วันที่ 15 เมษายน 2563 มูลนิธิวีซ่า (Visa Foundation) ประกาศถึงแผนงานที่จัดเตรียมเงินจำนวน 210 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับสองโครงการเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อย สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายระยะยาวของมูลนิธิฯ ในการส่งเสริมความก้าวหน้าและการพัฒนาการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสตรี และตอบสนองกับปัญหาเร่งด่วนของชุมชนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
สำหรับโครงการแรก มูลนิธิวีซ่าได้จัดสรรเงินจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการเยียวยาฉุกเฉินอย่างเร่งด่วนเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานขององค์กรการกุศลต่างๆ ที่เป็นด่านหน้าในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น การบรรเทาปัญหาด้านการสาธารณสุขและอาหาร ทั่วทั้ง 5 ภูมิภาคที่วีซ่าดำเนินธุรกิจ ได้แก่ 1) อเมริกาเหนือ 2) อเมริกาใต้และแคริบเบียน 3) ยุโรป 4) เอเชียแปซิฟิก 5) ยุโรปตอนกลาง ตะวันออกกลาง และ แอฟริกา
“จากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ชุมชนต่างๆ ล้วนได้รับผลกระทบและต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน” อัลเฟรด เอฟ. เคลลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการของวีซ่า กล่าว “การที่บริษัทระดับโลกอย่างวีซ่าดำเนินกิจการเคียงข้างกับธุรกิจระดับท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด ทำให้เรารับรู้ถึงความต้องการเหล่านี้ โดยเราให้คำมั่นที่จะสนับสนุนการฟื้นฟูในระยะยาว และจะดำเนินการมองหาหนทางต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับพันธกิจของเราที่จะช่วยให้ร้านค้า ธุรกิจไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ และเศรษฐกิจทั่วโลกเจริญเติบโตต่อไป”
โครงการที่สองเป็นแผนงานเชิงกลยุทธ์ระยะเวลา 5 ปี พร้อมเงินทุนจำนวน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อยทั่วโลก ที่มุ่งเน้นในการส่งเสริมความก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจของสตรี โครงการนี้ขยายขอบข่ายการสนับสนุนผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อยทั่วโลกที่มีมาอย่างยาวนานของมูลนิธิวีซ่า กองทุนจากวีซ่าจะเป็นเงินทุนให้กับองค์กรไม่แสวงหากำไรต่างๆ และพันธมิตรด้านการลงทุนที่สนับสนุนวิสาหกิจขนาดย่อมและรายย่อย
ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อยถือเป็นแกนหลักของเศรษฐกิจโลก ซึ่งครอบคลุมกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจทั่วโลก และ 50-60 เปอร์เซ็นต์ของการจ้างงาน ทั้งนี้ แต่ละปีมีการขาดดุลเครดิตถึงสามแสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯในส่วนของแหล่งเงินทุนสำหรับธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อยที่มีผู้หญิงเป็นเจ้าของ ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ จากสถานการณ์วิกฤตทางเศรษฐกิจจากโรคโควิด-19
“เวลานี้สำคัญอย่างยิ่งที่วีซ่าจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีแก่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อยเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อยจำนวนมากเป็นผู้หญิง” เคลลี่ กล่าว “การสนับสนุนครั้งนี้จึงจะสร้างผลที่ต่อเนื่องเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของสตรี ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญที่สุดในการบรรลุความเสมอภาคทางเพศ ลดความยากจน และส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวม”
จากเงินทุน 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโครงการเพื่อช่วยเหลือเหล่าธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อย มูลนิธิวีซ่าจะมอบเงิน 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ให้แก่องค์กรพัฒนาเอกชนที่ช่วยเหลือเจ้าของธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อยซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ในทุกภูมิภาคที่วีซ่าดำเนินกิจการ โดยเงินอีก 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะนำไปจัดสรรในการลงทุนกับพันธมิตรของวีซ่าที่สร้างผลประโยชน์ให้สังคม และสร้างผลตอบแทนทางการเงินที่ดีสำหรับธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อย
