เพจรับน้องฯ แฉข้อความสนทนารุ่นน้องปีหนึ่งฉะรุ่นพี่กลับหลังออกคำสั่งให้ทำป้ายชื่อแขวนคอขู่หากไม่แขวนป้ายชื่อ จะโดนลงโทษทั้งชั้นปี ทำให้ปีหนึ่งรายหนึ่งไม่พอใจ ถามหาเหตุผลที่ต้องแขวนป้าย รุ่นพี่อ้างต้องการจำชื่อรุ่นน้องได้ สุดท้ายน้องปีหนึ่งสอนรุ่นพี่กลับ ไม่ควรออกคำสั่งไร้สาระ ที่เป็นภาระน้องปีหนึ่ง และควรคิดวิธีจำชื่อเช่น เดินเข้ามาถามหรือถ่ายรูปไว้
เมื่อวันที่ 17 ก.ค. เพจ”รับน้องสร้างสรรค์ระดับโคตรมหากาฬ” ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่าหลังพบมีรุ่นพี่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้ออกคำสั่งให้รุ่นน้องปี 1 ทุกคน ทำป้ายมาห้อยคอเป็นชื่อของรุ่นน้อง แต่มีรุ่นน้องปี 1 รายหนึ่งได้ถามหาเหตุผลที่ต้องแขวนป้ายเพราะเป็นเรื่องที่เกะกะและไม่จำเป็น ซึ่งรุ่นพี่ได้ตอบว่า ที่ให้ทำเพื่อให้รุ่นพี่สามารถจำชื่อน้องได้ ทำให้รุ่นน้องปีหนึ่งรายดังกล่าวตอบโต้และสั่งสอนรุ่นพี่ว่ามีวิธีจำมากมายที่ไม่เป็นภาระปี 1 พร้อมขู่หากยังมีคำสั่งให้ทำอะไรที่ไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษาหรือไปลงโทษเพื่อนๆ โดยที่ตนเองคนเดียวต่อต้าน จะทำร้ายร่างกายกลับรุ่นพี่รายดังกล่าวกลับบ้าง
โดยมีเนื้อหาข้อความการสนทนาว่า
รุ่นพี่ : ตั้งแต่วันจันทร์หน้า ถ้าพี่เห็นใครไม่แขวนป้ายชื่อ โดนลงโทษทั้งชั้นปีนะคะ อย่าหาว่าพี่ค่ะ น้องต้องแขวนตลอดเวลาที่อยู่ใน
มหาวิทยาลัยนะคะ
รุ่นน้อง : พอดีผมไม่อยากแขวนครับ ทำไมต้องแขวนด้วยพี่ ป้ายก็ใหญ่ เกะกะอีก
รุ่นพี่ : ที่พี่ให้น้องแขวนป้ายชื่อ เพราะพี่จะได้รู้ชื่อน้องไงคะ น้องจะได้จำชื่อเพื่อนๆได้ค่ะ แค่แขวนป้ายชื่อแค่นี้ คุณอย่าทำตัวมีปัญหาได้ไหมคะ
รุ่นน้อง : ไม่ได้ครับพี่ แค่แขวนป้ายชื่อ มันไม่ใช่แค่แขวนไงพี่ แล้วผมไม่อยากแขวนไงพี่ มันเกะกะ ถ้าผมไม่อยากแขวน แล้วโดนพี่บังคับให้แขวน มันก็เป็นปัญหาของผมไงพี่ ถ้าพี่ไม่อยากให้ผมมีปัญหา พี่ก็เลิกสร้างปัญหาให้ผมสิครับ แล้วถ้าพี่อยากรู้จัก
ชื่อน้อง มันก็เป็นปัญหาที่พี่ต้องแก้ที่ตัวพี่ แก้ง่ายๆคือพี่หาวิธีรู้จักชื่อน้องโดยที่พี่ไม่ต้องสร้างภาระให้น้องสิครับ พี่มีปากใช่ไหมครับ พี่ก็เดินเข้ามาถามสิครับว่าน้องชื่ออะไร แล้วถ้าพี่อยากจำชื่อน้องได้ พี่ก็ถามแล้วก็ถ่ายรูปไว้สิครับ พี่หาวิธีจำชื่อน้องให้ได้โดยไม่ต้องสร้างปัญหาให้น้องสิครับ
