นักข่าวอาวุโส “ประวิตร” ครวญ “ปวิน” ด่าเป็นพวก “นีโอสลิ่ม” หลังโพสต์ข้อความให้อนุมัติในกลุ่ม “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” ใหม่ แล้วเงียบหาย แถมยังไล่หลัง “กดออกเองหรือถีบออก” ซัดกลุ่มนี้เป็นเพียงกะลาแลนด์ขนาดย่อม มีแต่เรื่องดีๆ เกี่ยวกับแม่ปวิน ไม่มีพื้นที่เห็นต่าง ล้อเลียนสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่รู้จักพอ
เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นายประวิตร โรจนพฤกษ์ นักข่าวอาวุโสประจำข่าวสดภาคภาษาอังกฤษ หรือข่าวสดอิงลิช โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก “Pravit Rojanaphruk” หัวข้อ “ความย้อนแย้งของ ‘รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง’ ของ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์” มีใจความโดยสรุปว่า กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พยายามบล็อกกลุ่มเฟซบุ๊ก “รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส” เนื่องจากเป็นภัยต่อความมั่นคง และกดดันให้เฟซบุ๊กกระทั่งตัดสินใจยอมบล็อกแบบเจาะจงเฉพาะในราชอาณาจักรไทยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (24 ส.ค.) ทำให้คนไทยไม่สามารถเข้าชมได้
แต่ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต ผู้ต้องหาหลบหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ลี้ภัยไปอยู่ประเทศญี่ปุ่น ได้รับความสนใจจากสื่อตะวันตก อาทิ นิวยอร์กไทมส์ วอชิงตันโพสต์ อัลจาซีเลาะห์ หนังสือพิมพ์ TAZ ประเทศเยอรมนี แม้กระทั่งสื่อสิงค์โปร์ และได้รับเชิญให้ไปพูดออนไลน์โดยสมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศของญี่ปุ่น กระทั่งมีการตั้งกลุ่มใหม่ “รอยัลลิสต์มาเก็ตเพลส-ตลาดหลวง” เพื่อหลบเลี่ยงขบวนการเซ็นเซอร์ เพียง 6 วันหลังจากตั้งกลุ่ม มีสมาชิกเกิน 900,000 คน ในขณะที่กลุ่มเก่าใช้เวลาหลายเดือน กว่าจะมีสมาชิกทะลุ 1 ล้านคน
ต่อมาเพื่อนในเฟซบุ๊กรายหนึ่งส่งคำเชิญให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่มใหม่ จึงโพสต์ถามเพื่อนและผู้ติดตามในเฟซบุ๊กกับทวิตเตอร์ ว่า ควรรับคำเชิญเข้าเป็นสมาชิกหรือไม่ เพราะตนไม่เคยเป็นสมาชิกในกลุ่มแรก ที่ตอนนี้ถูกบล็อกในไทยแล้ว แต่เป็นเพื่อนกับนายปวิน ทั้งในเฟซบุ๊กและในทวิตเตอร์ ซึ่งต่างก็ติดตามกันอยู่ คำตอบที่ได้ส่วนใหญ่คือ ให้รับคำเชิญเข้าไปเป็นสมาชิก ในที่สุดจึงตัดสินใจตอบรับคำเชิญจากสมาชิก ไม่นานหลังจากนั้นตัดสินใจลองโพสต์สถานะ (Status) ลงในกลุ่ม ข้อความเป็นภาษาไทยสั้นๆ ว่า “ฝากทุกท่านในกลุ่ม ขอให้ใช้ข้อมูลเป็นจริงเท่าที่ทราบ ไม่กล่าวหาใครโดยไร้หลักฐาน เพื่อที่รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลสแห่งใหม่จะได้ไม่ถูกเฟซบุ๊กฟันธงคล้อยตามรัฐไทย”
หลายชั่วโมง หลายวันผ่านไปก็เงียบ ไม่มีข้อความปรากฏในกลุ่ม จึงตระหนักว่า กลุ่มดังกล่าวไม่ใช่ตลาดเปิดความคิดเสรีทางการเมืองและอุดมการณ์ หรือตลาดทางความคิด หากเป็นอาณาจักรเสมือนจริงส่วนตัว (Virtual Fiefdom) ทางอุดมการณ์และจริตส่วนตัวของนายปวิน ในฐานะแอดมินและผู้ก่อตั้งกลุ่ม เป็นผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จสูงสุด ตัดสินใจว่าข้อความใดที่คนในกลุ่มอยากสื่อผ่านการพิมพ์สถานะ (Status) ในกลุ่มควรได้รับการอนุมัติให้สมาชิกอื่นๆ เห็นได้ อ่านได้ ชมได้ และข้อความใดไม่เหมาะ ซึ่งนายปวินโพสต์ในกลุ่มเมื่อคืนวันเสาร์ (29 ส.ค.) ว่า ปฏิเสธโพสต์ที่สมาชิกพิมพ์เสนอมาลงพิมพ์ถึง 95% ไม่รวมที่เคยโฆษณาไล่สมาชิกบางคนออกจากกลุ่ม เพราะฟันธงว่าเป็นฝ่ายตรงข้าม ซึ่งทำให้นึกถึงวาทกรรม “ถ้าไม่รักพ่อหรือเห็นด้วยกับพ่อก็ไปอยู่แผ่นดินอื่น”
