ชีวิตแสนรันทด 3 หนูน้อยสุดอาภัพ พ่อป่วยหนัก แม่ติดคุก ไร้คนดูแล เพื่อนบ้านต้องคอยป้อนข้าวหาอาหารให้กิน เพื่อประทังชีวิตให้ผ่านพ้นไปแต่ละวัน ด้าน พม. ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ให้ไว้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมจะรับเด็กไปดูแล ซึ่งตนเองก็ยินดีและเต็มใจ หากเด็กจะได้ไปอยู่ในที่มีสภาพดีกว่านี้ แต่ต้องให้เป็นการตัดสินใจของบิดา
วันนี้ (10 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. จากกรณีเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังได้รับเเจ้งจาก นายสุริยา ศักดารัตน์ อายุ 52 ปี อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รองหัวหน้าจุดปากเกร็ด ว่า มีเด็กชาย 1 คน และเด็กหญิง 2 คน รวม 3 คน พักอาศัยอยู่ภายในชุมชนประเสริฐอิสลาม หมู่ที่ 3 ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พ่อป่วยหนัก แม่ติดคุกคดียาเสพติด ต้องอยู่กันตามมีตามเกิด ไม่มีคนดูแล เพื่อนบ้านต้องคอยป้อนข้าวหาอาหารให้กิน เพื่อประทังชีวิตให้ผ่านพ้นไปแต่ละวัน
โดยบ้านหลังดังกล่าวมีลักษณะเป็นห้องเช่าบ้านไม้ชั้นเดียวแบบติดกัน ค่าเช่าเดือนละ 1,500 บาท พบหนูน้อยทั้ง 3 คน กำลังนอนกินนม บางคนก็กำลังวิ่งเล่นอยู่ ทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.อิทธิกร สรสิทธิ์ อายุ 9 ขวบ, ด.ญ.ธัญเรศ สรสิทธิ์ อายุ 2 ขวบ, ด.ญ.ณัชชา สรสิทธิ์ อายุ 1 ขวบ 5 เดือน ส่วนเเม่ของเด็กทั้ง 3 คน ชื่อ น.ส.ช่อผกา โนสุยะ อายุ 27 ปี ปัจจุบันถูกจำคุกคดียาเสพติด ส่วนพ่อของเด็กชื่อ นายจรัญ สรสิทธิ์ อายุ 48 ปี ตอนนี้ป่วยเป็นโรคกระเพาะรั่ว นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลชลประทานปากเกร็ด อีกทั้งครอบครัวดังกล่าวได้ค้างค่าเช่าห้องไว้เป็นจำนวนเงินกว่าหมื่นบาทแล้ว
ขณะที่ น.ส.โสรญา วงศ์ศิลป์ อายุ 30 ปี เพื่อนบ้านผู้ใจบุญที่คอยดูแลเลี้ยงเด็กทั้ง 3 คน กล่าวว่า ตนพักอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าตรงข้ามกับบ้านของน้องทั้ง 3 คน ก่อนหน้านี้ ตนไม่เคยรู้จักกับครอบครัวนี้มาก่อน จนกระทั่งแม่ของเด็กมีพฤติกรรมข้องเกี่ยวกับยาเสพติด โดยเมื่อ 3 ปีก่อน ถูกตำรวจจับกุมข้อหาเสพยาเสพติด จึงถูกนำตัวเข้าค่ายบำบัด ซึ่งตอนนั้นพ่อเค้าต้องเลี้ยงลูก 3 คน เพียงลำพัง และมีอยู่วันนึง ลูกคนเล็กร้องไห้งอแง คนทั้งซอยก็เอาไม่อยู่ พ่อเค้าเลยเอามาฝากให้ตนเลี้ยง ซึ่งน้องก็ไม่งอแงและไม่ร้องไห้อีก ตนจึงรับลูกคนกลางกับคนเล็กมาเลี้ยง ส่วนคนโตพ่อเค้าส่งไปอยู่สถานสงเคราะห์ ตอนนี้เรียนอยู่ชั้น ป.1 แล้ว และช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอม พ่อเค้าเลยให้มาช่วยพ่อเลี้ยงน้องๆ
