อาจารย์จากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ถูกแอบอ้างชื่อออกใบอนุญาตก่อสร้างโดยมีชื่อตนเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงาน ผู้เสียหายยืนยันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น ถามเรื่องไปยังนายกเทศมนตรีกลับเงียบไม่ให้คำตอบใดๆ ล่าสุดเทศบาลส่งจดหมายกลับมาถามผู้เสียหาย “คุณเดือดร้อนอะไร?” ด้านชาวเน็ตแนะให้ฟ้องร้อง
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Watcharin Gasaluck” หรือ รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก ภาควิชาวิศวกรรมโยธา แผนกวิศวกรรมปฐพี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โพสต์ข้อความหลังมีเทศบาลแห่งหนึ่งแอบอ้างออกใบอนุญาตก่อสร้างโดยมีชื่อตนเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงาน จากนั้นผู้เสียหายจึงทำหนังสือถามไปที่นายกเทศมนตรีว่าทำไมจึงมีชื่อตนทั้งที่ไม่รู้เรื่อง โดยผู้โพสต์เล่าว่า “เทศบาลแห่งหนึ่งออกใบอนุญาตก่อสร้างโดยมีชื่อผมเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงาน ผมจึงทำหนังสือถามไปที่นายกเทศมนตรีว่าทำไมจึงมีชื่อผมโดยที่ผมไม่รู้เรื่อง ถามไปหลายเดือนก็เงียบ โทร.ไปถามก็บอกว่าให้ไปคุยกับโรงงานเอง อ้าว ก็คุณออกใบอนุญาตไม่ใช่หรือ ถามไปที่กองช่างขอให้ตรวจสอบ ท่านนายช่างก็บอกว่ายุ่ง เอกสารเยอะไม่มีเวลา คุณไปเอาเอกสารนี่มาจากไหน (น้ำเสียงท่านนายช่างนี่ช่างยิ่งใหญ่มาก)
ต่อมาได้ทำหนังสือถามเป็นครั้งที่ 2 ก็ยังเงียบ สรุปเงียบไปหลายเดือน ระหว่างนั้นทางโรงงานพยายามติดต่อผ่านเลขาฯ ของผมว่าจะขอมาพบ แต่ผมปฏิเสธเพราะนี่เป็นเรื่องของเทศบาล จนผมต้องทำหนังสือถามไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย ในที่สุดคำชี้แจงจึงออกมาว่า ใบอนุญาตปลอมและได้สั่งให้หยุดก่อสร้างแล้ว อ้าว ถ้าปลอม ทำไมใช้เวลาประมาณ 6 เดือนในการตอบ แล้วถ้าปลอมได้ไปแจ้งความดำเนินคดีต่อโรงงานไหม (ไม่ทำก็ 157 นะ) ทางจังหวัดเองก็สงสัยในคำชี้แจงจึงให้อธิบายเพิ่มเติม
จากนั้นไม่กี่วันมานี้ ผมได้รับหนังสือจากเทศบาล อ่านแล้วทั้งขำทั้งโมโห ทั้งสมเพชเวทนา เขาขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงครับ ผมโดนอ้างชื่อ เทศบาลบอกให้ผมชี้แจงครับ ผมเป็นผู้เสียหายแต่ต้องชี้แจง อ่านเนื้อหาแล้วเหลือเชื่อ ข้อแรกยังพอทำใจ แต่ข้อสองถามว่าเคยทำงานกับบริษัทนี้ไหม ถามไปทำไม ข้อสามนี่โคตรฮาเลย ถามว่าผมเดือดร้อนอะไร อ้าว มีคนใช้เอกสารปลอมซึ่งผิดกฎหมาย มันถามว่าเดือดร้อนอะไร แถมยังมาขอสำเนาใบอนุญาตผมอีก คุณครับ คุณต้องตรวจสอบที่กองช่าง ต้องตรวจสอบโรงงาน แล้วคุณก็ตอบมาแล้วว่าเอกสารปลอมสั่งหยุดก่อสร้างแล้ว แต่ผมทราบว่ามันสร้างเสร็จแล้ว ใบอนุญาตออกปี 59 โน่น แต่มาบอกให้ผมชี้แจง แถมบอกให้ชี้แจงภายใน 7 วัน ขอโทษ นี่กูเป็นจำเลยเหรอวะ คงต้องส่งเรื่องไปคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ละนะ”