เพจ “สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 กรมประชาสัมพันธ์” โพสต์ข้อความสื่อญี่ปุ่นชื่นชม บุคลากรทางการแพทย์ประเทศไทย ในการรับมือกับสถานการณ์เชื้อโควิด-19 ระบาดหนัก หายดีสูงถึง 87% นับเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากเป็นอันดับต้นของโลก โดยทางอธิบดีกรมการแพทย์ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวญี่ปุ่นผ่านทางโทรศัพท์ เผยว่า การรักษาของไทยใช้วิธีรีบให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสในลำดับแรกอย่างรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 26 เม.ย. เพจ “สำนักประชาสัมพันธ์เขต 1 กรมประชาสัมพันธ์” โพสต์ข้อความที่ทางสื่อญี่ปุ่นชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ประเทศไทย ในการรับมือกับสถานการณ์เชื้อโควิด-19 ระบาดหนัก หายดีสูงถึง 87% นับเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยผู้โพสต์ระบุว่า
“ประเทศไทยดังอีกแล้ว ดังระเบิดสุดๆ ไปเลย จนวงการแพทย์ญี่ปุ่นถึงกับอึ้งกิมกี่อยากจะขอคารวะสามจอก สำนักข่าวญี่ปุ่นหลายสำนักรายงานว่า ประเทศไทยสามารถรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิดหายดีสูงถึง 87% นับเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลกเลยทีเดียว นายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวญี่ปุ่นผ่านทางโทรศัพท์ ว่า การรักษาของไทยใช้วิธีรีบให้ยาต่อต้านเชื้อไวรัสในลำดับแรกอย่างรวดเร็ว ซึ่งวิธีการรักษาพยาบาลแบบนี้กรมการแพทย์ของไทยคิดค้นวิจัยขึ้นได้เอง ท่านอธิบดีบอกว่า พวกเรามีความมั่นใจว่ามันต้องได้ผลอย่างแน่นอน
จนถึงปัจจุบันนี้ประเทศไทยมีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด 2,954 ราย 2,490 ราย มีอาการดีขึ้นมากอย่างน่าพอใจ นายแพทย์ สมศักดิ์ บอกอีกว่า พวกเรารักษาผู้ป่วยไปตามอาการโดยการใช้ยาต้านไวรัส 7 ชนิดด้วยกัน ตัวยา 6 ชนิด เราสามารถพัฒนาขึ้นได้เอง ส่วนยาอีกตัว คือ Avigan นั้น เราได้รับความร่วมมือนำเข้ามาจากญี่ปุ่นและจีน จนมีจำนวนที่มากพอใช้สำหรับผู้ป่วยทุกคนในประเทศ เราจะแบ่งผู้ป่วยออกเป็น 3 กลุ่ม ตามอาการของพวกเขา ผู้ป่วยกลุ่มแรกที่ไม่มีอาการ เราจะไม่ใช้ยาต้านไวรัส กลุ่มที่สอง มีอาการเบา เราใช้ยาตัวอื่นที่ไม่ใช่ Avigan
กลุ่มที่สาม ผู้ป่วยที่มีอาการหนัก เราจะใช้ยา Avigan ท่านบอกว่า ได้รับรายงานจากแพทย์ทั่วประเทศไทยถึงผลลัพธ์ที่ดีมากจากการให้ยาต้านเชื้อไวรัสกับผู้ป่วยอย่างรวดเร็วในขั้นตอนแรก กรมการแพทย์ของเราได้ทำการศึกษาวิจัยการแพร่ระบาดร่วมกับหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงใช้ประสบการณ์ที่เรามีอยู่ พวกเราทุ่มเทศึกษาเรียนรู้วิธีการรักษาพยาบาลจากต่างประเทศอื่นๆ อีกด้วย กรมการแพทย์ได้ให้นโยบายโรงพยาบาลทั่วประเทศใช้วิธีการรักษาพยาบาลแบบดังกล่าวนี้
นั่นคือ การให้ยาต้านไวรัสอย่างรวดเร็วทันทีในขั้นตอนแรก เราจะไม่ทำการทดลองเป็นกรณีพิเศษก่อน แต่จะลงมือรักษาพยาบาลตามแบบฉบับของเราในทันที คือ การให้ยาต้านเชื้อไวรัสในทันที เพราะความตายจะไม่รอเราหรอก จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเกินวันละ 100 รายติดต่อกันหลายวันในช่วงต้นเดือนมีนาคม ไปจนถึงกลางเดือนเมษายน แต่ถึงหลังจากวันที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมา จำนวนผู้ป่วยติดเชื้อกลับลดลงและหยุดอยู่แค่เพียงวันละต่ำกว่า 20 รายเท่านั้น ถือว่าน่าพอใจ
นายแพทย์ สมศักดิ์ บอกอีกว่า การแพร่ระบาดในระลอกที่สอง ก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่ พวกเราต้องเฝ้าระวังกันต่อไป ถ้าคนไทยเราเคารพกฎระเบียบการเว้นระยะการสัมผัสใกล้ชิดกันของผู้คนในสังคมลงให้ได้ เราก็สามารถควบคุมการแพร่ระบาดให้มันน้อยลงได้ ท่านกล่าวปิดท้าย แปลจากข่าว
薬の早期投与で症状改善 タイ
โพสต์จากทางการญี่ปุ่น
ตามความรู้สึกส่วนตัวของผู้แปลข่าวนี้ ถ้าสำนักข่าวญี่ปุ่นตามสัมภาษณ์ขนาดนี้แสดงว่าญี่ปุ่นชื่นชมทั้งวิธีการรักษาพยาบาล วิธีการควบคุมโรคของประเทศไทยมากๆ ผมเองก็พลอยรู้สึกชื่นชมและภูมิใจกับระบบการแพทย์พยาบาล การสาธารณสุขของไทยเรามากเหมือนกัน”