xs
xsm
sm
md
lg

“หมอหม่อง” เผยหัวอกพ่อนาทีทรมานหัวใจ หลังลูกสาว 12 ขวบ ติดค้างที่นิวซีแลนด์ จากโควิด-19 ระบาดทั่วโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นพ.รังสฤษฎ์ เผยความทุกข์ทรมานหลังส่งลูกสาว 12 ขวบ ไปเรียนซัมเมอร์ที่นิวซีแลนด์ แต่สถานการณ์โควิดระบาดทั่วโลก กลับเลวร้าย ทำให้หลายประเทศประกาศล็อกดาวน์ สุดท้ายตัดสินใจขอความช่วยเหลือผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ย้ำ คนไทยทุกคนมีสิทธิ์กลับบ้าน และการไม่ทอดทิ้งกันเป็นเรื่องสำคัญ ขอบคุณสถานทูตไทยกรุงเวลลิงตัน ที่ช่วยเหลือสุดความสามารถ

วันนี้ (28 เม.ย.) เฟซบุ๊กว่า “Rungsrit Kanjanavanit” หรือ “หมอหม่อง” นายแพทย์ รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ อาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้โพสต์เผยความรู้สึกหนักใจ หลังตัดสินใจส่งลูกสาวอายุ 12 ขวบ ไปเรียนซัมเมอร์ที่ประเทศนิวซีแลนด์ ขณะที่โควิด-19 เริ่มแพร่ระบาด และสุดท้ายสถานการณ์การระบาดทั่วโลกกลับเลวร้ายลง ประเทศไทยประกาศปิดประเทศ รวมทั้งประเทศนิวซีแลนด์ ประกาศล็อกดาวน์ ระดับ 4 ห้ามคนออกจากบ้านโดยเด็ดขาด โรงเรียนสั่งปิด โดยตัวคุณหมอเผยว่าขณะนั้นทุกข์ทรมานเป็นห่วงลูกอย่างที่สุด ในหัวไม่มีเรื่องอื่นใด สมาธิทำงานก็ไม่มี บางทีน้ำตาก็ไหลออกมาเสียอย่างนั้น และยอมรับว่า ทุกอย่างเหนือจากความควบคุมจริงๆ จนในที่สุดได้ทำจดหมายถึงท่านปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เล่าให้ท่านฟังถึงปัญหาของเด็กนักเรียนที่ติดค้างอยู่ในนิวซีแลนด์เป็นจำนวนมาก และด้วยเวลาที่ผ่านไปนานเท่าใดก็ยิ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพจิตทั้งกับเด็กและผู้ปกครองมากเท่านั้น เมื่อทางกระทรวงต่างประเทศรับทราบปัญหา ก็ได้กรุณาบรรจุเที่ยวบิน Repatriation flight รับคนไทยที่ติดค้างในนิวซีแลนด์ กลับประเทศไทย ในวันที่ 27 เมษายน 2563

แต่อย่างไรก็ตาม การเดินทางในประเทศนิวซีแลนด์ในช่วงล็อกดาวน์ นั้นติดขัดมาก เที่ยวบินมีน้อยและเขามีความเข้มงวดมากในการเคลื่อนย้ายผู้คนเที่ยวบินต่างๆ ถูกยกเลิกแบบกะทันหันบ่อยมาก นับเป็นโจทย์โลจิสติกส์ที่ยากมากสำหรับเด็ก 12 ปี กับเพื่อนอายุเท่ากันอีกหนึ่งคน จะเดินทางกันเองจากเมืองบ้านนอกใต้สุดของเกาะใต้ (invercargill) ไปยังสนามบินนานาชาติที่ Auckland ที่เกาะเหนือ แต่ด้วยความช่วยเหลืออย่างมากจากคุณครู และทาง ร.ร. ให้คนขับรถ ร.ร. ขับ 8 ชั่วโมงจาก invercargill ไป Christchurch เพื่อต่อเครื่องบินมาถึง Auckland จนได้ และสามารถเดินทางกลับสู่อ้อมอกพ่อแม่ได้ในวันนี้ ตลอดช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ผมได้รับกำลังใจและความช่วยเหลือจากผู้คนมากมาย

ที่ต้องขอกล่าวคำขอบคุณอย่างที่สุด คือ สถานทูตไทยประจำกรุง Wellington Royal Thai Embassy, Wellington ท่านทูตดนัยและภรรยาท่านทูตคุณศิริวรรณ Siriwan Mena ท่านทั้งสอง และเจ้าหน้าที่สถานทูต ทำงานด้วยหัวจิตหัวใจ ด้วยความเมตตา ท่านทำมากกว่าเพียงเพราะเป็นหน้าที่ท่านทูต โทรศัพท์ให้กำลังใจเด็กๆ มาโดยตลอด ท่านมารับเด็กๆ และมาประสานงานที่สนามบินด้วยตัวท่านเอง ทีมงานสถานทูต ต้องวางแผน ประสานงานกับทั้งทางการรัฐบาลไทย และนิวซีแลนด์ การบินไทย ตัวแทนเอเยนต์ที่พานักเรียนมา รวมถึงคนไทยที่ติดค้างตามหัวเมืองต่างๆ นับเป็นกระบวนการที่ยุ่งยากซับซ้อน เพื่ออำนวยความสะดวกให้คนไทยที่ติดค้างในนิวซีแลนด์สามารถเดินทางกลับบ้านได้ “เชื่อว่า คนไทยทุกคนมีสิทธิ์จะได้กลับบ้าน การดูแลปัจเจกไม่ทอดทิ้งกันเป็นเรื่องสำคัญ” แต่อย่างไรก็ตาม มีความจำเป็นยิ่งยวดที่ต้องป้องกันผลกระทบต่อส่วนรวม ดังนั้น การมีมาตรการการกักตัวอย่างเข้มงวดโดยไม่มีอภิสิทธิ์จึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

โดยคุณหมอได้ฝากทิ้งท้ายว่า ขณะนี้ได้เข้ากักตัวกับลูกสาว และเหตุที่ต้องขอกักตัวร่วมกับลูกด้วย เพราะลูกยังเล็ก การอยู่คนเดียว 14 วัน ไม่ง่ายสำหรับเด็ก 12 ปีครับ ดีใจที่สามารถทำได้หากแจ้งความจำเป็นกับทางการครับ”

ทั้งนี้ มีชาวเน็ตมากมายเข้ามาให้กำลังใจคุณหมอ พร้อมทั้งเข้าใจในความรู้สึก และแสดงความยินดีที่ลูกสาวได้กลับมาอยู่ในอ้อมอกคุณหมออีกครั้ง โดยมียอดกดไลก์แล้วกว่า 2,500 ครั้ง และแชร์ไปกว่า 80 ครั้ง



กำลังโหลดความคิดเห็น