จากข่าวที่ระบุว่า ยกเลิกบิลค่าไฟเดือนนี้ ให้จ่ายบิลค่าไฟเดือน ก.พ. แทน กฟน. ชี้แจงว่า มีข้อมูลบิดเบือน สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้จ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือนสำหรับรอบการใช้ไฟฟ้าเดือน มี.ค.- พ.ค 63 โดยใช้หน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือน ก.พ. 63 เป็นฐานในการอ้างอิง ไม่ใช่การยกเลิกบิลค่าไฟเดือน เม.ย. ตามที่กล่าวอ้าง
วันนี้ (24 เม.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏตามสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ยกเลิกบิลค่าไฟเดือนนี้ ให้จ่ายบิลค่าไฟเดือน ก.พ. แทน ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย การไฟฟ้านครหลวง พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลบิดเบือน
จากกรณีข่าวที่มีการระบุว่า ยกเลิกบิลค่าไฟเดือนนี้ ให้จ่ายบิลค่าไฟเดือน ก.พ. แทน ทางการไฟฟ้านครหลวง ได้ชี้แจงประเด็นนี้ว่า มีข้อมูลบิดเบือน โดยมาตรการช่วยเหลือผู้ใช้ไฟฟ้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ตามนโยบายรัฐบาล สำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 150 หน่วยต่อเดือน ให้จ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือนสำหรับรอบการใช้ไฟฟ้าเดือน มีนาคม ถึงพฤษภาคม 2563 โดยใช้หน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เป็นฐานในการอ้างอิง ไม่ใช่การยกเลิกบิลค่าไฟเดือนเมษายนตามที่กล่าวอ้าง ดังนี้
1.หากการใช้ไฟฟ้ารายเดือนน้อยกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ให้จ่ายค่าไฟฟ้าตามหน่วยการใช้ไฟฟ้าจริงในเดือนนั้นๆ
2.หากการใช้ไฟฟ้ารายเดือนมากกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 แต่ไม่ถึง 800 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563
3.หากการใช้ไฟฟ้ารายเดือนมากกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และมากกว่า 800 หน่วย แต่ไม่ถึง 3,000 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 บวกด้วยค่าไฟฟ้าสำหรับหน่วยที่มากกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ในอัตราร้อยละ 50 ของค่าไฟฟ้าจริง
4.หากการใช้ไฟฟ้ารายเดือนมากกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 และมากกว่า 3,000 หน่วย ให้จ่ายค่าไฟฟ้าเท่ากับหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 บวกด้วยค่าไฟฟ้าสำหรับหน่วยที่มากกว่าหน่วยการใช้ไฟฟ้าของเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ในอัตราร้อยละ 70 ของค่าไฟฟ้าจริง
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากการไฟฟ้านครหลวง สามารถติดตามได้ที่ www.mea.or.th หรือโทร 1130