นักธุรกิจหนุ่มที่ถูกแฮกบัญชีกรุงศรีฯ อัดคลิป ระบุถูกคนร้ายข่มขู่เรียกเงินอีก 2 แสน ก่อนโจรกรรมข้อมูลและแฮกบัญชีเฟซบุ๊ก อีเมล ปิดเว็บไซต์ ร้องขอผู้ใหญ่ช่วยดูแลคดี อ้างตอนนี้ถูกขโมยไลน์ไปขอยืมเงินเพื่อน ไม่มีทางกู้คืนได้ แม้จะทำกันถึงตีสี่ก็ตาม
จากกรณีที่ นายกษิดิศ วิเศษธนากร อายุ 31 ปี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Kasidit Kwang Visetthanakorn ระบุว่า ถูกคนร้ายร่วมกันแฮกบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ผ่านทางกรุงศรีออนไลน์ (KOL) และ กรุงศรี บิซ โมบาย แอปพลิเคชัน (KBOLAPP) รวมมูลค่าความเสียหาย 395,000 บาท หลังกลับจากเข้าพักที่โรงแรมเรเนซองส์ พัทยา รีสอร์ท แอนด์ สปา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี แล้วมีตัวแทนนำโทรศัพท์มือถือออปโป้ (OPPO) มามอบให้ที่บ้านด้วยตัวเอง แต่อ้างว่าต้องมีการยืนยันแคมเปญ (Activate Campaign) โดยนำซิมการ์ดมาใส่เครื่องมือถือที่มอบให้ ปรากฏว่า พบกล่องข้อความ SMS ถูกนำไปซ่อนไว้ในเมนูหน้า 2 ปิดเสียงการแจ้งเตือน (Notification) และถูกย่อแฟ้ม (Minimize Folder) เพื่อไม่ให้สังเกตเห็น SMS OTP จากทางธนาคาร
โดยพบว่าได้โอนเงินไปยังบัญชีปลายทาง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาเซ็นทรัลพลาซา พิษณุโลก ภายหลังนายกษิดิศโพสต์ข้อความระบุว่า คนที่ขโมยเงินในบัญชีไป คือ คนในครอบครัว แต่ตนโง่เองเที่ยวไปประกาศทั่วราชอาณาจักรว่าผมโดนแฮก โดนมิจฉาชีพหลอกเอาเงินไป ประจานคนนั้นคนนี้ ขณะที่ นายนิวัตร เหลืองศิริเชียร พิธีกรอิสระ ที่ได้รับว่าจ้างจากลูกค้าให้นำโทรศัพท์มือถือออปโป้มามอบให้นายกษิดิศ ระบุว่า เรื่องนี้ทำให้หน้าที่การงานพัง ชื่อเสียงที่สร้างมาหายไปในพริบตา แต่วันนี้ความจริงปรากฏแล้วว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง เตรียมแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.เตาปูน ขณะที่เจ้าของบัญชีปลายทาง เป็นคนขายของออนไลน์และโทรศัพท์มือถือ ระบุว่า หุ้นส่วนได้รับการติดต่อจากเพื่อนของน้องชายนายกษิดิศ สั่งซื้อโทรศัพท์มือถือ และได้ใช้บัญชีของตนรับเงินโอนก่อนรับสินค้าตามปกติ ภายหลังบัญชีถูกอายัด เพราะตำรวจ สน.หัวหมาก แจ้งเอาไว้ ก่อนที่นายกษิดิศจะส่งข้อความขอโทษ อ้างว่าน้องชายอยู่เบื้องหลัง เขาติดหนี้การพนัน ก่อนจะปิดเฟซบุ๊กหนีไป
อ่านประกอบ : โอละพ่อ! ที่แท้คนในครอบครัวขโมยเงินในบัญชีกรุงศรีฯ พิธีกรอิสระครวญอนาคตพังจ่อฟ้องกลับ
