วงการศิลปินระอุ หลัง “หงา คาราวาน” โพสต์บทกวีเตือนเยาวชนอย่าทะนงตนคนรุ่นใหม่ “เวียง-วชิระ บัวสนธ์” เดือดทวงบุญคุณเคยรวบรวมงานเขียนพิมพ์เผยแพร่จนได้เป็นศิลปินแห่งชาติ แต่กลับลบผลงานตัวเองด้วยตีน เสียใจแทนผู้อ่านที่ถูกต้ม ด้านปรมาจารย์เพลงเพื่อชีวิตตอบกลับ ยังชื่นชมผลงานตัวเองเสมอ ตีนพี่น้องด้วยกันต่างหากที่เหยียบย่ำ ย้ำขอทำงานต่อไป ใครจะด่าต่อหน้าหรือลับหลังก็ตามสบาย
หลังจากที่เมื่อวันที่ 28 ก.ค.นายสุรชัย จันทิมาธร หรือ “หงา คาราวาน” ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ประจำปี 2553 ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว สุรชัย จันทิมาธร เป็นบทกวี เนื้อความว่า “อย่าเย่อหยิ่งทะนงตนคนรุ่นใหม่ ไม่กี่ปีผ่านไปมันก็เก่า ความเป็นคนที่แท้อยู่แก่เรา จะแก่เฒ่าสาวหนุ่มก็กลุ่มคน” ซึ่งการโพสต์ข้อความดังกล่าวเป็นการแสดงจุดยืนของนายสุรชัยต่อการชุมนุมของกลุ่มเยาวชนกลุ่มต่างๆ ที่กำลังมีการปลุกกระแสให้เกิดขึ้นทั่วประเทศในขณะนี้
ต่อมา วันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา นายเวียง-วชิระ บัวสนธ์ บรรณาธิการสำนักพิมพ์สามัญชน ซึ่งมีจุดยืนสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มเยาวชน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว https://www.facebook.com/profile.php?id=100000015067496 Vieng-Vachira Buason ว่า “สารภาพ พูดกันอย่างตรงไปตรงมา ก่อนหน้าพุทธศักราช 2530 ผลงานวรรณกรรมของนักเขียนท่านหนึ่งได้ถูกสังคมไทยหลงลืมไปแล้วแทบจะสิ้นเชิง
ชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งรับบทเป็นบรรณาธิการสำนักพิมพ์กำแพงคนแรกนั่นแหละที่เป็นคนรื้อฟื้นนำมันกลับมาพิมพ์ใหม่อย่างค่อนข้างเป็นระบบจนครบทุกเล่ม อย่าว่าแต่ขวนขวายไปตามเก็บรวบรวมชิ้นงานสมัยที่เคยปรากฏในจุลสารโรเนียวเมื่อครั้งที่ท่านผู้นี้เข้าป่าและตามที่อื่นๆ อีกต่างหาก ก่อนนำมารวมเล่มในนามสำนักพิมพ์สามัญชน ยังไม่พูดถึงว่าหมั่นยุยงส่งเสริมให้ผลิตผลงานใหม่ๆ หลังจากนั้น กระทั่งรวมมาพิมพ์เป็นเล่มในท้ายที่สุด
ทั้งหมดนี้ปฏิเสธไม่ได้หรอกว่า มันส่งผลให้นักเขียนท่านนี้กลายเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ในอีกกว่าสองทศวรรษถัดมา นับแต่มีการรื้อฟื้นคืนชีวิตดังกล่าว
บรรณาธิการสามัญชนไม่เคยเสียใจกับการทำงานทำการดังกล่าว เพราะปฏิเสธไม่ได้อีกเช่นกันว่าผลงานวรรณกรรมของท่านผู้นี้ก็อยู่ในข่ายที่ถือได้ว่ามีคุณภาพโดยแท้
พูดมาทั้งหมดนี้ หาใช่ลำเลิกเบิกประจานแต่ประการใด เพียงแค่อยากจะเรียนให้ทราบตามประสาพี่น้อง หลังจากเฝ้ามองมามากครั้งหลายหน ไม่ต่ำกว่าห้าหกปีมานี้ แล้วพบว่า สิ่งที่พี่เชื้อท่านนี้ได้สร้างไว้โดยเฉพาะในแง่บทเพลงที่ทรงอิทธิพลต่อคนหนุ่มคนสาวรุ่นใหม่มาตั้งแต่สมัยหลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคมนั้น... ปัจจุบันยิ่งแจ่มชัดแล้วว่า ‘ตัวพี่เองนั่นแหละครับที่ลบมันด้วยตีน!’
