MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 16 - 22 ส.ค. 2563)
อันดับ 1 : "ขาสั้นปลดแอก" ชูสามนิ้วก็มี-โบขาวก็มา "กลุ่มนักเรียนเลว" เลิกเรียนไปกระทรวง กดดัน "ณัฏฐพล"
สืบเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่มประชาชนปลดแอก เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา หยุดคุกคามฝ่ายที่เห็นต่าง และแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปรากฎว่าพบการเคลื่อนไหวทางการเมืองในกลุ่มนักเรียน เริ่มจากโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา ชู 3 นิ้วหลังร้องเพลงชาติจบ แล้วโพสต์ภาพผ่านสื่อโซเชียล ตามมาด้วยกิจกรรมโบขาวต้านเผด็จการ กระทั่งการชุมนุมของกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า "นักเรียนเลว" กดดันนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ แต่ก็มีบางโรงเรียน เช่น โรงเรียนราชินี ประกาศไม่อนุญาตให้นักเรียนก้าวล่วงสถาบันพระมหากษัตริย์ และกระทำการใดๆ ที่ขัดต่อระเบียบของโรงเรียน
ส่วนการจับกุมแกนนำ พบว่าเมื่อวันที่ 19 ส.ค. ตำรวจจับกุมนายอานนท์ นำภา ทนายความ กรณีชุมนุมธีมแฮรี่พอตเตอร์ เมื่อวันที่ 4 ส.ค. ตามมาด้วยคดีชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก เมื่อวันที่ 18 ก.ค. เพิ่มเติม ประกอบด้วย นายบารมี ชัยรัตน์ เลขาธิการสมัชชาคนจน นางสุวรรณา ตาลเหล็ก แกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย นายเดชาธร บำรุงเมือง หรือฮอคกี้ ศิลปินแร็ปเปอร์กลุ่ม Rap Against Dictatorship นายธานี สะสม นายทศพร สินสมบูรณ์ นายณัฐวุฒิ สมบูรณ์ทรัพย์ และนายธนายุทธ ณ อยุธยา ภายหลังศาลให้ประกันตัววงเงินคนละ 100,000 บาท ตั้งเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเดียวกับคดีนี้อีก
อันดับ 2 : มวยคู่เอก "สิระ เจนจาคะ VS เต้ มงคลกิตติ์" กลางสภาอันทรงเกียรติ "นายหัวชวน" เอือมลงมาหย่าศึก
มวยคู่เอกสะท้อนคุณภาพผู้แทนราษฎรประเทศไทยครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือเต้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง ถ้าควบคุมสถานการณ์การชุมนุมไม่ได้ภายใน 1 เดือน ปรากฎว่านายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวตอบโต้นายมงคลกิตติ์ว่า ต้องการผลประโยชน์อะไรหรือไม่ หรือเพราะนายมงคลกิตติ์เงินหมด ก็ติดต่อมาได้จะดูแลให้ ปรากฎว่าเย็นวันนั้น นายมงคลกิตติ์โพสต์ข้อความทำนองว่า เจอนายสิระที่ไหนจะต่อยให้ฟันร่วงหมดปาก รู้จักตนน้อยไป
เช้าวันต่อมา นายสิระตัดสินใจแจ้งความดำเนินคดีนายมงคลกิตติ์ที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนที่จะเดินทางเข้ามาที่อาคารรัฐสภา ถนนสามเสน ปรากฎว่านายมงคลกิตติ์พยายามเดินปรี่เข้าหาและจับแขนนายสิระ แต่ถูกปัดพร้อมเรียกตำรวจสภาให้จับกุม ต่อมานายสิระจึงเข้าพบนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่ออธิบายถึงปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และขอให้สอบจริยธรรมนายมงคลกิตติ์ จากนั้นนายมงคลกิตติ์ก็เข้าห้องนายชวนต่อทันที สุดท้ายนายชวนให้สัมภาษณ์ว่า ได้ขอร้องว่าอย่าให้ความรุนแรงเกิดขึ้น แต่ไม่วายนายมงคลกิตติ์ยังเสนอแก้ระเบียบสภาฯ ให้ ส.ส. และ ส.ว. สามารถต่อยกันได้