“เงินทุนบริจาค 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของวีซ่าเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อย โดยมุ่งเน้นในการสร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของผู้หญิงทั่วโลก เพราะเมื่อผู้หญิงประสบความสำเร็จ ชุมชนก็จะเจริญรุ่งเรืองเช่นกัน โดยเราตระหนักถึงความสำคัญในการช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก” แกรห์ม แมคมิลลัน ประธานมูลนิธิวีซ่า กล่าว
สุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดย่อมและรายย่อยถือเป็นแกนหลักที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย วีซ่าได้มีการลงทุนในด้านการพัฒนาสาธารณูปโภคสำหรับการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลในประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการให้ความรู้แก่ผู้บริโภคชาวไทยถึงผลประโยชน์ต่างๆ ของการชำระผ่านระบบดิจิทัล และการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยในการเดินหน้าก้าวสู่การเป็นสังคมไร้เงินสดอย่างในอนาคต”
“ในช่วงเวลาที่ชุมชนทั้งในระดับโลก และท้องถิ่นกำลังเผชิญกับความท้าทาย วีซ่ายังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนให้การชำระเงิน ธุรกิจ และการค้าสามารถดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเรายังทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับลูกค้า พันธมิตร และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางธุรกิจต่างๆ ของเราเพื่อเตรียมพร้อมเมื่อสถานการณ์คลี่คลายในอนาคตอีกด้วย” คุณสุริพงษ์ กล่าวสรุป
รายละเอียดเพิ่มเติม:
• มูลนิธิวีซ่า https://usa.visa.com/about-visa/philanthropy/visa-foundation.html
• กิจกรรมการให้การสนับสนุนความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจสำหรับสตรีที่วีซ่าได้ดำเนินการเมื่อเร็วๆ นี้ https://usa.visa.com/about-visa/newsroom/press-releases.releaseId.17026.html
เกี่ยวกับมูลนิธิวีซ่า
มูลนิธิวีซ่า (Visa Foundation) ดำเนินการเพื่อสนับสนุนทางด้านเศรษฐกิจโดยรวมซึ่งบุคคล ผู้ประกอบธุรกิจ และชุมชนสามารถเจริญก้าวหน้าได้ มูลนิธิฯ ดำเนินงานผ่านการมอบโอกาสและเงินลงทุนด้วยมองเห็นถึงความสำคัญในด้านความสามารถในการฟื้นฟูและการเติบโตของผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยและขนาดย่อมที่เอื้อประโยชน์ต่อสตรี มูลนิธิยังขยายขอบข่ายการสนับสนุนตามความต้องการของชุมชนและการรับมือกับหายนะต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อยามวิกฤต มูลนิธิวีซ่าจดทะเบียนในประเทศสหรัฐอเมริกาตาม ข้อกำหนด 501(c)3
เกี่ยวกับวีซ่า
Visa Inc. (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยมากที่สุด ช่วยให้ผู้บริโภค ธุรกิจต่างๆ สถาบันการเงิน และหน่วยงานรัฐมากกว่า 200 ประเทศ สามารถดำเนินการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และเชื่อถือได้ VisaNet (วีซ่าเน็ต) ซึ่งเป็นเครือข่ายประมวลผลระดับโลกที่ทันสมัยของเราให้บริการการชำระเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ทั่วโลก และมีความสามารถในการจัดการธุรกรรมมากกว่า 65,000 รายการต่อวินาที ด้วยการป้องกันการฉ้อโกง และให้ความมั่นใจในการชำระเงินกับผู้ค้า วีซ่าไม่ใช่ธนาคารและออกบัตรให้บริการ ขยายสินเชื่อ หรือกำหนดอัตราและค่าธรรมเนียมสำหรับลูกค้า ด้วยนวัตกรรมของบริษัทที่ช่วยให้ลูกค้าที่เป็นสถาบันการเงินสามารถมอบทางเลือกการให้บริการกับลูกค้าได้หลากหลายยิ่งขึ้น อาทิ การชำระด้วยเดบิต การชำระล่วงหน้าด้วยระบบพรีเพด หรือชำระภายหลังด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อต่างๆ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ https://usa.visa.com/, visacorporate.tumblr.com and @VisaNews.
เรื่อง : อรวรรณ เหม่นแหลม