“สารภาพตามตรง บรรณาธิการสามัญชนเสียใจ-เศร้าใจอย่างที่สุดที่เห็นพี่หงา คาราวาน ทรยศต่อความคิดความอ่านในวันวานของตัวเองได้ถึงเพียงนี้! และขออภัยท่านผู้อ่านจำนวนไม่น้อยที่ต้องพลอย ‘ถูกต้ม’ ไปด้วย ขออภัยจริงๆ ครับ” นายเวียง-วชิระ ระบุ
ต่อมา นายสุรชัย จันทิมาธร ได้โพสต์ข้อความตอบที่ท้ายโพสต์ของนายเวียง-วชิระ ว่า “ขอบคุณนะเวียงสำหรับสิ่งที่ผ่านมา เราเองก็ไม่ลืมเหมือนกัน สำหรับงานเพลงที่เวียงกล่าวถึงมันก็เป็นอีกทางหนึ่งที่เราได้ลงมือทำอย่างไม่เคยหยุดยั้ง แม้ปัจจุบันมันจะกลายเป็นสวนหย่อมที่ร้างรก แต่หลายคนก็ได้ชื่นชมมันอยู่ ตัวเราเองก็ไม่เคยเอาตีนไปลบไปเหยียบ ยกเว้นตีนพี่น้องผองเพื่อนที่เขาเดินผ่านเห็นว่ามันเกะกะทางไม่มีประโยชน์ นั่นก็เป็นเรื่องที่ปรากฏมาและเป็นไป เรายังทำงานอยู่เหมือนเดิม แก่เฒ่าตามวันเวลา และไม่ได้เสียใจอะไรมากมาย ใครจะคิดจะด่าต่อหน้าหรือลับหลังก็ตามสบาย และจะไม่ตอบโต้ เพราะรู้สึกไม่มีประโยชน์และเสียเวลา ที่ผ่านมาก็ทำได้แค่นั้นแหละ และข้างหน้าที่มีเวลาอยู่ก็คงจะทำงานไปเรื่อยๆ”
หลังจากนั้น นายเวียง-วชิระ ได้ตอบกลับว่า “ผมจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะลึกๆ แล้วยังเห็นแก่ความเป็นพี่เป็นน้องของเรา ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา แม้เพื่อนร่วมวงจะนินทาด่าทอพี่อย่างไร ผมก็เลือกที่จะนิ่งเฉย อย่าว่าแต่เคยออกปากมากกว่าหนึ่งหน ‘ช่วยคุยเรื่องอื่นเถอะวะ ชั่วๆ ดีๆ ผมก็ยังคงรักพี่หงา ถึงแม้แกจะคิดอ่านไม่เข้าท่า ถือเสียว่าเราขอเถอะ ขออนุญาตแนะนำด้วยความรักความปรารถนาดีสักข้อเถอะนะครับ ถัดจากนี้ พี่เพลาๆ เหน็บแนมคนหนุ่มคนสาวหรือคนรุ่นใหม่ หันไปตั้งอกตั้งใจขีดเขียนเรื่องสั้นหรือนิยาย น่าจะดีกว่า ผมยังไม่สิ้นหวังกับพี่ครับ แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับตัวพี่เองนั่นแหละ”