เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ชุดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่เก็บหลักฐานเพิ่มเติม บ้านนายไชย์พล วิภา ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นลุงของน้องชมพู่ ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบทุกอย่าง
จากกรณี น้องชมพู่ หรือเด็กหญิง อรวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 3 ขวบ ได้หายตัวออกจากบ้านหมู่ 3 ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร ห่างจากบ้านไปราว 1.7 กม.ไปตั้งแต่ตอนเช้าระหว่างที่พ่อกับแม่ออกไปทำงาน โดยน้องชมพู่อยู่กับพี่สาวอายุ 13 ปี ต่อมาครอบครัวได้ออกตามหาน้องชมพู่ และได้นำร่างทรงมาประกอบพิธีตามความเชื่อ เพื่อขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์เปิดทางให้หาเจอ จนพบศพน้องชมพู่นอนเสียชีวิตในสภาพเปลือยบนเนินเขา ไม่สวมเสื้อผ้า สภาพศพคล้ายกับโดนบีบคอก่อนเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 มิ.ย. รายงานข่าวเพิ่มเติมทราบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล ชุดของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่บ้านนายไชย์พล วิภา ผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นลุงของน้องชมพู่ เพื่อมาขอเก็บหลักฐานเพิ่มเติมโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ทั้งการตรวจสอบกระสอบปุ๋ย มีดกรีดยาง มีดพร้า ถุงมือผ้า และสุนัข ก่อนที่จะเก็บกระสอบกลับไป 2 ใบ สีฟ้ากับสีขาว ถุงมือผ้า 2 คู่ และขนสุนัข
อย่างไรก็ตาม นายไชย์พล ลุงน้องชมพู่ กล่าวว่า ไม่เข้าใจเพราะเหตุใดเจ้าหน้าที่จึงมาเก็บหลักฐานเพิ่มเติมอีก ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว โดยครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำวัตถุไปตรวจสอบหลายอย่าง ทั้งกระสอบป่าน ถุงมือใส่ทำงาน มีดกรีดยาง และถอนขนสุนัขที่เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน โดยบอกว่านำไปตรวจดีเอ็นเอหาหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมกับระบุว่า ยินดีให้ตรวจสอบทุกอย่างเพื่อให้คดีน้องชมพู่กระจ่าง เพราะไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ จึงไม่กลัวเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด
ในส่วนเสื้อผ้าที่พ่อแม่น้องชมพู่ฝากกระเป๋าใส่เสื้อผ้าขึ้นไปทั้งหมดบอกว่าฝากไปให้น้องชมพู่ ซึ่งกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้าน้องชมพู่ก็สะพายอยู่บนหลังผมตลอด ดังนั้น น้ำเหงื่อในตัวผมก็เปียกชุ่ม จึงเกรงว่าดีเอ็นเอในตัวผมน่าจะมีติดไปที่เสื้อผ้าน้องชมพู่แน่ เรื่องนี้จึงเป็นอีกเหตุที่สร้างความกังวลให้กับครอบครัวเรา ที่เกี่ยวข้องกับดีเอ็นเอ
ขณะที่ พล.ต.อ.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า เจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนั้นเป็นชุดที่เก่งที่สุด แต่ยังหาหลักฐานคนร้ายไม่ได้