ผู้ป่วยที่อยู่ในรถพยาบาล ที่ถูกรถตู้สีขาวและสีแดงขับช้าแช่เลนขวาบนถนนสายสีคิ้ว-อุบลราชธานี มุ่งหน้า อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เสียชีวิตแล้ว ด้านคนขับรถตู้ทั้งสองคันส่งข้อความขอโทษเจ้าของคลิป คันสีขาวอ้างเสียบหูฟังโทรศัพท์ถามทางตลอดเวลา ส่วนคันสีแดงอ้างไม่ได้ยินเหมือนกัน
วันนี้ (28 พ.ค.) จากกรณีที่รถตู้สองคัน ได้แก่ รถตู้สีขาว หมายเลขทะเบียน ฮบ 7138 กรุงเทพมหานคร และรถตู้สีแดง หมายเลขทะเบียน ฮบ 344 กรุงเทพมหานคร ขับช้าแช่เลนขวา ขวางรถพยาบาลที่กำลังนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) ช่วงเที่ยง โดยมีญาติผู้ป่วยบันทึกภาพรถตู้ทั้งสองคันเอาไว้ได้ และโพสต์วิดีโอคลิปลงในโซเชียล ระบุข้อความว่า “ต้องด้านชาขนาดไหน ทั้งบีบแตรเปิดหวอ (ไซเรน) ไม่หลบให้เลย นาทีชีวิตแบบนี้ไม่เจอกับตัวคงไม่รู้ ขับตามมาสักพักใหญ่ล่ะกว่าจะหยิบโทรศัพท์ถ่าย มันไม่ไหวจริงๆ หลบซ้ายให้รถพยาบาลสักนิดแค่วินาทีเดียวอาจจะช่วยชีวิตคนได้” เหตุเกิดบนถนนสายสีคิ้ว-อุบลราชธานี มุ่งหน้า อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
รายงานข่าวแจ้งว่า ผู้ป่วยรายนี้เป็นชายวัย 67 ปี เสียชีวิตแล้วเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ซึ่งก่อนหน้านี้ เป็นผู้ป่วยมะเร็งตับระยะสุดท้าย เดินทางมาจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อไปรักษาอาการประคับประคองที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ แต่เมื่อเดินทางได้ระยะหนึ่ง พบว่า ผู้ป่วยเริ่มเหนื่อย และความดันตก จึงเปิดไซเรนเพื่อขอทาง กระทั่งที่เกิดเหตุ รถตู้สีขาวขวางทางอยู่ก่อน เจ้าหน้าที่ในรถพยายามส่งสัญญาณบีบแตร เพื่อให้หลบอยู่สักพักหนึ่ง แต่ผ่านไปราว 10-15 นาที รถตู้คันดังกล่าวก็ยังไม่หลบจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกเหตุการณ์ หลังจากนั้น ก็เจอกับรถตู้คันสีแดง ซึ่งไม่ทราบว่ามาด้วยกันหรือไม่ แต่มีลักษณะคล้ายกัน คือ ไม่หลบทางให้รถพยาบาล อย่างไรก็ตาม ฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตไม่ติดใจเอาความ แต่อยากให้เป็นอุทาหรณ์
ด้านฝั่งคนขับรถตู้ที่ขวางรถพยาบาลโพสต์เฟซบุ๊กในกลุ่มลับ ระบุว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่ชี้แจงครับ ต้องขอโทษพี่น้องด้วยครับที่ทำให้เสียชื่อเสียงกลุ่ม พอดีผมไม่ได้ยินเสียงไซเรนจริงๆ ไม่มีเจตนาจะขวางรถฉุกเฉินแต่อย่างใด พอเหลือบไปเห็นไฟสูง ก็เปิดไฟเลี้ยวหลบให้ตามคลิปเลยครับ ขอโทษจากใจครับ ขอบคุณครับ” ซึ่งตัวแทนกลุ่มคนขับรถตู้กล่าวไปยังเจ้าของคลิป ระบุว่า “ทางรถสมาชิกกลุ่มผมไม่ได้มีเจตนาขอโทษ ณ ที่นี้ด้วยครับ” ขณะที่ญาติโพสต์ตอบกลับไปว่า “เจ้าของรถทั้ง 2 คันส่งข้อความมาขอโทษแล้วค่ะ ตอนนี้ไม่ได้ติดใจอะไร แต่เมื่อวานวินาทีนั้นมันกระวนกระวายใจอยากถึงโรงพยาบาลโดยเร็ว จึงโพสต์ไว้เป็นอุทาหรณ์เพื่อให้คนในสังคมช่วยกันเป็นหูเป็นตาและมีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนค่ะ”
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า เจ้าของรถตู้คันสีขาวส่งข้อความไปหาเจ้าของคลิป อ้างว่า ลูกน้องเป็นคนขับ แล้วใส่หูฟังเพื่อถามทางตลอดเวลา จึงไม่ได้ยินเสียงรถพยาบาล ส่วนรถตู้สีแดงอ้างว่า ไม่ได้ยินเสียงบีบแตรเช่นกัน