เจ้าหน้าที่ล่อซื้อสัตว์ป่าคุ้มครอง หลังพบมีผู้ลักลอบขายผ่านทางเฟซบุ๊กเป็นเวลานาน จนสามารถเข้าจับกุมได้ พร้อมของกลางพังพอน จำนวน 1 ตัว ชี้ ปัจจุบันเป็นสัตว์มีความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์แล้ว
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. เพจ “ประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” ได้เปิดเผยว่า “นายอรรถพร บัวฝ้าย นักวิชาการป่าไม้ปฏิบัติการ รายงานว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปราม (ชุดเหยี่ยวดง) เข้าตรวจสอบหลังพบมีการประกาศขายสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดพังพอน กระรอกบิน และนกเอี้ยง ผ่านทางเฟซบุ๊กชื่อ “Aon Tewarit Chaiya” จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าเจ้าของเฟซบุ๊ก คือ นายเทวฤทธิ์ (นามสมมติ) มีพฤติการณ์โพสต์ขายสัตว์ป่าคุ้มครอง มาเป็นเวลานาน โดยอาศัยอยู่บ้านแห่งหนึ่งในท้องที่ซอยแสนสุข ตำบลสุรศักดิ์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่จึงให้สายลับทำการติดต่อขอซื้อสัตว์ป่าคุ้มครองชนิดพังพอน จำนวน 1 ตัว ในราคา 1,600 บาท
โดย เจ้าหน้าที่ประกอบด้วย ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักป้องกัน ปราบปราม และ ควบคุมไฟป่า สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) สายตรวจปราบปรามสัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก. ปทส. ได้ร่วมกันนำหมายค้นศาลจังหวัดชลบุรีที่ ค.80/2563 เข้าตรวจค้น บริเวณบ้านหลังดังกล่าว
จากการตรวจสอบพบ นายอนันต์ (นามสมมติ) (อายุ 58 ปี) นายอนันต์ (นามสมมติ) แสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน และเป็นผู้นำทีมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น ผลปรากฏพบสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดพังพอนธรรมดา จำนวน 1 ตัว พร้อมอุปกรณ์การกระทำผิด กรงเหล็ก จำนวน 1 กรง โดยให้ถ้อยคำว่าตนเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ส่วนพังพอนธรรมดาที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบ เป็นของนายเทวฤทธิ์ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นลูกเขยในขณะที่ตรวจค้นได้ออกไปทำงานนอกบ้าน
ต่อมา นายเทวฤทธิ์ (นามสมมติ) ได้เดินทางมาพบพนักงานเจ้าหน้าที่ และแจ้งให้ทราบว่าเฟซบุ๊กที่ได้ประกาศขายสัตว์ป่าคุ้มครอง ชนิดพังพอนธรรมดาดังกล่าว เป็นของตน และได้ขายให้สายลับจริง โดยไม่มีเอกสารหลักฐานการได้มาของทางราชการ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดสัตว์ป่าคุ้มครองของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรศรีราชา จังหวัดชลบุรี ดำเนินคดี ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 17 ฐาน"มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี"ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือปรับไม่เกินห้าแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 29 ฐาน “ค้า (ขาย ประกาศ หรือโฆษณาทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ) สัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี” ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 89 จำคุกไม่เกินสิบปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับ พังพอนธรรมดาตัวโตกว่ากระรอกเล็กน้อย เมื่อตกใจหรือจะต่อสู้ ขนตามลำตัวจะตั้งชันขึ้นมาได้ เป็นสัตว์หากินทั้งกลางวันและกลางคืน นอนในโพรงดินไม่ชอบไต่ขึ้นต้นไม้ ชอบป่าหญ้าหรือตามป่าโปร่งมากกว่าป่าทึบ เป็นสัตว์ที่ว่องไวมาก สถานการณ์ปัจจุบัน มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์