อันดับ 3 : สลด! "น้องมิ้นท์" สาวราชภัฎเหยื่อรุ่นพี่ คาใจอาจารย์อ้างเป็นลม แต่เพื่อนบอกถูกซ่อม เหตุมาซ้อมเชียร์สาย
เหตุสลดจากระบบอาวุโสในรั้วสถาบันเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความระบุว่า น.ส.พรพิพัฒน์ หรือมิ้นท์ เอียดดำ อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เกิดช็อกหมดสติและเสียชีวิตที่โรงพยาบาลวชิรภูเก็ต เมื่อวันที่ 20 ส.ค. โดยพบว่าก่อนหน้านี้อาจารย์แจ้งว่า น.ส.มิ้นท์เป็นลม แต่เพื่อนกลับให้ข้อมูลว่า น.ส.มิ้นท์ถูกทำโทษจากการมาซ้อมเชียร์สายเพราะต้องทำงาน โดยรุ่นพี่สั่งให้วิ่งรอบบึงใหญ่ 8 รอบ น้องวิ่งได้รอบที่ 7 เกิดอาการช็อก เรื่องนี้ทำให้พี่สาวและแม่เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต เพื่อขอให้สอบสวนหาสาเหตุการเสียชีวิต
ผศ.ดร.หิรัญ ประสานการ อธิการบดีมหาลัยราชภัฏภูเก็ต แถลงข่าวแสดงความเสียใจ พร้อมมอบเงินเยียวยาจำนวน 1 แสนบาท และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากกิจกรรมรับน้องใหม่ แต่เป็นการซ้อมกิจกรรมกีฬาสีของคณะ ส่วนรองอธิการบดีกล่าวว่า รุ่นพี่ก็มีความเสียใจเป็นอย่างมาก ทางมหาวิทยาลัยจะเข้าไปตรวจสอบเพื่อความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย ขณะที่ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.อุดมศึกษาฯ สั่งเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมขอความร่วมมือไปยังทุกมหาวิทยาลัย ให้ช่วยดูแลและตรวจสอบการจัดกิจกรรมรับน้องอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียหรือบาดเจ็บกับนักศึกษาคนใดอีก
อันดับ 4 : ล่าความจริงคดี "บอส อยู่วิทยา" พบทำสำนวนเท็จ ปิดโอกาสแก้ข้อมูล "สมยศ" ปัดช่วย-ไปประชุมฟีฟ่า
กรณีที่นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้อง นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือบอส คดีขับรถหรูชนตำรวจเสียชีวิต นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ เปิดเผยว่า คดีนี้มีการทำสำนวนเท็จ ปิดโอกาสให้เปลี่ยนข้อมูลความเร็วรถกลับเป็น 177 กม./ชม. ต่อมาได้เชิญ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น นักวิทยาศาสตร์ (สบ.4) ชี้แจง ยืนยันว่าให้ข้อมูลพนักงานสอบสวนเพียงครั้งเดียว ไม่ทราบว่านายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม เข้ามาได้อย่างไร ภายหลังพบว่าข้อมูลนายสายประสิทธิ์ไม่ถูกต้อง พยายามจะเปลี่ยนข้อมูลกลับ แต่ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ผกก.สน.ทองหล่อ อ้างว่าทำคดีอื่นซับซ้อน ทำให้เกิดความสับสน
