เปิดตัวแล้วสำหรับเพลง "มาว" ซิงเกิ้ลใหม่แนวกวนๆ ของเกิร์ลกรุ๊ป "เรดสปิน" (RedSpin)หลังจากว่างเว้นงานเพลงไปพักใหญ่ๆ ด้วยสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาด ซึ่งเพลงนี้พวกเธอได้ร่วมแต่งเนื้อร้อง ทำนอง รวมทั้งเนื้อหาในมิวสิควิดีโอ ซึ่ง RedSpin ถือเป็นอีกวงที่น่าสนใจไม่น้อยในวงการเพลงป็อปบ้านเรา ทั้งภาพลักษณ์ของสาวๆ การเต้น และเพลงที่ฮิตติดหูอย่าง "แฟนโซน" และ "แฟนในอนาคต"
ย้อนไปเมื่อสักปลาย ม.ค.ปี 2563 ผู้จัดการออนไลน์ ได้สัมภาษณ์ 6 สาว RedSpin เกิร์ลกรุ๊ปที่แต่ละคนมีตำแหน่งโดดเด่นไม่แพ้กัน ทั้ง "เปเป้-ชลภัสสรณ์ แสงยิ่งยงวัฒนา" ผู้เป็นหัวหน้าวง และร้องนำหลัก "ปอร์เช่-ณิชชาพัณณ์ สุขสวัสดิ์นำโชค" สาวสายเต้นของวง "พิมมี่-แพรพิไล คันธี" พี่ใหญ่สายร้อง "ฟ้าพราว-พราวประกายฟ้า แซ่ตัน" ที่ถนัดทั้งร้องและแร๊ป "แพรพั้นช์-อชิรญาณ์ สำราญพยอมสุข" สาวสายแร๊ปหลัก และ "ไดอารี่-ปีระกา วงศ์นิวัติขจร" น้องเล็กสายร้อง
ซึ่งกว่าที่จะได้เดบิวท์ (Debut) พวกเธอต้องผ่านการเป็นเด็กฝึกหัดในโครงการ BHX ของค่ายบริคเฮาส์ (BH Brick House) ภายใต้การดูแลของ "ก๊อป-ธานี วงศ์นิวัติขจร" ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานกรรมการบริหารค่าย หรือที่แฟนเพลงรู้จักในนาม "โปสการ์ด" ผู้แต่งเพลงฮิตจากค่ายกามิกาเซ่ และล่าสุดกับเพลง "รักติดไซเรน"
"พวกเราก็ผ่านการออดิชั่นจากทางค่าย BH เดิมมีอยู่ 8 คน ส่วน "ไดอารี" เข้ามาทีหลัง มีการเรียนร้อง แร๊ป เต้น และเรียนแต่งเพลง ทำให้มีเพลงเป็นของตัวเองด้วย" แพรพั้นช์ อชิรญาณ์ เล่าถึงความเป็นมาก่อนที่จะเป็น RedSpin
ซึ่งเพลงที่พวกเธอได้ร่วมร้องและแต่งก็มีทั้ง "แฟนในอนาคต" ของ "ฟ้าพราว" และ "ไดอารี่" ที่ได้รับความนิยมไปถึงหลัก 10 ล้านวิวในยูทูป จน RedSpin เอามาเกลาใหม่เป็นเวอร์ชั่นของตัวเอง , เพลงอยากตะโกนว่ารัก ที่ "เปเป้" ร่วมแต่ง , เพลงก็มาดิค้าบ ของ "แพรพั้นช์" และ "พิมมี่" , เพลงหมูของพี่ ของ "แพรพั้นช์" และ เพลงฮั่นแน่ (แซวเก่งนะเนี่ย) ของ "แพรพั้นช์" , "พิมมี่" และ "ปอร์เช่"