“ล่าสุด เมื่อคืนวันเสาร์ นายปวิน ก็โพสต์ถึงคนประเภทนี้ในหมู่สมาชิกตลาดใหม่อีกว่า “... ดอกนีโอสลิ่ม มึงมี 2 ตัวเลือกค่ะ กดออกเอง หรือจะให้กูถีบออก ลำไยฉิบหาย” ส่วนปฎิกริยาส่วนใหญ่ของ 1,300 คอมเมนต์ ในคืนวันเสาร์ก็ออกมาทำนองว่า ไล่พวกมันออกจากตลาดไป ถีบมันออก บล็อคมันเลยค่ะขุนแม่ มาถึงตรงนี้ผมเริ่มรู้สึกคุ้นๆ ว่า กลุ่ม ‘รอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส-ตลาดหลวง’ คล้ายกะลาแลนด์ขนาดย่อม” นายประวิตร กล่าว และว่า กลุ่มนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับความเห็นต่าง ข้อโต้แย้ง และพื้นที่แสดงออกอย่างแท้จริงสำหรับพวกที่ไม่ใช่กองเชียร์ (Sycophants) เพียงแต่อาณาจักรของนายปวิน เสมือนที่คล้ายกันจากคนละขั้วการเมือง ยังดีที่นายปวินไม่ได้มีกฎหมายคุ้มครอง
นายประวิตร กล่าวว่า สิ่งที่อยากสื่อกับสมาชิกในกลุ่มเกือบ 1 ล้านคน ก็คือ เสรีภาพการแสดงออกมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ตรงไหนควรวิพากษ์หรือแม้กระทั่งล้อเลียนก็ทำไป เพราะสังคมปกติที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริงที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างอังกฤษ ประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ได้โดยไม่ต้องหลบซ่อนปิดบังตัวตนที่แท้จริง เหมือนคนไทยที่ต้องปิด แต่ข้อมูลกล่าวหาแบบลอยๆ นั้นไม่จำเป็น เพราะสังคมที่ยึดโยงกับข้อมูลที่ไม่มีหลักฐาน หรือยังพิสูจน์ไม่ได้จนชินคงไปได้ไม่ไกล ไม่ได้อยู่บนฐานของการใช้เหตุผล และยังกล่าวอีกว่า กลุ่มของนายปวิน ก็เป็นพื้นที่วิพากษ์ล้อเลียนสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างไม่รู้จักพอเพียง ที่แทบไม่มีพื้นที่สำหรับความเห็นต่าง
“ข้อความที่ผมอยากสื่อคงขัด หรือไม่ก็ไม่เอื้อต่อบรรยากาศสุดสวิงริงโก้ในกลุ่ม ที่ดูเหมือนไม่มีที่ทางให้กับข้อมูลต่าง หรือความเห็นต่าง และการถกเถียงจากต่างมุมต่างความเชื่ออย่างแท้จริง หรือบางที ผู้มีอำนาจในอาณาจักรเสมือนจริง อาจกลัวว่าข้อความแบบนั้นอาจจะไปทำลายบรรยากาศที่คล้ายการเปิดเพลงเทคโน หรือ Trance Music ของข้อมูลด้านเดียวจนสมาชิกนับล้านที่กำลังดิ้นในภวังค์ตื่น นอกจากข้อมูลกล่าวหาลอยๆ ว่าคนในรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลสถูกล้างสมอง และมีการโพสต์ในนั้นเพื่อดูเอาขำ” นายประวิตร กล่าว
นายประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ปฏิเสธว่ากลุ่มรอยัลลิสต์มาร์เก็ตเพลส และกลุ่มใหม่ตลาดหลวง ที่ตั้งขึ้นมามีบทบาทในการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่การรังสรรค์วัฒนธรรมประชาธิปไตย สร้างสังคมที่สมาทานเสรีภาพการแสดงออกอย่างแท้จริง และการโต้เถียง ฟังความเห็นต่างอย่างตั้งใจด้วยขันตินั้น ยากยิ่งกว่าการต่อต้านหรือวิพากษ์ฝ่ายที่ตนตราหน้าว่าเป็นเผด็จการผูกขาดความจริง เพราะบางทีความเป็นเผด็จการ ความไร้ขันติ และใจอันไม่เปิดกว้างในตัวเรา หยั่งรากลึกเกินกว่าที่เราจะรู้ตัวหรือยอมรับ แม้ในฝั่งที่เรียกตนว่าฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งการต้านอำนาจนิยมรัฐนั้นว่ายากแล้ว การขัดขืนต้านอำนาจนิยมในตัวเราและฝั่งประชาธิปไตยนั้นยากกว่า และยังกล่าวว่า จะถีบตนออกจากกลุ่มก็แล้วแต่นายปวิน