xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวง-พระราชินี พระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย เตรียมพร้อมรับมือการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสอง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย จำนวน 13 คัน เพื่อกระทรวงสาธารณสุขนำไปใช้ประโยชน์ เสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ได้อย่างทันท่วงที

วันนี้ (6 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.01 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย จำนวน 13 คัน เพื่อกระทรวงสาธารณสุขนำไปใช้ประโยชน์

ณ สำนักงานเขตสุขภาพ ที่ 1-12 ทั่วประเทศ และเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่กระทรวงสาธารณสุข ดูแลรับผิดชอบเพื่อใช้เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ในการเก็บ ตัวอย่างโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) ให้แก่ประชาชนเชิงรุก ในโรงเรียน วัด ชุมชนแออัดและกลุ่มอาชีพเสี่ยงทั่วประเทศ อีกทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังและ ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ


พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกล และทรงคำนึงถึงความยากลำบากของราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารและในพื้นที่แออัดให้สามารถเข้ารับการบริการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะได้เข้ารับการรักษาอย่างปลอดภัย อันเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังและ ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 อีกทั้ง ทรงห่วงใยบุคลากรทางการแพทย์ในการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัตการได้อย่างปลอดภัย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(COVID-19) อย่างใกล้ชิด ทรงทราบว่าหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น โรงพยาบาลในประเทศไทยจะมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอ ก่อนหน้านี้จึงได้ทรงจัดหาพระราชทานให้แก่โรงพยาบาลต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมรับมือกับโรคโควิด-19 อันจะเป็นประโยชน์แก่การให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนต่อไป และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทาน ห้องตรวจหาเชื้อ (Modlar Swab Unit)"อันเป็นหนึ่งในโครงการเครื่องช่วยหายใจและเครื่องมือแพทย์พระราชทานให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ

อีกทั้งรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ยังเป็นการเสริมความพร้อมหากมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ได้อย่างทันท่วงที ด้วยทรงรับเป็นพระราชภาระในการดูแลทุกข์สุขของราษฎรในพระองค์ทุกหมู่เหล่า ดังพระราชปณิธานที่จะสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อให้ประเทศชาติมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุข


สำหรับรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการปรับปรุงรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยจำนวน 1 คันเพื่อให้รถต้นแบบมีความสมบูรณ์และเป็นต้นแบบในการผลิตรถคันต่อไป โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ประสานกับบริษัท แอท-ยีนส์ จากัด เพื่อปรับปรุงรถตรวจโรคติดเชื้อ ชีวนิรภัย โดยมีบริษัท พัลซ ไซเอนซ์ จากัด เป็นผู้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะของกระทรวงสาธารณสุข เพิ่มอีก 12 คัน รวมเป็น 13 คัน ซึ่งอุปกรณ์ภายในรถมีประสิทธิภาพในการตรวจโรค และมีระบบสารสนเทศที่ทันสมัย ภายในห้องเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยจัดเป็นห้องปลอดเชื้อ ระดับ 1,000 ประกอบด้วยระบบปรับอากาศเพื่อควบคุมความเย็น ระบบกรองอากาศจากภายนอกเพื่อให้บริสุทธิ์ ระบบและอุปกรณ์ควบคุมความดันภายในห้องให้เป็นบวกตลอดเวลา รวมทั้งส่วนปฏิบัติการเก็บตัวอย่าง เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานสอดมือผ่านหน้าต่างและถุงมือยางที่ติดตั้งไว้ มีระบบฆ่าเชื้อภายในตัวรถหลังปฏิบัติงานรายวันด้วยระบบโอโซน และติดตั้งระบบไมโครโฟน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกับผู้รับบริการได้สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัย ได้ทดลองให้บริการไปแล้วครอบคลุมประชาชนกลุ่มเสี่ยง จำนวน 12,094 ราย ในเขตกรุงเทพมหานคร และจังหวัดนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา ซึ่งทำให้เกิดผลสำเร็จในการค้นหาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างมีความปลอดภัย ได้อย่างดียิ่ง


โดยสำนักงานเขตสุขภาพ ที่ 1-12 ทั่วประเทศ และเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบดูแลมีดังต่อไปนี้ สำนักงานเขตสุขภาพที่ 1 เชียงราย, น่าน, พะเยา, แพร่, เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, ลำปาง, ลำพูน สำนักงานเขตสุขภาพที่ 2 ตาก, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, สุโขทัย, อุตรดิตถ์ สำนักงานเขตสุขภาพที่3 ชัยนาท,กำแพงเพชร,พิจิตร.นครสวรรค์, อุทัยธานี สำนักงานสุขภาพที่ 4 นนทบุรี, ปทุมธานี, พระนครศรีอยุธยา, สระบุรี,ลพบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, นครนายก สำนักงานสุขภาพที่ 5 กาญจนบุรี, นครปฐม, ราชบุรี, สุพรรณบุรี,ประจวบคีขีขันธ์, เพชรบุรี, สมุทรสงคราม, สมุทรสาคร, สำนักงานสุขภาพที่ 6 ฉะเชิงเทรา,ปราจีนบุรี,สระแก้ว,สมุทรปราการ,จันทบุรี,ชลบุรี,ตราด,ระยอง สำนักงานสุขภาพที่ 7 กาฬสินธุ์, ขอนแก่น, มหาสารคาม, ร้อยเอ็ด สำนักงานสุขภาพที่ 8 บึงกาฬ, เลย,หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี, นครพนม, สกลนคร สำนักงานสุขภาพที่ 9 ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์, สุรินทร์ สำนักงานสุขภาพที่ 10 มุกดาหาร, ยโสธร, ศรีสะเกษ, อุบลราชธานี, อำนาจเจริญ, สำนักงานสุขภาพที่ 11 ชุมพร,นครศรีธรรมราช,สุราษฎ์ธานี, กระบี่, พังงา, ภูเก็ต, ระนอง, สำนักงานสุขภาพที่ 12 พัทลุง, ตรัง,นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา, สงขลา, สตูล และเขตสุขภาพเพื่อประชาชนเขตที่ 13 กรุงเทพมหานคร