเบิร์ต ควรพบแพทย์ด่วน
วันนี้ (20 ก.ย.) เพจ “หมอเวร” ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้เกี่ยวกับกรณีข่าวการสูญเสียตลกอัจฉริยะ “โรเบิร์ต สายควัน” ทำให้หลายคนตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องวัณโรคปอดมาก จะขอเล่าให้ฟังแบบละเอียด เผื่อว่าวันนึงเราอาจจะเจอกับตัวเองหรือเจอกับคนใกล้ชิดก็ได้ เพราะเจ้าโรคนี้มันติดกันโคตรง่ายเลย
วัณโรคคือเชื้อแบคทีเรีย ชื่อในวงการเรียกสั้นๆ ว่า TB ติดต่อได้ผ่านระบบทางเดินหายใจเป็นหลัก เช่น ปอด หลอดลม หรือบริเวณหลังโพรงจมูกก็ได้ ซึ่งเชื้อตัวนี้มีขนาดที่เล็กมาก เลยทำให้แพร่กระจายได้โดยวิธี Airborne หรือติดกันได้ผ่านทางหายใจนี่แหละ คือ ถ้ามีคนเป็นวัณโรคนั่งอยู่ในห้องเดียวกันกับเรา แล้วเกิดไอจามขึ้นมา คนรอบข้างก็สามารถติดได้หมดเลย เพราะระยะแพร่กระจายมันฟุ้งกว่า Doplet มากอย่างที่บอก
ตัวเชื้อมันเอง เอาจริงๆ ถือว่าค่อนข้างอ่อนแอง่อยกระรอกต่อแสงแดดมาก เจอ UV ไม่เกิน 5 นาที ก็สิ้นซากแล้ว เวลาที่มันบุกรุกเข้ามาในร่างกายเรา ถ้าเราแข็งแรงดี เชื้อวัณโรคส่วนใหญ่เข้ามาแป๊บเดียวก็โดนภูมิคุ้มกันเราสอยเกลี้ยงแล้ว แต่ในมุมกลับกัน ถ้าร่างกายเราอ่อนแอมาก เชื้อวัณโรคมีแต่จะยิ่งเติบโตขึ้น เพราะภูมิคุ้มกันเราจัดการมันไม่ทันนั่นเอง
ฉะนั้น เรื่องสุขภาพมีผลต่อวัณโรคโดยชัดเจนนะ เราจึงเห็นข่าวคนรอบตัวบ่อยครั้ง ว่า คนที่รักษาตัวอยู่ รพ.นานๆ อาจเสี่ยงต่อการติดวัณโรคได้ง่ายเพราะมันแพร่อยู่ในอากาศ ฉะนั้น คนที่ร่างกายอ่อนแอ ภูมิในร่างกายจะกำจัดมันไม่ทันนั่นเอง ดังนั้น เราจึงเห็นผู้ป่วยติดเชื้อ HIV มักเสียชีวิตด้วยวัณโรคบ่อยครั้งหน่ะนะ
แต่ทว่า หลังร่างกายเรารับเชื้อวัณโรคไปแล้ว ใช่ว่าอีกวันสองวันจะแสดงอาการเลยหรอกนะ คนที่แข็งแรงหน่อยอาจใช้เวลาลากนานถึง 2 ปี กว่าจะแสดงอาการ แต่คนที่ร่างกายอ่อนแอ อาจใช้เวลาลุกลามในไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น
สำหรับคนที่อ่อนแอ เมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้ว ก็จะไปเกาะกินระบบทางเดินหายใจ หลักๆ ก็มุ่งเน้นไปที่ปอดก่อนเลย เชื้อวัณโรคจะลงหลักปักฐานที่จุดใดจุดหนึ่งของปอดก่อน จากเมื่อมันกินเนื้อปอดจนยุ่ยแล้วก็จะขยายอาณาเขตต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าร่างกายเราจะหายใจเองไม่ไหว และเสียชีวิตลงได้ในที่สุดนั่นเอง