จริงไหมครับ ผมคิดว่าพี่คงหาวิธีฉลาดในการจำชื่อน้องโดยที่ไม่สร้างปัญหาบ้าบอให้น้องนะครับ ส่วนถ้าผมอยากจะจำชื่อเพื่อน ผมก็หาวิธีจำของผมเองครับ ถ้าผมไม่อยากรู้จักใคร ผมก็ไม่จำชื่อคนนั้นครับ เว้นเสียแต่ว่าเจอหน้สมันบ่อยๆ เดี๋ยวผมก็จำได้เอง แล้วถ้าพี่อยากรีบจำชื่อน้อง ผมแนะนำง่ายๆเลยนะพี่ มันไม่ใช่เรื่องของผม มันคือ
เรื่องของพี่ เคป่ะ อายุปีก็มากกว่าผมตั้งปีสองปี พี่น่าจะคิดวิธีจำชื่อน้องให้มันดูฉลาดกว่าการไปบังคับให้น้องแขวนป้ายนะครับ แต่ถ้าพี่คิดเรื่องง่ายๆแค่นี้ไม่ได้ ผมว่าพี่กับเพื่อนๆพี่นี่แม่งโง่ฉิบหาย เคนะพี่ ผมไม่แขวน แล้วถ้าถึงวันนั้น มีการลงโทษอะไรเพื่อนๆผม โดยที่พี่บอกว่าเพราะผมไม่แขวนเพียงคนเดียว ผมต่อยพี่ทุกคนแน่ครับ
พี่ทำให้เพื่อนเกลียดผมกี่คน ผมต่อยพี่ทุกคนตามจำนวนคนที่เกลียดผมครับ ผู้หญิงก็ผู้หญิงนะครับอย่าเอามาอ้าง ถ้าการใช้เหตุผลของผม มันไม่สามารถทำให้พี่เลิกสั่งอะไรโง่ๆกับน้องได้ ผมว่าการใช้กำลังก็คงเหมาะกับพวกพี่นะครับ พี่ก็เห็นประวัติผมแล้วนะครับว่าผมได้โควต้าอะไรมาเรียนคณะนี้ ผมรำคาญพี่มาหลายวันแล้วนะครับ
เดี๋ยวให้น้องแต่งหน้าแปลกๆ แล้วเต้นเพื่อถ่ายคลิปไปง้อให้พี่รหัสรับเข้าสาย เดี๋ยวก็สั่งโน่นสั่งนี่ ถ้าพวกพี่ๆว่างมากนักก็เอาเวลาไปหาอะไรที่มันดูฉลาดทำนะครับ ไม่ใช่เอาเวลาว่างมาเสือกเรื่องส่วนตัว มาบงการโน่นนี่นั่นน้อง แต่ถ้าคนไหนว่าง
จัดจนไม่รู้จะทำอะไรพี่ไปเขียนใบลาออกเถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระพ่อแม่กับพวกปี1 จบนะ”
ทั้งนี้ หลังบทสนทนาดังกล่าวถูกเผยแพร่ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชม มากมาย โดยระบุว่าเด็กนักศึกษาทุกคนมีบัตรประจำตัวและบัตรประชาชน และควรให้เกียรติกันทั้งรุ่นน้องรุ่นพี่ ควรเอ่ยปากถามชื่อด้วยถ้ยคำสุภาพมากกว่าการออกคำสั่งที่ทำให้ชวนอึดอัดใจ และควรยกเลิกพฤติกรรมการออกคำสั่งทุกอย่างในกิจกรรมรับน้อง แต่มีอีกหลายความคิดเห็นที่มองต่าง ชี้ว่าเป็นเรื่องของการเคารพรุ่นพี่รุ่นร้องสร้างความสามัคคีในมหาวิทยาลัย โดยโพสต์ดังกล่าวมียอดกดไลก์ 4,100 ครั้ง และแชร์ไปกว่า 1,600 ครั้งด้วยกัน