แม้ "ไดอารี่ ปีระกา" จะเป็นลูกสาวของผู้ก่อตั้งค่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในการเข้ามาเป็น 1 ในสมาชิกของ RedSpin "แพรพันช์ อชิรญาณ์" เล่าว่า "ไดอารี่" ต้องผ่านการออดิชั่นเหมือนกับพี่ๆ BHX มีการเข้าคลาสเข้าเรียนเหมือนกัน ซึ่งเธอก็รู้สึกโอเคมากๆ ที่ได้น้องเล็กมาร่วมวง
แต่ในมุมของพ่อกลับดีใจที่ "ไดอารี่ ปีระกา" กล้าร้องเพลงที่พ่อแต่งสักที
"จริงๆ ก็ไม่ได้ไม่กล้า แต่ว่ามันเขินมากกว่า (หัวเราะ) ที่ตัดสินใจเข้าวงเพราะมันเป็นความฝันหนูก็อยากทำ พอมีโอกาสก็เลยเข้ามาและพยายามทำให้เต็มที่" ไดอารี่ ปีระกา บอกความในใจ
หลังจากใช้เวลาใน BHX สักระยะ พวกเธอก็ได้ไปคัดเลือก ด้วยการโชว์ทักษะต่างๆ กับทางค่าย อาทิ การแร๊ป , ร้องเพลง และ เต้น มีการคัดจากตำแหน่งและคาแรคเตอร์ของแต่ละคนจนกลายมาเป็น 6 สาว RedSpin ซึ่งมีความหมายว่า สีแดง แสดงถึงความสดใส สปินคือการกระจายตัว รวมกันก็กลายเป็น "การกระจายความสดใส" ทุกคนต่างมีคาแรคเตอร์ที่เป็นตัวของตัวเอง และมีตำแหน่งในวงที่ชัดเจน ในแนวเพลงแบบ T-Pop เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรก "FanZone" เมื่อ 10 ธ.ค.2562 ซึ่งแต่งโดย "โปสการ์ด" ได้ทีม DemoLab ร่วมผลิตทำนอง และยังได้ "เอฟู-ณรงค์ศักดิ์ ศรีบรรฎาศักดิ์วัชรากรณ์" อดีต Executive Producer แห่งค่ายกามิกาเซ่ มาเรียบเรียงและเป็นโปรดิวเซอร์ให้
"เพลงนี้ถูกเขียนขึ้นมาจากคาแรคเตอร์ของพวกเราครูกอล์ฟ ตอนเขียนก็คิดว่าพวกเราจะทำยังไงถ้าเป็นคนพูดประโยคนี้ ก็คือเขียนออกมาจากตัวตนของพวกเราจริงๆ" พิมมี่ แพรพิไล
"แต่ละคนก็เป็นแบบนั้นในแต่ละท่อนของตัวเอง ตอนที่ได้ยินครั้งแรกก็ โอเคมากๆ (พูดพร้อมกัน) ตอนที่ได้ฟังก็รู้สึกตื่นเต้นมากๆ ที่จะได้ร้อง"แพรพันช์ อชิรญาณ์
"เหมือนไม่ได้ฟังเพลงแนวๆ นี้มานานแล้ว พอได้ฟังแล้วรู้สึก โอ๊ะ! ว้าว! (หัวเราะ) อันนี้จริงๆ มันเพราะมากสำหรับหนู นี่คือชอบจริงๆ"เปเป้ ชลภัสสรณ์
หลายคนฟังเพลงนี้แล้วก็รู้สึกเหมือนย้อนไปสู่ยุค "กามิกาเซ่" ตรงนี้ "แพรพันช์ อชิรญาณ์" บอกว่า ขอบคุณที่เอาพวกเราไปเปรียบเหมือนพี่ๆ กามิกาเซ่ ก็ดีใจมากๆ ส่วน "ฟ้าพราว พราวประกายฟ้า" ก็พูดสอดรับว่า ครั้งนึงพวกเราก็ฝันอยากจะเป็นเหมือนพี่ๆ กามิกาเซ่เช่นกัน