วิธีเช็กอาการเบื้องต้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็มักมีการไอต่อเนื่อง รวมถึงมีเสมหะไม่หายซักที บางรายหนักๆหน่อยอาจไอเป็นเลือดด้วยก็ได้ ส่วนเรื่องอาการเจ็บปอดหรือแน่นหน้าอกนั้นไม่ได้มีกันทุกเคสทุกรายนะ เพราะบางรายที่วัณโรคไปเกาะอยู่ในกลีบปอดส่วนลึกมากๆ กว่าจะแสดงอาการอีกที เชื้อก็ลุกลามไปใหญ่โตแล้ว ดังนั้นไปตรวจที่โรงพยาบาลชัวร์สุดนะ
ปัจจุบันเราสามารถตรวจหาวัณโรคได้ 4 วิธีหลักๆ ด้วยกัน
- การทำทูเบอร์คูลิน > เป็นการเทสต์ที่ผิวหนัง ใครที่มีเชื้ออยู่ผิวก็จะบวมแดงให้เห็น ซึ่งในไทยไม่ค่อยวิธีวิธีนี้เท่าไหร่ เพราะคนที่เคยฉีดวัคซีนมาตรวจวิธีนี้ ผลก็ออกมาเป็นบวกได้เหมือนกัน ต้องตรวจด้วยวิธีอื่นต่ออีกทีอยู่ดี
- การตรวจเลือด > ก็ไม่มีอะไรมาก ตรวจหาเชื้อโดยตรงนี่แหละ ซึ่งสามารถตรวจหาโรคได้แม้มีวัคซีนอยู่ในร่างกายก็ตาม
- การเอกซเรย์ปอด > อันนี้นิยมทำมากที่สุด เพราะใช้เวลาน้อย และแพทย์สามารถมองเห็นเนื้อเยื่อปอดที่ถูกทำลายโดยวัณโรคได้เลย
- การตรวจเสมหะหาเชื้อวัณโรค > นิยมเพาะเชื้อจากเสมหะเพื่อหาวัณโรคโดยตรง ปกติแล้วหากเอ็กซเรย์แล้วแพทย์พบความเสี่ยง ก็จะมาทำการเทสต์ตัวนี้ต่อนั่นเอง
และด้วยความที่วัณโรคมันแพร่กระจายได้ง่ายอย่างที่บอก ดังนั้น ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา คนรอบตัวน้าเบิร์ตที่เคยแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนแกก็ควรไปพบแพทย์เพื่อประเมินโรคกันด้วยนะ เหมือนอย่างตอนเคสน้องน้ำตาล ที่เป็นวัณโรคหลังโพรงจมูก แพทย์ก็แนะนำให้คนรอบข้างมาตรวจกันนั่นแหละ ไม่รู้จำได้ไหม เพราะในสถิติคนที่ติดเชื้อ 10 คน จะมีเพียง 1-2 คนที่แสดงอาการป่วยเท่านั้น แต่เรื่องตรวจอันนี้ห่วงจริงจังนะ อย่ามองข้ามเชียว
ที่เล่าให้เห็นภาพความน่ากลัวมาทั้งหมดเนี่ย จะบอกว่าปัจจุบันวัณโรคหากเจอในระยะเริ่มต้นสามารถรักษาให้หายขาดได้นะ ไม่ต้องกลัว ฉะนั้น คนอย่างเราๆ ที่ไม่รู้ว่าวันๆ นึงเราเสี่ยงไปเจอใครมาบ้าง ถ้ามีอาการเข้าข่ายสงสัยก็ควรไปตรวจ หรือถ้ามีคนสนิทเป็นก็ควรไปตรวจกันให้หมดนะ ตรวจสุขภาพประจำปีให้หมอได้แชะภาพฟิล์มเอกซเรย์ปอดซักใบก็ยังดี
อย่างน้อยตรวจไม่เจอ ก็จะอุ่นใจไปได้อีกปีนึง หรือแม้ว่าตรวจเจอ หากเจอแต่เนิ่นๆ ก็ยิ่งเพิ่มโอกาสในการรักษาหายให้สูงขึ้นไปในตัวนั่นเอง
จากข่าวการสูญเสียตลกอัจฉริยะ โรเบิร์ต สายควัน ทำให้หลายคนตื่นตัวเกี่ยวกับเรื่องวัณโรคปอดมาก จะขอเล่าให้ฟังแบบละเอียด...โพสต์โดย หมอเวร เมื่อ วันเสาร์ที่ 19 กันยายน 2020