รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยืนยัน ไม่ได้เห็นต่างในการปฏิรูปการศึกษา แต่กฎข้อระเบียบในหลายประเด็นที่กลุ่มนักเรียนได้เรียกร้องต้องมีการพูดคุยหลายฝ่ายก่อนปรับ ขณะที่กฎระเบียบเรื่องทรงผมได้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว เผยกลางวงดีเบต "ผมมีนกหวีดที่บ้านเยอะแล้ว" ย้ำไม่ได้มาเป็นรัฐมนตรี ศธ. จากการร่วมเป่านกหวีด เพราะสิ่งที่ได้จากการเป่านกหวีดคือคดีความ เชื่อการสวมชุดนักเรียนลดความเหลื่อมล้ำได้จริง
ช่วงเย็นวันนี้ (5 ก.ย.) ที่กระทรวงศึกษาธิการ หรือ ศธ. ภายหลัง นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ร่วมพูดคุยกับ แกนนำนักเรียนในนาม #กลุ่มนักเรียนเลว "มิน" ลภนพัฒน์ หวังไพสิฐ นักเรียนชั้น ม.6 ในประเด็นปฎิรูปการศึกษาเพื่ออนาคตของพวกเหล่านักเรียน โดยนักเรียนในนาม #กลุ่มนักเรียนเลว ได้ยื่น 3 ข้อเรียกร้องให้ ศธ.พิจารณา ได้แก่ 1.หยุดคุกคามนักเรียน 2.ยกเลิกกฎระเบียบล้าหลัง และ 3.ปฎิรูปการศึกษา โดยมีเงื่อนไขหากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องนี้ได้ให้ลาออกจากตำแหน่ง
โดย นายณัฏฐพล ได้ตอบคำถามน้องๆที่ร่วมรับฟังบางช่วงบางตอนในหลายเรื่อง อาทิ การคุกคามในโรงเรียน การล่วงละเมิดในโรงเรียน โดยยืนยันว่าตามระเบียบกฏกระทรวงหากมีผู้กระทำผิดจะถูกดำเนินการทางวินัยแน่นอน และนักเรียนสามารถทำกิจกรรมแสดงออกทางการเมืองได้ โดยอยู่ในขอบเขตของบริเวณโรงเรียน และไม่ก้าวร้าวก้าวก่ายในสิทธิของคนอื่น ซึ่งจะไม่ขัดกับกฏระเบียบของกฎกระทรวง ซึ่งหากนักเรียนรู้สึกถูกคุกคามก็สามารถส่งเรื่องให้กระทรวงใช้เป็นข้อมูลเพื่อตรวจสอบดำเนินการด้านวินัยได้ โดยขณะนี้ได้เปิดเว็บไซต์ให้นักเรียนสามารถร้องเรียนได้แล้วพร้อมย้ำจะไม่ให้กระทบผู้ที่เปิดเผยข้อมูล
ส่วนประเด็นที่สองที่เหล่านักเรียนเรียกร้องให้ยกเลิกกฎระเบียบที่ล้าหลัง นายณัฏฐพล กล่าวว่าไม่ได้เข้มงวดในกฎระเบียบต่างๆ โดยต้องพูดในเรื่องของความเป็นจริงและต้องเข้าใจกระบวนการของโรงเรียนระบบการศึกษา ส่วนปัญหาเรื่องเสื้อผ้า เครื่องแบบนักเรียน ทรงผม หากต้องมีการปรับเปลี่ยนต้องมีผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายร่วมถกปัญหา และรับฟังทุกฝ่ายตามความเหมาะสม หากเรื่องใดยังมีความแตกแยกและไม่สามารถหาทางออกให้เหมาะสมได้ก็จะพิจารณาอีกครั้ง