หนุ่มขายมือถือถูกอายัดบัญชีกรุงศรีฯ เหตุนักธุรกิจหนุ่มแจ้งความ รู้ความจริงฝีมือน้องชายแฮก-ติดหนี้พนัน
ล่าสุด วันนี้ (25 พ.ค.) ยูทูปที่ใช้ชื่อว่า kasidit Visetthanakorn ได้โพสต์วิดีโอคลิป หัวข้อ “ขู่กว้าง ครอบครัว เอาเงินเพิ่ม ทำลายชื่อเสียงครอบครัว ปิด FB Line Web บริษัท Email” ระบุว่า “สวัสดีครับ สวัสดีทุกคนนะครับ ก่อนอื่นนะครับก็ต้องขอขอบคุณทุกๆ คนนะครับที่ให้กำลังใจครอบครัวของเรานะครับ ครอบครัววิเศษธนากรครับ อย่างแรกนะครับ ต้องขอยืนยันนะครับว่า การโพสต์ของผมครั้งแรกนะครับ เป็นโพสต์ที่เป็นความจริง แล้วก็มีการพิสูจน์ยืนยัน โดยการที่ผมเนี่ยได้เข้าไปแจ้งความด้วยตัวเอง กับครอบครัววิเศษธนากร คุณแม่และก็ของผม เข้าไปด้วยกันทั้งสามคน ไม่มีความตั้งใจอย่างอื่นเลยนะครับในการโพสต์ นอกเหนือจากการที่ต้องการเตือนภัยให้ทุกๆ คนในสังคมไทยเนี่ยได้ระมัดระวังตัวนะครับ
อย่างที่สองนะครับ พวกเราหลังจากที่ได้โพสต์ออกไป เราได้รับการข่มขู่ครับ ให้มีการโอนเงินเพิ่มนะครับ ถ้าเกิดไม่โอนเงินเพิ่มเนี่ย ทางผู้ร้ายก็จะโจรกรรมข้อมูลแล้วก็แฮกบัญชีนะครับ แล้วก็แฮกอีเมล แล้วก็ปิดเว็บไซต์ของบริษัทของคุณแม่นะครับ แล้วก็ปิดเฟซบุ๊กนะครับ แล้วก็แฮกไลน์ของพวกเรานะครับ แต่ทางพวกเราคิดว่า ถ้าเราทำแบบนี้เนี่ย เราก็จะปล่อยให้คนร้ายลอยนวล เราจึงสู้นะครับ แล้วก็เราพยายามที่จะเงียบสงบเอาไว้ แล้วก็ให้ทางตำรวจเนี่ยดำเนินคดีนะครับ และไม่พยายามที่จะออกสื่ออย่างใดนะครับ แล้วก็พยายามเงียบเอาไว้นะครับ แต่ว่าเราก็ไม่ยอมที่จะจำนนตรงนี้นะครับ เพราะว่าเราคิดว่า ถ้าเรายอมเนี่ย เราก็จะตกเป็นเหยื่อนะครับ แล้วจะทำให้คนอื่นเนี่ยตกเป็นเหยื่อ และเป็นภัยต่อสังคมด้วยนะครับ ดังนั้น เนี่ยผมมั่นใจนะครับว่า ตัวผมเองเนี่ยเป็นคนดี แล้วก็ตั้งใจทำงาน แล้วก็เป็นคนที่ไม่เคยทำร้ายใครมาโดยตลอดนะครับ ตั้งแต่เด็กจนถึงโตนะครับ เพื่อนๆ ผมจะรู้เลยว่า ผมและครอบครัวจะรู้เลยว่า ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนนะครับ แล้วก็ย้ายไปที่โรงเรียนเตรียมอุดมฯ นะครับ จบที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นะครับ ได้เกียรตินิยม จบมาเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอยู่ที่ University of California, San Diego นะครับ ดังนั้น ผมไม่มีเจตนาที่จะโพสต์หลอกใครแน่นอนนะครับ