แต่แน่นอนว่า การได้ร่วมงานกับทีมทำเพลงของกามิกาเซ่ ซึ่งเป็นตำนานเพลงวัยรุ่นยุค 2000 ก็ดูพวกเธอน่าจะกดดันไม่น้อย
"ตอนแรกก็กดดันนะ เพราะว่าเพลงดีมากๆ พวกเราก็คิดว่าจะทำออกมาได้ดีมั้ย จะทำได้ไหม แต่พอเราได้ฝึกซ้อมกันมาพวกเราก็ตั้งใจกันมากๆ และพยายามทำทุกอย่างให้ออกมาดี ทางด้านผู้ใหญ่ พี่ๆ ทีมงานเบื้องหลังก็ช่วยสนับสนุนเราดีมากๆ ทำให้เราคลายเครียด ให้คำปรึกษาตลอด ก็เลยรู้สึกผ่อนคลาย ทำทุกอย่างออกมาได้สำเร็จ ทำออกมาได้ดี" แพรพันช์ อชิรญาณ์ บอกถึงปัญหาในช่วงแรก
และเพลง FanZone ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไม่น้อย ด้วยการมียอดชมทะลุล้านวิวในยูทูปภายในเวลาเดือนเดียว ซึ่งเป็นเพียงไม่กี่วงในบรรดาไอดอล-เกิร์ลกรุ๊ปที่เกิดขึ้นอย่างมากในช่วงปี 2562 พวกเธอบอกว่า ไม่ได้คิดเลยว่าจะมาถึงจุดนั้น
"คือพวกเราแค่ตั้งใจทำออกมาให้ดีที่สุด แล้วอยากให้ทุกคนมีความสุขและชื่นชอบกับสิ่งที่เราทำ แต่พอตอนนี้ (วันที่สัมภาษณ์ 28 ม.ค.63) ได้รู้ว่ากระแสตอบรับดีมากก็รู้สึกดีใจมากๆ ที่มีคนสนใจทั้งในและต่างประเทศ ทั้ง ญี่ปุ่น , อินโดนีเซีย และ เกาหลีใต้ ตอนก่อนที่จะถึงล้านวิว พวกเราซ้อมกันอยู่ก็จะมีคนคอยวิ่งไปดูว่ากี่วิวแล้ว แล้วก็แบบ เฮ้ย วันนี้เพิ่มขึ้นแล้วนะ 5 แสนแล้ว พรุ่งนี้ต้อง 6 แสนหรือเปล่า (หัวเราะ) พอถึงล้านแล้วก็ดีใจมากๆ ที่มีกระแสตอบรับที่ดี" แพรพันช์ อชิรญาณ์ เล่าถึงความคาดหวังของเพลงนี้ เช่นเดียวกับ "ฟ้าพราว พราวประกายฟ้า" ที่ลุ้นไม่แพ้กัน
"จริงๆ พวกเราลุ้นตั้งแต่วันที่มิวสิควิดีโอออก เราไม่ได้โฟกัสที่ยอดวิว แต่สิ่งที่พวกเราอยากเห็นคือกระแสตอบรับและคอมเม้นท์ที่ทุกคนให้มา เพราะว่าพวกเราก็อ่านอยู่ตลอด"
ส่วน "เปเป้ ชลภัสสรณ์" พูดสำทับเพียงว่า ตอนที่แตะ 1 แสนก็ดีใจแล้ว