จากนั้นในการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 19 ส.ค. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. อดีต ผบช.กองพิสูจน์หลักฐาน ยอมรับว่า เข้าใจว่า พ.ต.อ.ธนสิทธิ์เชื่อการคำนวณของนายสายประสิทธิ์ และตอบโต้ข้อกล่าวหาว่ามีส่วนช่วยเป่าคดี ระบุว่า หาก พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ถูกกดดันจริงในวันนั้นก็บอกได้ ขณะที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. ชี้แจงเมื่อ 20 ส.ค. ว่า ในวันที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์กล่าวอ้างว่าได้พานายสายประสิทธิ์มาพบในวันที่ 26 ก.พ. 2559 ตนไปประชุมฟีฟ่าที่สวิตเซอร์แลนด์ ไม่ได้อยู่ในห้องสอบสวนคดี ยืนยันไม่รู้จัก พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้
อันดับ 5 : ใจหายใจคว่ำ! วุ่นหนุ่มมาเลย์ฯ พบเชื้อโควิดฯ ด้านสองสาวจาก UAE มี "ซากเชื้อ" ศบค.คลายล็อกเพิ่ม
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย รอบสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องฮือฮาต่อเนื่อง เริ่มจากเมื่อวันที่ 16 ส.ค. กระทรวงสาธารณสุขมาเลเซียระบุว่า พบผู้ป่วยเดินทางมาจากไทย แต่กระทรวงสาธารณสุขของไทยตรวจสอบพบว่า เดินทางมาถึงมาเลเซียเมื่อ 5 ส.ค. ไม่พบเชื้อ แต่ตรวจพบเมื่อ 15 ส.ค. ขณะที่หญิงวัย 36 ปี ซึ่งเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด เดินทางมายัง จ.เชียงใหม่ ผลตรวจออกมาไม่พบเชื้อ ต่อมาวันที่ 19 ส.ค. พบผู้ติดเชื้อเป็นหญิง 2 ราย มาจากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รายแรกอายุ 34 ปี พบเชื้อปริมาณน้อย สรุปเป็นผู้ติดเชื้อรายเดิม ที่เคยพบซากเชื้ออยู่ในสถานที่กักกันจนครบกำหนด
อีกรายหนึ่งอายุ 35 ปี ตรวจหาเชื้อ 2 ครั้ง ไม่พบเชื้อ เดินทางกลับต่างจังหวัด แต่กลับมาเตรียมตัวไปทำงานต่างประเทศ ตรวจสุขภาพพบสารพันธุกรรม อยู่ระหว่างเข้ารักษาที่สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ จ.สมุทรปราการ เป็นซากเชื้อในช่วงที่ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ อย่างไรก็ตาม ได้มีการตรวจเชื้อในกลุ่มผู้ใกล้ชิดในพื้นที่จังหวัดเลยและชัยภูมิ ผลปรากฎว่าไม่พบเชื้อ ด้านที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 มีมติเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ให้เปิดเรียนเต็มรูปแบบ ให้ขนส่งสาธารณะโดยสารเต็มความจุ และอนุญาตแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม แบ่งประเภทมีการตะโกนเชียร์และไม่มีการตะโกนเชียร์ ความจุตั้งแต่ 15-50%
อันดับ 6 : หึ่งบอลไทย! "สมยศ" งดใช้ VAR อ้างค่าใช้จ่ายเยอะ "มาดามแป้ง" ประกาศพร้อมจ่าย 16 ล้านเดินหน้า
หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เห็นชอบให้สามารถจัดการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชมได้ ทำให้การแข่งขัน โตโยต้า ไทยลีก 2020 เตรียมที่จะจัดการแข่งขันนัดที่ 5 ตั้งแต่วันที่ 12-13 ก.ย. เป็นต้นไป ปรากฎว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยุค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ระงับการใช้งานเทคโนโลยีวิดีโอช่วยผู้ตัดสิน หรือ VAR (Video Assistant Referee) อ้างว่าเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของสมาคมฯ เนื่องจากจะมีค่าใช้จ่ายนัดละ 82,000 บาท และลดจำนวนบุคลากรที่เข้าไปในสนาม จึงเห็นควรงดการใช้ VAR โดยจะพิจารณาใช้ในนัดสำคัญ เช่น ทีมชนะเลิศ นัดชิงชนะเลิศ หรือ รองชนะเลิศ ตามที่เห็นสมควร
ปรากฎว่า 3 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟุตบอลไทย นำโดย มาดามแป้ง นวลพรรณ ล่ำซำ จากการท่าเรือ เอฟซี, บิ๊กป๊อก วิลักษณ์ โหลทอง จากเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ขจร เจียรวนนท์ จากทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด แถลงข่าวเมื่อ 19 ส.ค. ไม่เห็นด้วยกับสมาคมฯ โดยมาดามแป้งประกาศว่า บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) พร้อมจ่ายเงินสนับสนุน 16 ล้านบาท ให้ใช้ VAR ทั้งหมดทุกสนามในไทยลีก 1 แต่ พล.ต.อ.สมยศ ปฏิเสธรับเงิน อ้างว่าเป็นเงินคนละส่วนกัน เรื่องนี้ทำให้คอบอลวิจารณ์ถึงความไม่ชอบมาพากลของสมาคมฟุตบอลฯ ถึงขั้นมีหลายฝ่ายสนับสนุนให้ "มาดามแป้ง" เป็นนายกสมาคมฯ แทน
อันดับ 7 : ช็อกวงการตลก! "โรเบิร์ต สายควัน" นักแสดงฮาไม่จำกัดเป็นมะเร็งปอด ร่างกายทรุด-ให้คีโมไม่ได้
กลายเป็นเรื่องช็อกในวงการบันเทิง เมื่อ โรเบิร์ต สายควัน หรือนายไพฑูรย์ พุ่มรัตน์ นักแสดงตลกชาวไทยเชื้อสายอเมริกันวัย 54 ปี ไม่สบาย ต้องพักฟื้นร่างกาย หายไปจากจอรายการโทรทัศน์จนแฟนคลับเป็นห่วง กระทั่งกลุ่มนักแสดงตลก นำโดย บอล เชิญยิ้ม หรือนายชัชชัย จำเนียรกุล ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เมื่อ 21 ส.ค. เปิดเผยว่า โรเบิร์ตเป็นมะเร็งปอด เกิดน้ำท่วมปอด และได้ทำการเอาน้ำออกจากปอดแล้ว อยู่ในช่วงพักฟื้น ซึ่งศิลปินตลกทุกคนจะหมุนเวียนมาเยี่ยมและดูแล ที่ผ่านมาภรรยาและเพื่อนตลกทราบว่าเป็นมะเร็ง หลังพบก้อนปูดตรงสีข้าง แต่ไม่ได้บอกเพราะเกรงว่าจะเครียด แต่เมื่อเจ้าตัวทราบก็ต่อสู้กับโรคนี้
อย่างไรก็ตาม สภาพร่างกายภายในไม่เต็ม 100% ไม่สามารถรับการรักษาด้วยการฉายแสงและทำเคมีบำบัด (คีโม) ได้ เพราะร่างกายรับยาไม่ไหว ต้องกลับไปรักษาตัวที่บ้าน ต้องฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาโดยรักษาตามอาการ ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาเพื่อนศิลปินตลกพร้อมสนับสนุน และยังจ่ายเงินค่าตัวให้เหมือนเดิม แม้จะไม่ได้มาถ่ายรายการ 4 สัปดาห์ก็ตาม เชื่อว่ายังมีความหวังในการรักษา แต่รอให้ร่างกายแข็งแรงก่อน ขณะที่คนในวงการนักแสดงและศิลปินตลก ต่างเดินทางมาให้กำลังใจโรเบิร์ตจำนวนมาก อาทิ สมาชิกและทีมงานรายการบริษัทฮาไม่จำกัด โน้ส-อุดม แต้พานิช และตุ้ย เอ็กซเรย์ เป็นต้น
