สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก โพสต์เตือนแรงงานไทยในอุซเบกิสถาน มีการวางแผนเผาแคมป์คนงานเพื่อกดดันขอกลับประเทศ หนีโควิด-19 ลั่นถ้าทำจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้กลับ เพราะต้องติดคุก 10-15 ปี วอนอดทนก่อน ตอนนี้สนามบินอุซเบกิสถานยังปิดทำการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอย่างสุดความสามารถที่จะพากลับไทย
วันที่ 27 ก.ค. 63 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก ได้โพสต์เพจเฟซบุ๊ก ว่า ...
เรียน พี่น้องชาวไทยและแรงงานไทยในอุซเบกิสถาน
ด้วยสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทราบมาว่า มีคนไทยบางคนในกลุ่มของท่านกำลังวางแผนประท้วง โดยจะเผาแคมป์คนงาน เพื่อหวังจะออกสื่อ ไลฟ์สด เพื่อกดดันให้ท่านได้กลับประเทศไทยเร็วขึ้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียนเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ว่า สิ่งที่ท่านคิดนั้นผิด และท่านจะเป็นคนสุดท้ายที่ได้เดินทางกลับไทย ด้วยจะต้องถูกจับดำเนินคดีและจำคุกในประเทศอุซเบกิสถาน กว่าจะได้เดินทางกลับไทยอาจเป็นเวลา 10 ปี หรือ 15 ปี ดังนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเตือนท่านด้วยความห่วงใยที่มีเสมอมา ขอให้ท่านมีความอดทนและเรียนรู้ที่จะรอเพื่อจะได้กลับบ้าน แต่ท่านจะต้องทำตามระเบียบที่ต่างประเทศกำหนดไว้ อย่าได้ทำตามใจตนเอง มิฉะนั้น ทุกอย่างที่กำลังเดินหน้าอาจกลับต้องมาเริ่มที่จุดเริ่มต้นใหม่ เมื่อรัฐบาลอุซเบกิสถานปฏิเสธคำขอของสถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ขออนุญาตพาท่านเดินทางกลับ เพราะต้องการดำเนินคดีตามกฎหมายกับท่านก่อน
คนไทยทุกคนไม่ว่าจะอยู่ที่แห่งหนใด ท่านคือตัวแทนของประเทศไทยเสมอ หากท่านทำอะไรไปในทางที่ดี ก็จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติ หากท่านตัดสินใจทำอะไรในทางไม่ดี ก็จะทำให้ประเทศไทยเสียเครดิตกับต่างชาติและต้องใช้เวลากอบกู้ชื่อเสียงอีกนับร้อยปี สิ่งที่ท่านคิดจะเผาหรือทำลายแคมป์คนงาน เพื่อระบายอารมณ์หรือประท้วงกับการที่ยังไม่ได้เดินทางกลับไทยนั้น ขอเรียนว่า ท่านไม่ได้เพียงแต่ทำลายบ้านเมืองคนอื่น ไม่ได้ทำลาย COVID-19 แต่ท่านกำลังจะทำลายตัวเอง และที่สำคัญที่สุดท่านกำลังทำลายประเทศไทย เพื่อนท่านจะได้กลับบ้านแต่ท่านจะไม่ได้เดินทางกลับ ท่านจะต้องถูกจับและถูกจำคุกในฐานะผู้วางเพลิง ชีวิตท่านคงจะอยู่ในเรือนจำและมีชีวิตที่ลำบากกว่าปัจจุบันอย่างแน่แท้
พี่น้องแรงงานไทยทุกท่านโปรดเข้าใจด้วยว่า สนามบินนานาชาติของอุซเบกิสถานยังคงปิดทำการอยู่ ในขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอย่างสุดความสามารถที่จะนำท่านกลับประเทศไทย ถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมายแต่เราก็มิได้ย่อท้อในการหาทางที่ดีที่สุด ปลอดภัยที่สุด และประหยัดที่สุดสำหรับท่านที่ต้องการเดินทางออกจากประเทศอุซเบกิสถาน
สุดท้ายนี้ ขอเรียนวิงวอนให้ทุกท่าน หากไม่เห็นแก่คนอื่นแล้ว ท่านควรเห็นแก่ตัวเองบ้าง อย่าตัดโอกาสตัวท่านเองที่จะได้เดินทางไปพบครอบครัวของท่าน คนที่ท่านรัก ถึงแม้จะต้องรออีกสักพักแต่เราจะหาทางพาท่านกลับ ขอเพียงท่านมีความอดทน ระวังรักษาตนเอง สถานเอกอัครราชทูตฯ จะส่งข่าวให้ท่านทราบเป็นระยะๆ
ด้วยความปรารถนาดีที่มีเสมอมา
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมอสโก
27 กรกฎาคม 2563