ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย แจงประเด็นข้างต้น ทอท.แจ้งว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีการปรับลดหรือยกเว้นการเก็บค่าผลประโยชน์ ตอบแทนในอัตราร้อยละแต่อย่างใด และประเด็นที่กล่าวว่าทำไมออกมาตรการช่วยเหลือได้รวดเร็วทั้งที่ไม่มีสัญญาณการชะลอตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ซึ่งทาง ทอท.แจ้งว่าได้มีการติดตามข้อมูลทางการบินอย่างต่อเนื่อง จึงออกมาตรการได้อย่างรวดเร็ว
วันนี้ (21 เม.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่าตามที่ได้มีข่าวปรากฏในสื่อออนไลน์ต่างๆ ในประเด็นเรื่อง ทอท.ปรับลด หรือไม่เรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราร้อยละ จากร้านค้าปลอดภาษีชื่อดังแห่งหนึ่ง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นมีข้อมูลบิดเบือน
จากกรณีที่มีการกล่าวถึงบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ว่าทำไมถึงออกมาตรการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วทั้งที่ขณะนั้นยังไม่มีสัญญาณการชะลอตัวจากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อีกทั้งมีการปรับลด หรือไม่มีการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนกับร้านขายสินค้าปลอดภาษีแห่งหนึ่งในสนามบิน เป็นระยะเวลา 1 ปี นั้น ทาง ทอท.ได้แจงว่ามีข้อมูลบิดเบือน โดยได้ให้รายละเอียดออกเป็น 2 ประเด็น คือ
กรณีที่กล่าวมีการปรับลด หรือไม่มีการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนกับร้านขายสินค้าปลอดภาษีแห่งหนึ่งในสนามบิน เป็นระยะเวลา 1 ปี นั้น ขอแจ้งว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่มีการปรับลดหรือยกเว้นการเก็บค่าผลประโยชน์ ตอบแทนในอัตราร้อยละ ตามที่ได้กล่าวอ้างแต่อย่างใด ซึ่งข้อเท็จจริงคือ ทอท.ได้มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเชิงพาณิชย์ซึ่งได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นการทั่วไป โดยผู้ประกอบการที่มีเงื่อนไขสัญญาในการชำระค่าผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราร้อยละ และมีการกำหนดค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำเป็นรายเดือนหรือรายปีนั้น ให้เรียกเก็บเฉพาะค่าผลประโยชน์ตอบแทนในอัตราร้อยละ โดยยกเว้นการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ ซึ่งรวมถึงร้านขายสินค้าปลอดภาษีแห่งหนึ่งด้วย
กรณีที่ตั้งข้อสังเกตว่าทำไม ทอท.ถึงออกมาตรการช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วทั้งที่ขณะนั้นยังไม่มีสัญญาณการชะลอตัวจากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรื่องนี้ขอชี้แจงว่า ทอท.ในฐานะผู้ดำเนินการท่าอากาศยาน ได้ติดตามข้อมูลทางการบินอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ในการประเมินสถานการณ์ โดยก่อนออกมาตรการในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พบว่า หลังจากมีการปิดเมืองอู่ฮั่น ในวันที่ 23 มกราคม 2563 แล้ว จำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศได้ลดลงอย่างมีนัยยะจากที่ระดับราว 3 แสนคนต่อวัน เหลือราว 1.5 แสนคนต่อวัน และจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศลดลงจากระดับราว 1.6 พันเที่ยวบินต่อวัน ลงสู่ระดับราว 1.0 พันเที่ยวบินต่อวัน ซึ่งจากการประเมินสัญญาณความเสียหาย ทอท.จึงได้มีการพิจารณามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
ดังนั้น ข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าว เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) สามารถติดตามข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.airportthai.co.th หรือโทร.1722