xs
xsm
sm
md
lg

“กรณ์” ห่วง ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย หลังกลุ่มเยาวชนปลดแอกชุมนุมจาบจ้วงสถาบัน

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กรณ์ จาติกวณิช” หัวหน้าพรรคกล้า และ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุข้อความถึงกลุ่ม “ธรรมศาสตร์และการชุมนุม” แนวร่วมกลุ่มเยาวชนปลดแอก ออกข้อเรียกร้องพาดพิงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ หวั่นว่าจะเกิดเหตุประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ย้ำ ประเทศมีบทเรียนมากพอแล้ว

จากกรณีที่กลุ่ม “ธรรมศาสตร์และการชุมนุม” แนวร่วมกลุ่มเยาวชนปลดแอก จัดการชุมนุมที่ลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ปรากฏว่า ในช่วงท้ายของการชุมนุมมีการเปิดคลิปของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นเบื้องสูง และออกข้อเรียกร้องพาดพิงไปถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ กระทั่ง นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต ต้องประกาศขออภัยที่เนื้อหาการชุมนุมเลยขอบเขตไป ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (11 ส.ค.) กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า อดีตสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “กรณ์ จาติกวณิช - Korn Chatikavanij” ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยย้ำว่า อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ประเทศมีบทเรียนมากพอแล้ว หลีกเลี่ยงการก้าวล่วง ไม่จาบจ้วงสถาบันฯ ชุมนุมภายใต้กรอบกฎหมาย ทั้งนี้ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ระบุข้อความว่า

“ผมในฐานะหัวหน้า พรรคกล้า - KLA Party ได้ย้ำกับเพื่อนร่วมพรรคอยู่เสมอว่า.. พรรคกล้าต้องไม่มีส่วนในการเพิ่มความขัดแย้งในสังคม ทุกครั้งที่เราแสดงออก ต้องเป็นสิ่งที่สร้างสรรค์และหาทางออกต่อเหตุการณ์นั้นๆ โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นที่ตั้ง เราจะไม่ยอมตกอยู่ในวังวนเดิมของการเมืองแบบเก่า การเมืองที่สร้างแต่ความขัดแย้ง แบ่งแยกผู้คน และสร้างความรุนแรง
.
เราตระหนักดีกว่า การชุมนุมเป็นสิทธิ ความเคารพศรัทธาก็เป็นสิทธิ เราเคารพในความเห็นต่าง และเราต้องไม่ละเมิดสิทธิกันและกัน สิทธิทางความคิดและความเชื่อของผมและพรรคกล้า คือ “ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”
.
การนำสถาบันฯ มาเพื่อพยายามปลุกปั่นนั้น มีแต่จะเพิ่มความขัดแย้ง และสุ่มเสี่ยงต่อการนำไปสู่การใช้ความรุนแรง จากอดีตที่ผ่านมาเรามีบทเรียนมากเพียงพอแล้วว่า เจ็บทั้งสองฝ่าย มีนักสู้ คนใจบริสุทธิ์หลายต่อหลายคนต้องสูญเสีย บางทีขวาชนะ บางทีซ้ายชนะ แต่เราก็ยังอยู่ในวังวนการเมืองแบบเก่าแบบเดิม ถามว่า “ชาติเราเคยชนะหรือไม่” จากการยุยงจนก่อให้เกิดความรุนแรงแบบนี้
.
วิธีแบ่งแยกแล้วปกครอง ต้องหยุดเสียที ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเสี่ยงที่จะเผชิญต่อวิกฤตเศรษฐกิจ พี่น้องคนไทยเอง ปากท้องหากินลำบาก คนกำลังตกงาน เด็กจบใหม่ไม่มีงานทำ บริษัทและร้านค้าทยอยปิดตัว เรามาสู้เรื่องนี้ด้วยการลงมือทำด้วยกันเพื่อประเทศดีกว่าไหมครับ
.
ถ้าอยากจะสร้างประเทศที่ดีกว่า เราต้องหาพื้นที่ตรงกลางให้ได้ ทางฝั่งผู้ชุมนุม ต้องไม่จาบจ้วง ชุมนุมตามกรอบกฎหมายทำได้ ทางฝั่งรัฐ ต้องไม่จับกุมด้วยข้อหาที่ไม่เป็นธรรม ไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุม เปิดเวทีหารือกัน และต้องพร้อมปรับกติกาการเมืองให้มีความเป็นธรรม มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น
.
ผม และพรรคกล้า เชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศ และคนไทยทุกคนว่า ประเทศไทยของเรามีดี และยังจะดีขึ้นกว่านี้ได้อีกมาก หากเราทุกคนร่วมกัน “ลงมือทำ”
.
หยุดทุกความขัดแย้ง แล้วมาสร้างสรรค์ประเทศไปข้างหน้าด้วยกันเถอะครับ”

กำลังโหลดความคิดเห็น