ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา ออกมาให้ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับการวิวัฒนาการโควิด-19 ปัจจุบันเป็นสายพันธุ์ G (Glycine) ทำให้สามารถแพร่กระจายเชื้อได้มากยิ่งขึ้น แต่ไม่ต้องห่วง ไม่ได้ทำให้เชื้อรุนแรงขึ้น วัคชีนที่วิจัยกันอยู่สามารถป้องกันได้
จากกรณี ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาโพสต์ข้อความก่อนหน้านี้ ว่า ปัจจุบันโควิด-19 มีการวิวัฒนาการ ทำให้เชื้อสามารถแพร่กระจายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ไม่มีได้ทำให้โรครุนแรงขึ้น
ล่าสุด วันนี้ (3 ส.ค.) “หมอยง” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเรื่องราวดังกล่าวอีกครั้ง โดยได้อธิบายลึกลงไปในรายละเอียดของสายพันธุ์ไวรัสโควิด-19 ที่มีการวัฒนาการจนเรียกว่าเป็นสายพันธุ์ G ซึ่งหมอยงได้ระบุข้อความไว้ว่า
“โควิด 19 สายพันธุ์ G
สายพันธุ์ไวรัสที่เรียกว่าสายพันธุ์ G หรือมีการเปลี่ยนแปลงกรดอะมิโน จากเดิมคือ Aspartate (D) ในตำแหน่งที่ 614 ของ spike โปรตีน หรือเรียกว่า D614 ไปเป็น Glycine เรียกว่า G614 คือกรดอะมิโนของ spike หรือหนามแหลมที่ยื่นออกมา ในตำแหน่งที่ 614 จากสายพันธุ์เดิม ถ้าตรวจพบว่าเป็น Glycine ก็จะเรียกว่า G type การเปลี่ยนกรดอะมิโนตัวเดียว ไม่ได้ทำให้รูปร่าง ของโปรตีน spike เปลี่ยนแปลงไป แต่การเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งนี้ มีผลทำให้ ปลดปล่อยไวรัสหรือแพร่กระจายไวรัสออกมา ได้มากขึ้น (ดังแสดงในรูป ที่ลงพิมพ์ในวารสาร Cell)
พบว่าผู้ป่วยที่ติดเชื้อสายพันธุ์นี้ โรคไม่ได้รุนแรงขึ้น แต่มีการแพร่กระจายเชื้อได้มากขึ้น ทำให้ไวรัสสายพันธุ์นี้แพร่กระจายไปได้มากกว่า ตามหลักวิวัฒนาการ จึงเป็นสายพันธุ์ที่พบมากที่สุดในปัจจุบัน สายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้น้อยกว่า ก็จะถูกเบียดบังให้น้อยลงไป ระบบภูมิต้านทานของโปรตีนใน spike หรือหนามแหลมที่ยื่นออกมาเป็นส่วนที่กระตุ้นให้สร้างภูมิต้านทาน รูปร่างไม่ได้เปลี่ยนแปลง ภูมิต้านทานจากวัคซีน ที่ผลิตกันอยู่ ก็สามารถป้องกันได้ ไม่ว่าจะเป็น type ไหนของไวรัส ภาพข้างล่างนี้นำมาจากวารสาร Cell, Korber et al., 2020 Cell 182,1-16 (under the CC BY-NC-ND license)”
อ่านข่าวประกอบ - “หมอยง” โพสต์ให้ความรู้การวิวัฒนาการโควิด-19 เผย สายพันธุ์วิวัฒนาการ ไม่ได้ทำให้โรครุนแรงขึ้น