โดยส่วนตัวมองว่าการสวมเครื่องแบบนักเรียนสามารถลดความเหลื่อมล้ำได้ เพราะเป็นเครื่องแบบที่ทำให้นักเรียนทุกชนชั้นเท่าเทียมกัน รวมถึงเป็นเกราะป้องกันอันตราย ย้ำร่วมพูดคุยเพื่อปฏิรูปการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญที่สุดในวันนี้
ซึ่งขณะพูดคุยถึงกรณีเรื่องทรงผม นักเรียนได้โห่ร้องด้วยความไม่พอใจ ทำให้นายณัฏฐพล ถามกลับไปยัง กลุ่มนักเรียนว่า "ทำไมเหรอครับ ถ้าเขาคิดเห็นแตกต่างจากพวกเรา เราจะรับไม่ได้เลยเหรอครับ"
ด้านน้องมิน ได้กล่าวถึงกรณีระเบียบการใส่ชุดนักเรียน ถึงสโลแกนยี่ห้อชุดนักเรียนชื่อดัง ว่า "....... เท่เสมอ" ว่า สรุปใส่เพื่อความเท่หรือลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมระบุ ตนเองมีเวลาอยู่ตรงนี้ได้ไม่นาน เป็นต้น
นอกจากนี้ นายณัฏฐพล ยังตอบคำถามแบบสุ่มที่เหล่านักเรียนส่งขึ้นมาบนเวที อาทิ เหตุใดยังต้องเรียนลูกเสือ รด. และ ระบบการศึกษาสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองใคร โดยนายณัฏฐพล ยืนยันระบบการศึกษาสร้างให้กับนักเรียนอย่างแท้จริง ส่วนลูกเสือ รด. เป็นกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วม ทักษะการใช้ชีวิตการอยู่ด้วยกัน
ก่อนที่สุดท้าย นายณัฏฐพล จะกล่าวขอบคุณนักเรียนที่ให้เกียรติมาร่วมพูดคุยบนเวที และให้ความเคารพกันในระดับหนึ่ง ถ้าเป็นไปได้ไม่มีความจำเป็นต้องมานั่งบนเวทีเพื่อสร้างความกดดันเพราะมันมีผลกระทบในภาพใหญ่ ที่ผ่านมาต้องทราบว่าประเทศไทยบอบบางจากการลงทุนต่างประเทศ ซึ่งอดีตที่ผ่านมาก็เอามาพูดได้แต่ไม่ทำให้ประเทศประสบความสำเร็จ
"วันนี้หากคิดว่าผมไม่สามารถทำคุณประโยชน์ให้ประเทศกระบวนการศึกษาแล้ว ก็พร้อมพิจารณาตัวเอง แต่ปัจจุบันยังปฎิบัติหน้าที่ตรงนี้อยู่ คือการพูดคุยกันด้วยสันติวิธีน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ที่ผ่านมา ทำไมเราไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็เพราะว่าเราไม่มีเวทีแบบนี้" นายณัฏฐพลกล่าว
ส่วนไฮไลต์ระหว่าง "รมว.ศธ" ขึ้นร่วมพูดคุยบนเวทีกับ "น้องมิน" เช่น มีคนนำนกหวีดมาให้หน้าเวที นายณัฏฐพล กล่าวขอบคุณ และบอกว่า "ผมมีเยอะแล้วครับ" เรียกเสียงหัวเราะให้กับกลุ่มนักเรียนได้เป็นจำนวนมาก
จากนั้น นายณัฏฐพล ให้สัมภาษณ์หลังลงจากเวทีดีเบต ว่า ไม่ได้รู้สึกกดดัน เป็นบรรยากาศที่ดี เป็นการเปิดโอกาสได้รับฟังความคิดเห็นของนักเรียน ซึ่งต้องมาวิเคราะห์ ส่วนที่คนคิดว่าเป่านกหวีดแล้วได้ดี ไม่จริง จริงๆ แล้วเป่านกหวีดแล้วถูกดำเนินคดี แต่การเป็นรัฐมนตรีได้มาจากการเลือกตั้ง อยากให้เข้าใจ