พบข้าราชการสาวชู 3 นิ้ว กลางพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล ลาออกแล้ว หลังพ่อแม่แนะนำให้ไปตั้งหลักที่บ้านเพื่อทำธุรกิจส่วนตัว เพื่อนสนิทชี้เป็นครอบครัวที่เพียบพร้อมครอบครัวหนึ่ง ที่ขอโทษเพราะกลัวตกงานนั้นไม่จริง
จากกรณีที่ในโซเชียลมีเดียมีการแชร์ภาพแคปหน้าจอผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งเป็นข้าราชการตำแหน่งนักวิชาการตรวจสอบภายในปฏิบัติการ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเม็ก อำเภอหนองสองห้อง จังหวัดขอนแก่น โพสต์ภาพลงในกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่มหนึ่ง (ขอสงวนชื่อ) ที่มีนายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศเป็นผู้ดูแล ขณะที่เจ้าตัวถ่ายรูปชูสามนิ้ว ช่วงที่ผู้คนกำลังทำพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล เมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา อ้างว่าโดนบังคับให้ไปร่วมงาน แต่ไม่ได้ถวายพระพร เลยอยากขอวิธีการปฏิบัติตัวของข้าราชการในกลุ่มนี้ว่าต้องทำตัวแบบไหน ทำให้ชาวเน็ตที่พบเห็นไม่พอใจ และเข้าไปที่เฟซบุ๊กต้นสังกัดเพื่อทวงถามความรับผิดชอบ ขณะที่นายวสันต์ เปรมศรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองเม็ก ชี้แจงว่า ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และเจ้าตัวได้รับสารภาพว่าเป็นผู้โพสต์ข้อความจริง และสำนึกผิดต่อกรณีดังกล่าวแล้ว
อ่านประกอบ : ชาวเน็ตรับไม่ได้! ข้าราชการสาวแชะภาพ “ชู 3 นิ้ว” งานถวายพระพร อวด “กลุ่มปวิน” ทำทัวร์ลง อบต.ยับ
วันนี้ (7 ส.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า ข้าราชการสาวรายนี้ได้ลาออกจากตำแหน่งนักวิชาการตรวจสอบภายในปฏิบัติการ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองเม็ก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากบิดามารดาแนะนำให้ลาออกจากราชการเพื่อไปทำธุรกิจส่วนตัว โดยในโลกโซเชียลฯ ได้เผยแพร่บทสนทนาระหว่างเจ้าตัวกับเพื่อน ระบุว่าตนลาออกแล้ว คงให้เวลาช่วยรักษาจิตใจ รู้สึกโล่งมาก ขอยอมแพ้กับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะกลัว ซึ่งบิดาและมารดาอยากให้ลาออกมาพักใจที่บ้านแล้วค่อยหาหนทางเดินต่อ
ขณะที่เพื่อนของอดีตข้าราชการสาวคนดังกล่าวระบุว่า ข้าราชการสาวรายนี้ขอแค่มีที่ยืน และขอให้คนที่โทรศัพท์ไปข่มขู่ ส่งข้อความไปคุกคามพ่อแม่ หยุดการกระทำดังกล่าว ระบุว่าถ้าตัดเรื่องแนวคิดดังกล่าว (ต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์) แล้วมองว่าเขาเป็นคนที่เรารู้จัก ก็เป็นคนดีมีน้ำใจต่อผู้อื่น เป็นคนดีคนหนึ่ง ส่วนที่ใครหลายคนเกลียดชัง อาจเพราะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวก็เป็นได้ ขณะเดียวกันยังพูดถึง พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานองค์กรเก็บขยะแผ่นดินว่าไม่เคยโกรธในสิ่งที่กระทำ แต่สงสัยว่าทำไมถึงต้องไล่ล่าชีวิตขนาดนี้
“วันนี้น้องรับผลที่ตัวเองก่อแล้ว มีคำหนึ่งที่ผมฟังแล้วสะดุด คือ น้องบอกว่า น้องอยากเรียนปริญญาเอก แต่ไม่รู้จะเรียนไปทำไม น่าเสียดายคนเก่ง คนมีความสามารถที่จะได้ความรู้ความสามารถมาช่วยพัฒนาประเทศ น้องไปผิดแค่เรื่องเดียวจริงๆ น้องบอกผมว่าจะทำธุรกิจส่วนตัวต่อครับ น้องมีธุรกิจส่วนตัว เป็นครอบครัวที่เพียบพร้อมครอบครัวหนึ่งเลย เพราะฉะนั้นที่หลายคนบอกว่าที่น้องขอโทษ สำนึกผิดเพราะกลัวตกงาน ไม่ได้สำนึกผิดจริงๆ หรอก ผมว่าไม่ใช่หรอกครับ” เพื่อนของอดีตข้าราชการสาวกล่าว
