จากกรณีที่มีการกล่าวถึงเรื่อง พ.ร.บ.อิสลามว่ามีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวไทยมุสลิม ทางกองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและกิจการฮัจย์ ชี้แจงว่า สาระสำคัญที่นำมาอธิบาย เพื่อเป็นเหตุในการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามทั้ง 3 ฉบับของคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นการนำบทบัญญัติ ตลอดจนหลักการและเหตุผล แห่งกฎหมายมาอธิบายอย่างบิดเบือน
วันนี้ (18 เม.ย.) ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อต่างๆ เป็นสื่อวิดีโอเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อิสลามมีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวไทยมุสลิม ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและ กิจการฮัจย์ สังกัด กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น มีข้อมูลบิดเบือน
จากกรณีที่มีสื่อวิดีโอกล่าวถึงเรื่อง พ.ร.บ.อิสลามมีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ชาวไทยมุสลิม ทางการกองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลาม และกิจการฮัจย์ สังกัดกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า สาระสำคัญที่นำมาอธิบาย เพื่อเป็นเหตุในการเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิก กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลามทั้ง 3 ฉบับของคลิปวิดีโอดังกล่าว เป็นการนำบทบัญญัติ ตลอดจนหลักการและเหตุผล แห่งกฎหมายมาอธิบายอย่างบิดเบือน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย คือ ที่กล่าวว่าข้อบังคับของ พระราชบัญญัติ ส่งเสริมกิจการฮัจย์ พ.ศ. 2524 จัดสรรเงินทุนวงเงิน 300 ล้านบาท ให้ไปประกอบกิจกรรมฮัจย์ ซึ่งข้อเท็จจริงคือ ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ เป็นเงินส่วนตัวของผู้เดินทางทั้งสิ้น ซึ่งแต่ละคนจะมีค่าใช้จ่ายประมาณคนละ 2 แสนบาท โดยไม่ได้มีงบประมาณของทางราชการสนับสนุนแต่อย่างใด แต่มีการจัดสรรเงินทุนกู้ยืมจากงบประมาณแผ่นดินให้ผู้ประกอบกิจกรรมฮัจย์ 300 ล้านบาท จริง เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการฮัจย์กู้ยืมโดยไม่มีดอกเบี้ย โดยต้องคืนเงินกู้ยืมเข้ากองทุนให้ครบตามจำนวนที่กู้ยืม และต้องไม่เกิน 30 วันนับแต่วันที่เดินทางกลับถึงประเทศไทย โดยในการกู้ยืมนั้น ต้องวางหนังสือค้ำประกันธนาคารเต็มวงเงินที่กู้ด้วย
อีกทั้งที่มีการกล่าวว่าอนุมัติงบประมาณแผ่นดินสร้างมัสยิดใหญ่หลายแห่ง ก็เป็นข้อมูลที่บิดเบือน เนื่องจากการก่อสร้างมัสยิด นั้นมาจากศรัทธาของศาสนิกชนด้วยการบริจาคที่ดิน และทรัพย์ในการก่อสร้าง โดยภาครัฐมิได้สนับสนุนงบประมาณในการก่อสร้างแต่อย่างใด เว้นแต่มัสยิดกลางประจำจังหวัดในบางจังหวัด เช่น มัสยิดกลางใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งก่อสร้างมาตั้งแต่ก่อน พ.ศ. 2500 ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงเป็นสำคัญ
ดังนั้นข้อมูลที่มีการโพสต์ และแชร์ต่อในขณะนี้ จึงเป็นข้อมูลบิดเบือน ขอความร่วมมือประชาชน ไม่แชร์ ไม่ส่งต่อข่าวดังกล่าวเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากการกองส่งเสริมองค์กรศาสนาอิสลามและ กิจการฮัจย์ สังกัด กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย สามารถติดตามได้ที่ www.multi.dopa.go.th หรือโทร 02 2821461