จนกระทั่งผ่านไป 4-5 เดือน ตนไม่สามารถรับเลี้ยงเด็กทั้งสองคนได้ เพราะมันมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้ามาในชีวิตประจำวัน ไหนจะค่านม ค่าแพมเพิร์ส ประกอบกับแฟนของตนทำงานเพียงคนเดียว ตนไม่ได้ทำงานด้วย จึงนำเด็กคนที่สองไปส่งคืนให้พ่อเค้าเลี้ยง และเมื่อวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา พ่อของน้องได้ล้มป่วย เป็นโรคกระเพาะรั่ว ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล ตนจึงต้องรับเด็กทั้งสามคนมาดูแล และด้วยวัยของเด็กทั้ง 3 คน ตอนนี้อยู่ในช่วงวัยกำลังซน กว่าจะป้อนอาหารเสร็จก็เข้าปาไป 3-4 ทุ่ม ตนและแฟนกว่าจะได้กินข้าวบางวันก็เกือบเที่ยงคืน ซึ่งนอกจากตนก็ยังมีเพื่อนบ้านคนอื่นๆ นำอาหาร ขนม ของใช้ มาให้บ้าง แต่เนื่องจากทุกคนก็เดือดร้อนจากพิษโควิด-19 จึงดูแลกันแบบตามมีตามเกิด ซึ่งตนจะดูแลและช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่สามารถจะช่วยได้ เนื่องจากสงสารเด็ก แต่สิ่งที่เป็นห่วงมาก ก็คือ ตอนนี้เด็กทั้ง 3 คนไม่ได้ฉีดวัคซีนตามกำหนด เกรงว่าพวกเค้าจะไม่มีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคภัยไข้เจ็บ อีกทั้งเรื่องการศึกษาของเด็ก เนื่องจากขาดเสาหลักที่เป็นที่พึ่งอย่างพ่อแม่ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเข้ามาดูแลเด็กๆ ด้วย
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.30 น. นายสุรชาติ กันนิ่ม ประธานชมรมศิษย์เก่าไทยสุริยะนนทบุรี พร้อมคณะ นำเครื่องอุปโภค-บริโภค เช่น ข้าวสาร นม พร้อมมอบเงินสด จำนวน 2,000 บาท ใหักับนางสาวโสรญา ที่ดูแลเด็กไว้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
โดย นายสุรชาติ กล่าวว่า หลังจากนี้ จะนำสิ่งของมามอบให้อีก หากพบว่าครอบครัวเด็กยังได้รับความเดือดร้อน ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ ส่วนผู้เดือดร้อนครอบครัวใดที่ประสบปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ สามารถแจ้งมาที่ชมรมได้เลย พวกเราพร้อมช่วยเหลือในเบื้องต้น
ทางด้าน นางสาวโสรญา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้ามาเยี่ยมเยียนและมอบเครื่องอุปโภค-บริโภค ให้ไว้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน โดยได้สอบถามเรื่องราวต่างๆ จากตนและพร้อมจะรับเด็กไปดูแล ซึ่งตนเองก็ยินดีและเต็มใจ หากเด็กจะได้ไปอยู่ในที่ที่มีสภาพดีกว่านี้ แต่คงต้องให้เป็นการตัดสินใจของบิดาหนูน้อยทั้งสามคนจะดีกว่า เพราะตนไม่ใช่ผู้ปกครองเด็ก ที่ดูแลให้เพราะสงสารมากกว่าอื่นใด ทางเจ้าหน้าที่จึงบอกว่าจะติดต่อพูดคุยมาอีกครั้งก่อนเดินทางกลับ