ซึ่งต่อมา RedSpin ก็ได้ปล่อยเพลง "แฟนในอนาคต" เวอร์ชั่นสมบูรณ์ ต่อด้วย "เรียลดรีม" ซึ่งเกี่ยวกับความฝัน สำหรับบางคนอาจจะยังไม่กล้าที่จะทำความฝัน เป็นเพลงที่เหมือนมอบให้กับคนที่มีฝันอยากให้ทำตามฝันให้สำเร็จ และ "พลัสวัน" เพลงพิเศษ ที่ทำร่วมกับ "สภากาชาดไทย" เพื่อให้ทุกคนเพิ่มจำนวนเลือดด้วยการบริจาคเลือด โดยมีสโลแกนว่า เพิ่มจำนวนครั้ง เพิ่มชีวิต ก่อนที่จะปล่อยเพลง แล้วยังร่วมกับรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) นำเพลงแฟนในอนาคต มาแปลงเป็นเวอร์ชั่นป้องกันโรคโควิด-19 ด้วย และล่าสุดกับเพลง "มาว"
"พวกเราทั้ง 6 คนมีความฝันที่เหมือนกัน เราก็เคยคุยกันเหมือนกันว่าทำไมถึงเลือกที่จะมาอยู่ตรงนี้ อยู่วงเดียวกันและเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่คุยกัน เปิดใจกัน ทำเพลงที่ใส่ตัวตนของพวกเราเข้าไปจริงๆ ก็เพราะว่าพวกเราอยากทำมันจริงๆ" ฟ้าพราว พราวประกายฟ้า
"ที่พวกเรามาอยู่ก็เพราะค่ายให้โอกาสในการแสดงความเป็นตัวตนของเราในผลงานของตัวเอง เช่น อยากทำเพลงแบบนี้เราก็ลองปรึกษาเขาว่าทำดีไหม เขาก็ให้คำปรึกษาที่ดี เราก็โอเค ก็ชอบการทำงานแบบนี้" พิมมี่ แพรพิไล
"ค่ายให้โอกาสพวกเราในการทำเพลง การออกความคิดต่างๆ และให้ประสบการณ์กับพวกเรามากๆ บางคนเริ่มจากศูนย์ค่ายก็เริ่มฝึกฝนพัฒนามาเรื่อยๆ ทำให้เรามีทุกวันนี้ได้ ถ้าไม่มีค่ายก็คงไม่มีเรดสปิน คงไม่ได้เดบิวท์ ไม่ได้เจอกับทุกๆ คนตั้งแต่งานแรกจนถึงทุกวันนี้และตลอดไป" แพรพันช์ อชิรญาณ์
"เราก็เหมือนครอบครัวมากๆ ที่ขาดไม่ได้แล้วตอนนี้" เปเป้ ชลภัสสรณ์
และด้วยความเป็นเกิร์ลกรุ๊ปที่มีตำแหน่งหน้าที่ในวงชัดเจนไม่ต้องสับสลับเปลี่ยนกันเหมือนกับวงไอดอล นั่นทำให้ "ฟ้าพราว พราวประกายฟ้า" ยอมรับว่า เธอไม่คิดที่อยากจะสลับตำแหน่งกับใคร เพราะก็มองว่าตำแหน่งที่เพื่อนได้รับก็เหมาะสมจริงๆ เช่นเดียวกับ "แพรพันช์ อชิรญาณ์" ที่รู้สึกว่า พวกเรามีตำแหน่งเป็นของตัวเอง เลยไม่ได้อยากจะได้จุดนั้นจุดนี้ เพราะพวกเราเด่นในตัวของมันเอง
"พวกเราก็เริ่มมีแฟนคลับตั้งแต่เป็น BHX จนวันนี้ได้เดบิวท์ ก็ขอบคุณทุกๆ คน ที่อยู่กับพวกเรา พวกเราสัญญาว่าจะมีเพลงเพราะๆ มาให้ทุกคนฟังและอยากให้ทุกคนเติบโตไปพร้อมกับพวกเรา อยู่เป็นเรดดี้ของเรดสปินตลอดไปนะ"
นั่นคือสิ่งที่พวกเธออยากบอกกับ "เรดดี้" (ชื่อเรียกแฟนคลับ) ทุกๆ คน