เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และ กรมสรรพากร ได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง การพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ และการวิเคราะห์ข้อมูลด้านภาษี โดยการลงนามในบันทึกข้อตกลงครั้งนี้เป็นการลงนามบันทึกข้อตกลงแบบ Online ผ่านโปรแกรม Microsoft Teams ซึ่งเป็นครั้งแรกของหน่วยงานราชการไทย เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing)
ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ตามภารกิจของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า ที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัลในทุกภาคส่วนให้สอดคล้องตามกันอย่างเป็นระบบ ทั้งในภาคเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนประชาชน ซึ่งในยุคดิจิทัลสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นเครื่องมือที่ทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนก็คือข้อมูล สถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ หรือ GDBi ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดที่ดูแลด้านการพัฒนาบุคลากรและการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data จะเป็นผู้ดำเนินการหลักในการพัฒนาบุคลากรร่วมกับกรมสรรพากรในครั้งนี้ เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศควบคู่กับการเตรียมพร้อมบุคลากรด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยการต่อยอดทักษะเดิม หรือ เสริมเป็นทักษะใหม่ เพื่อนำไปสู่การประยุกต์ใช้และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลได้โดยมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดด ซึ่งดีป้าก็มีความยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้ให้ความร่วมมือเพื่อที่จะพัฒนาบุคลากรด้าน Data Science และ Business Intelligence ตลอดจนการร่วมกันจัดทำโมเดลในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพยากรณ์สำหรับใช้ในการยกระดับบริการภาครัฐเพื่อประชาชนที่ดียิ่งขึ้นต่อไป
ด้าน ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “ความร่วมมือกับดีป้าในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อยกระดับการให้บริการกับผู้เสียภาษีและประชาชนให้ตรงกลุ่ม ตรงใจ และสร้างความเป็นธรรมในการเสียภาษี ซึ่งเป็นการดำเนินการตามกลยุทธ์ของกรมสรรพากร ที่มุ่งพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่และวิเคราะห์ข้อมูลด้านภาษี เพื่อขับเคลื่อนการเป็นองค์กรดิจิทัล ดังนี้
1. การนำข้อมูลความคิดเห็นต่างๆ ของผู้เสียภาษีและประชาชน จากที่รวบรวมได้หลากหลายช่องทางมาวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เสียภาษี (Customer Centric) และนำผลที่ได้มาออกแบบนโยบายภาษีให้ตรงกลุ่ม และบริการภาษีให้ตรงใจผู้เสียภาษี 2. การวิเคราะห์และประมวลข้อมูลทางภาษีต่างๆ เพื่อนำมาใช้ในเชิงวิชาการ เช่น การคำนวณแบบจำลอง การเปลี่ยนแปลงนโยบายภาษี หรือแบบจำลองการประมาณการเก็บภาษีต่าง ๆ เป็นต้นนอกจากนี้ การลงนาม MOU ในครั้งนี้ ยังเป็นการร่วมมือพัฒนาบุคลากรของกรมสรรพากร ด้าน Data Science ซึ่งจะสนับสนุนให้บุคลากรของกรมสรรพากรมีทักษะความรู้ความสามารถสอดคล้องกับทักษะในอนาคต (Future Skill) “กรมสรรพากรขอขอบคุณสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลที่เห็นถึงความสำคัญและให้ความร่วมมือกับกรมสรรพากรในการดำเนินงานในครั้งนี้ และเพื่อสนับสนุนการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ลดความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID–19) การลงนามครั้งนี้จึงเป็นการลงนามบันทึกข้อตกลง MOU แบบ Online ครั้งแรกของหน่วยงานราชการไทย” อธิบดีกรมสรรพากร กล่าว
สำหรับดีป้าและกรมสรรพากรเคยได้มีความร่วมมือในการพัฒนาบริการภาครัฐด้วยการระดมพลกลุ่มดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย คิดหาโซลูชั่นตอบโจทย์ด้านภาษีในโครงการ Hackatax ต่อยอดมาสู่ความร่วมมือในครั้งนี้ที่จะก่อให้เกิดบุคลากรภาครัฐด้าน Data Science และ Business intelligence พร้อมทั้งต่อยอดความร่วมมือในการบูรณาการร่วมกันทำงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการส่งเสริมและถ่ายทอด องค์ความรู้ด้านดิจิทัล และเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ได้สนองนโยบายของรัฐ ในการผลักดันให้เกิดฐานข้อมูลภาครัฐที่สามารถนำข้อมูลที่มีอยู่มาบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ โดยในการลงนามดังกล่าวมี นางสาวธีรณี อจลากุล ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการวิเคราะห์และบริหารข้อมูลขนาดใหญ่ภาครัฐ หรือ GBDi และ นายเกรียงศักดิ์ ประสงค์สุกาญจน์ ที่ปรึกษาด้านประสิทธิภาพ กรมสรรพากร ร่วมเป็นสักขีพยาน
เรื่อง : อรวรรณ เหม่นแหลม