สุดท้ายนะครับ ผมอยากร้องขอนะครับ ผู้ที่มีอำนาจในสังคมนะครับ หรือผู้ใหญ่นะครับ ให้ช่วยมาดูแลนะครับ เพราะว่าการโจรกรรมครั้งนี้เนี่ย เป็นการโจรกรรมที่ผมคิดว่าน่ากลัวมากๆ สามารถเข้ามาแฮกบัญชีนะครับ ปิดเฟซบุ๊กของผมได้นะครับ แล้วก็สามารถแฮกไลน์ของผมได้ ตอนนี้เนี่ยไลน์ของผมเนี่ยได้ถูกไปขอยืมเงินเพื่อนๆ นะครับ แล้วก็คนต่างๆ ที่มีการถูกฉ้อโกงเนี่ย ผมไม่รู้ว่าจะถูกไลน์ของผมเนี่ยไปใช้ในทางที่ผิดถึงขนาดไหนนะครับ ดังนั้น เนี่ยอยากให้เรื่องนี้เนี่ย เป็นสิ่งที่ระมัดระวัง แล้วก็เป็นสิ่งที่เตือนใจกับทุกๆ คนนะครับ ถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรนะครับ ช่วยติดต่อผมโดยตรงนะครับ รวมถึงอีเมลด้วยนะครับ ตอนนี้เนี่ยเว็บไซต์บริษัทของผมก็ถูกปิดไปแล้วนะครับ แล้วก็ไม่มีทางกู้คืน ต้องขอขอบคุณพี่ที่มาช่วยผมในการกู้นะครับ เว็บไซต์แล้วก็เฟซบุ๊ก แล้วก็อีเมลเมื่อวานเราทำกันถึงตีสี่เลยนะครับ แต่ว่าเราไม่สามารถทำได้นะครับ วันนี้เนี่ยผมก็เลยต้องมาอัดคลิปแล้วก็ยืนยันความจริงที่เกิดขึ้นนะครับ แล้วก็ถ้ามีใครสงสัยอะไรช่วยติดต่อผมโดยตรงนะครับ ที่เบอร์ ... ด้วยครับ ขอบคุณครับ”
นอกจากนี้ ในคำบรรยายคลิปยังระบุอีกด้วยว่า “ก่อนหน้านี้ มีการขู่เรียกเงินเพิ่มอีก สองแสน เเละให้ยุติการดำเนินคดี โดยการข่มขู่กว้างและครอบครัว เอาเงินเพิ่ม ทำลายชื่อเสียง ปิด FB Line Website บริษัท Email แต่ผมเเละครอบครัวไม่ยอม ผมไม่กลัวเเละไม่ต้องการให้คนอื่นๆ ตกเป็นเหยื่อสังคม วันที่ 25 พ.ค. เวลาตี 1 กว้างรู้ตัวว่าถูก Hack Email เเละ ปิด website โดยการย้าย Domain บริษัท และ Hack Facebook, Line กว้างเเละรุ่นพี่ท่านนึงที่เก่ง IT ช่วยกันพยายามกู้คืนแย่ง Reset Password กันกับโจรกันถึง 4-5 รอบ เเต่ก็ไม่ทันมัน จนถึงตี 4 ของวันนี้ ทุกอย่างมีหลักฐานครับ จนถึงตอนนี้ทำให้กว้างไม่มีช่องทางในการติดต่อเพื่อนๆ ตอนนี้เพื่อนๆ หลายคนถูกไลน์กว้างที่ถูก Hack ไป ขอยืมเงิน และให้โอนเงินไป ฉ้อโกงกันหลายคนครับ ทุกคนระวังนะด้วยนะครับ กว้าง คุณแม่ เเละครอบครัวทำธุรกิจมานาน มีคนรู้จักมากมาย และคนรอบข้างจะรู้จักผมและครอบครัวจะรู้ดีครับว่าผมและครอบครัวเป็นอย่างไร ไม่เคยทำร้ายใคร มีแต่ช่วยเหลือและแบ่งปัน ผมคิดว่าตอนนี้มันเกินความสามารถที่ผมจะ Deal เรื่องนี้ เพราะผู้ร้ายมีเทคโนโลยี หรือความรู้ทางด้าน IT ที่เยอะกว่าผมเยอะมาก และคงวางแผนเป็นอย่างดี ครับ ขอให้อย่าเกิดเรื่องนี้กับคนอื่นเลยครับ”