สาวหล่อโพสต์ขอความเป็นธรรม หลังนำเงินฝากกับธนาคาร อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 1 ล้านบาท นำไปจากบ้านเป็นเงินสด 700,000 บาท และกดจากตู้ธนาคารในห้างอีก 300,000 บาท สุดท้ายนำฝากพนักงานระบุยอดเงินหายไป 29,000 บาท ถามหาความรับผิดชอบธนาคารพบพิรุธหลายอย่าง ล่าสุด ระบุอยู่ระหว่างตรวจสอบ
เมื่อวันที่ (23 ก.ค.) เฟซบุ๊ก “Ben Ben” ได้โพสต์ร้องทุกข์หลังนำเงินไปฝากกับธนาคารแห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี แต่มียอดเงินหายไป 29,000 บาท โดยตั้งข้อสังเกตว่าทางธนาคารมีพิรุธหลายอย่าง จึงอยากขอความเป็นธรรม โดยเผยรายละเอียดว่า “ได้นำเงินจำนวน 1,000,000 บาท ไปฝากที่ธนาคารแห่งหนึ่งในห้างแห่งหนึ่งใน อ.ศรีราชา โดยมีการนำเงินสดจากบ้านไปเป็นจำนวน 700,000 บาท เรามั่นใจมากๆ ว่า ได้นับครบทุกบาท ไม่มีขาดแน่นอน และมีการไปถอนเงินหน้าตู้ของ ธนาคารไทยพาณิชย์อีกเป็นจำนวน 300,000 บาท รวมทั้งหมดเป็นเงิน 1,000,000 บาทถ้วน โดยการถอนหน้าตู้ของ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้มีเจ้าหน้าที่ยืนอยู่ด้วย เนื่องจากได้ขอให้ช่วยเปลี่ยนแปลงวงเงินการถอน จากนั้นถอนเงินเสร็จ ก็เดินไปนำเงินไปฝากเลย โดยไม่ได้แวะที่ไหน โดยแบงก์ที่ถอนกับแบงก์ที่ฝาก อยู่ในห้างเดียวกัน แต่แค่อยู่คนละชั้นกัน พอไปถึงแบงก์ที่จะเอาเงินไปฝากได้หยิบเงินที่พึ่งถอนมาให้ก่อนในครั้งแรก แล้วก็ทยอยหยิบเงินอีก 700,000 บาท ที่นับมาจากบ้าน เงินที่นำมาจากบ้านมัดไว้เป็นปึก ปึกละ 100,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้นับเงินทีละกอง แต่ได้แกะเงินที่มัดำไปรวมกัน แล้วให้เครื่องโปรยเงินออกมา
ในช่วงนั้นเจ้าหน้าที่มีการหยิบเงินเข้าออกหลายครั้ง และได้นำเงิน วางไว้ 3 จุด คือ 1. จุดที่เครื่องโปรยเงิน 2. เอาเงินบางส่วนไว้ข้างคีย์บอร์ดที่โต๊ะทำงาน 3. ได้นำเงินบางส่วนใส่เครื่องนับเงินด้านหลัง บอกเลยในตอนนั้นตนเองดูตามไม่ทัน เพราะมันหลายจุด และไม่ได้แจ้งให้นับเงินพร้อมกัน เหมือนของแบงก์อื่น คือทำทุกอย่างพร้อมๆ กัน พอเขานับเงินเสร็จ สุดท้ายแจ้งว่ามีเงินอยู่ 971,000 บาท หายไป 29,000 บาท พอแจ้งมาแบบนั้น ตนเองทักท้วงทันทีว่าขอดูกล้องวงจรปิด ซึ่งพนักงานรับเรื่องจนเวลาล่วงเลยไปนานมาก ตนเองจึงทวงถามอีกครั้งว่ากล้องวงจรปิดเป็นอย่างไรบ้าง พนักงานจึงแจ้งกลับมาว่าต้องนำหนังสือแจ้งความมา ถึงจะสามารถให้ดูได้ แต่เบื้องต้นทางพนักงานได้ดูแล้ว และไม่มีอะไร
