ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา โพสต์ข้อมูลจากการศึกษาวิวัฒนาการของไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันไม่พบสายพันธุ์ S (serine) ที่เคยพบใช่ช่วงแรกของการระบาด ปันจุบันจากการตรวจผู้ที่มาจากต่างประเทศพบสายพันธุ์อื่นแทน จึงทำให้เกิดคำถาม ถ้ามีการระบาดในระลอก 2 สายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย จะเป็นสายพันธุ์อะไร
จากกรณี ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ได้เคยออกมาให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับการวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสโควิด-19 จากเริ่มแรกประเทศจีน จะมี 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์เอส S (Serine) และสายพันธุ์ L (Leucine) สายพันธุ์ L แพร่กระจายมีลูกหลานได้มากกว่าสายพันธุ์ S โดยเฉพาะเมื่อออกนอกจีน ไปถึงยุโรปสายพันธุ์ L แพร่กระจายได้ดี ออกลูกหลานเป็นสายพันธุ์ G (Glycine) และสายพันธุ์ V (Valine) สายพันธุ์ G แพร่กระจายได้ง่าย ตามหลักวิวัฒนาการ จึงกระจายไปทั่วโลกอย่างกว้างขวาง มีลูกหลานของสายพันธุ์ G มาเป็นสายพันธุ์ GR (Arginine) และ GH (Histidine) นักวิทยาศาสตร์ ศึกษาพบว่าสายพันธุ์ G ระบาด ได้ง่ายแพร่กระจายได้เร็ว
ล่าสุด วันนี้ (7 ส.ค.) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโควิด-19 ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Yong Poovorawan” ออกมาเปิดเผยถึง สายพันธุ์ โควิด-19 ที่พบในประเทศไทย โดย “หมอยง” ได้ระบุข้อความว่า
“จากการศึกษาของศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก จุฬา โดยทีมของเรา ตั้งแต่มีการระบาดในระลอกแรก จนถึงปัจจุบัน ในศูนย์กักกันของรัฐ
การระบาดในระลอกแรก ในเดือนมีนาคมถึงเมษายน สายพันธุ์ที่พบส่วนใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ S (serine) สายพันธุ์นี้พบได้ทั้งในสนามมวย และสถานบันเทิง ความรุนแรงของโรคที่เกิดในทั้งสองแห่งจึงไม่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับอายุ และโรคประจำตัวของผู้ป่วยมากกว่า หลังจากนั้นก็ไม่พบสายพันธุ์นี้อีก
ไวรัสมีการวิวัฒนาการมาตลอด ตามรูปวิวัฒนาการที่แสดงให้ดู การตรวจเชื้อในสถานกักกันของรัฐ State Quarantine สายพันธุ์ โควิด-19 มาจากประเทศต่างๆ ดังแสดงในภาพ ไวรัส โควิด-19 สายพันธุ์ ที่พบจะเป็นสายพันธุ์ G (glycine) ที่มี 2 กลุ่ม คือ GH (histidine) และ GR (arginine) เป็นคนละสายพันธุ์ที่เคยระบาดในประเทศไทย ถ้ามีการระบาดในระลอก 2 สายพันธุ์ที่พบในประเทศไทย จะเป็นสายพันธุ์อะไร”
