รายการในประเทศญี่ปุ่น บังเอิญเจอหนุ่มไทยที่อยู่ในสถานะคนต่างด้าว จึงเข้าไปขอพูดคุย พบว่าอาศัยอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กตั้งแต่อายุ 3 ปี จนถึงอายุ 18 ปี ต้องการอยากพบหน้า พ่อ-แม่ สักครั้ง ผ่านการถูกบูลลี่ แต่ไม่เก็บมาใส่ใจ ในอนาคต อยากมีลูกและก็จะเลี้ยงดูด้วยตัวเอง
เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เพจ “ญี่ปุ่นเบาเบา” ได้ออกมาโพสต์ข้อความเผยแพร่ชีวิตของชายไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ในฐานะคนต่างด้าวที่มีบัตรอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ผ่านทางรายการ “ขอตามไปที่บ้านได้มั้ย” ที่ออกอากาศทางช่อง TV Tokyo เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. ที่ผ่านมา จากการพูดคุยทราบว่า ชายรายนี้เข้ามาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่อายุได้เพียง 3 ขวบ ปัจจุบันอายุ 25 ปี ไม่มีครอบครัวอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กและอยู่ในสถานสงเคราะห์จนถึงอายุ 18 ปี และก็ไม่ทราบว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างไร
ปัจจุบันทำงานที่ร้านนั่งดริงก์ เมื่อถูกถามถึงเรื่องครอบครัว ว่า มีความรู้สึกโกรธแค้นพ่อ-แม่หรือไม่ เจ้าตัวก็ตอบว่า ไม่เคยรู้สึกโกรธแค้นเลย แต่อยากเจอพวกท่านมากกว่า อยากเห็นหน้าสักครั้ง
“การที่ให้ผมไปอยู่ที่สถานสงเคราะห์ แสดงว่า เขาเองต้องมีความจำเป็นบางอย่าง มันก็ดีแล้วที่ผมถูกเลี้ยงดูที่นั่น ทุกคนเล่นด้วยกัน มีคนหลากหลายแบบ ชีวิตตั้งแต่อนุบาลถึง ม.ปลาย ก็สนุกมาก”
มีคนถามว่า ไม่มีพ่อแม่รู้สึกยังไง? เจ้าตัวได้ตอบกลับไปว่า “ผมไม่รู้สึกอะไรเลยครับ ถ้ามีพ่อแม่มันก็คงจะสนุกอีกแบบเหมือนกัน ผมอยู่ที่นั่นตั้งแต่จำความได้ ไม่ว่าจะเข้าไปเพราะเหตุผลอะไร แต่ผมไม่อยากถูกคนมาพูดใส่ว่า “น่าสงสารจังเลย” “คงลำบากแย่นะ” แบบนี้ครับ”
นอกจากนี้ เจ้าตัวยังกล่าวถึงการถูกกลั่นแกล้งหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า “ผมไม่เคยโดนแกล้งเลยสักครั้ง อาจจะมีแต่ผมไม่รู้ก็ได้ มีคนที่ถูกพูดใส่ว่า “ไกจิน” (ต่างด้าว) หรือ “ทำไมตัวดำจัง” อยู่เยอะใช่มั้ยล่ะครับ ผมเองก็ถูกว่ามาเหมือนกัน ถูกเรียก “ต่างด้าว” “หน้าดำ” “ช็อกโกแลต” แต่ผมไม่เคยคิดว่ามันเป็นการแกล้งเลยสักครั้ง คนที่เขาพูดใส่ เขาอาจจะอยากแกล้งผมจริงๆ ก็ได้ แต่ว่าผมไม่คิดอะไรเลย”
เมื่อถูกถามว่า ต่อจากนี้ไปอยากใช้ชีวิตแบบไหนครับ เจ้าตัวได้บอกกับทางรายการว่า
“อนาคตอยากมีลูก 2 คน อยากให้เขาเล่นกีฬา เล่นฟุตบอลครับ ผมอยากให้ความสำคัญกับลูกให้มากที่สุด อยากเลี้ยงเขาให้ดี ถึงตัวเองจะไม่มีพ่อแม่แต่ก็เติบโตมาได้ ลูกของตัวเองก็อยากเลี้ยงดูให้ดี ผมไม่อยากให้ลูกมีความรู้สึกแปลกๆ ไม่อยากให้เขาต้องเข้าไปอยู่ในสถานสงเคราะห์ เขาก็คือลูกของผม การเลี้ยงลูกด้วยตัวเองคือเรื่องปกติครับ”