หลังจากนั้น ตนก็รีบไปแจ้งความ เพื่อเอาใบแจ้งความมาขอดูกล้องวงจรปิด ปรากฏว่า พนักงานให้ไปที่ธนาคารไทยพาณิชย์อีกครั้ง เพื่อให้ขอดูว่าเงินที่กดมาครบไหม ตกหล่นตรงนั้นรึเปล่า ทางเราได้ติดต่อไปยัง ธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อขอดูกล้องพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์เชิญเราให้เข้าไปนั่งดูกล้องวงจรปิดย้อนหลัง ในห้อง Server โดยตรวจสอบแล้วได้เงินมาครบ จำนวน 300,000 บาท ไม่ได้ติดค้างตรงนั้นและไม่ได้ตกหล่นตรงนั้น จึงได้ไปแจ้งว่าได้ไปตรวจเช็กมาแล้วไม่มีเงินติดค้างใดๆ ดังนั้น จึงได้ยื่นใบบันทึกประจำวันเพื่อขอดูกล้อง หลังจากนั้น ไม่เกิน 1 นาที เจ้าหน้าที่ให้ดูคลิปย้อนหลังจากมือถือ โดยคาดว่าคลิปดังกล่าวได้มีการเตรียมการไว้ให้แล้ว และอาจถูกถูกตัดต่อจึงให้ดูผ่านมือถือ และคลิปนั้นไม่มีความชัดเจน จึงจะขอดูกล้องอีกตัวเพิ่ม แต่ทางเจ้าหน้าที่ระบุว่ากล้องตัวนี้ชัดที่สุดแล้ว
ประเด็นที่ติดใจ
1. ถ้าทางธนาคารบริสุทธิ์ใจจริงๆ ทำไมไม่ให้เราเข้าไปดูในคอมพิวเตอร์ เหมือนทาง ธนาคารไทยพาณิชย์ที่เชิญเราเข้าไปแล้วดูไปพร้อมๆ กัน
2. ทำไมให้ดูแต่กล้องตัวเดียว ทั้งๆ ที่ธนาคารมีกล้องตั้งหลายตัว
3. ทำไมให้นั่งรอนานเป็นชั่วโมง ถึงจะมาแจ้ง ว่าต้องไปแจ้งความถึงจะสามารถดูกล้องได้ (ระหว่างนั้นทำอะไร)
4. เวลาให้ดูคลิปก็มีการตัดคลิปจากกล้องเอามาให้ดูในมือถือ (แบบนี้เราจะมันใจได้ไงว่าไม่มีการตัดคลิปบางส่วนออก)
5. และอีกประเด็นที่เราสงสัยที่สุด คือ ปกติ ถ้าเรานำเงินไปฝาก พนักงานจะใช้เครื่องนับเงินทีละ 100,000 (ทีละปึก) แต่พนักงานคนนี้ นำเงินทั้งหมดมารวมกันและใช้เครื่องนับเงิน และไม่มีความชัดเจนระหว่างการนับเงิน มีการนำเงินเราวางไว้หลายจุด ทำให้เรามองตามไม่ทัน เราจึงรู้สึกเคลือบแคลงใจในจุดนี้
โดย ผู้จัดการธนาคารได้ระบุว่า พนักงานคนดังกล่าวเขามาจากต่างจังหวัดมาทำงาน ไม่ทำลายอาชีพตนเองเองแบบนั้นหรอก
ทั้งนี้ ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจโพสต์นี้มากมาย และแนะนำให้เจ้าของโพสต์เอาเรื่องธนาคารดังกล่าวให้ถึงที่สุด ชี้พนักงานและผู้จัดการธนาคารไร้ความรับผิดชอบพบพิรุธหลายข้อ และควรนับเงินต่อหน้าลูกค้าทั้งหมด โดยโพสต์มียอดกดไลก์ 1,000 ครั้ง และแชร์ไปกว่า 640 ครั้งด้วยกัน