เฟซบุ๊ก (Facebook) แย้มแผนเปิดใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบสแตนด์อโลน ให้ผู้ใช้แอป “แมสเสนเจอร์” (Messenger) สามารถวิดีโอคอลล์ได้สะดวก ความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการท้าชนทุกบริการวิดีโอคอลล์ซึ่งมีอิทธิพลสูงในยุคที่ผู้คนต้องอยู่บ้านเพื่อสกัดโควิด-19 รวมถึงซูม (Zoom) ที่เป็นดาวรุ่งมาแรงแห่งยุค
ก่อนหน้านี้ Messenger มีให้บริการเฉพาะในฐานะโมบายแอปพลิเคชันบนอุปกรณ์พกพา แต่ล่าสุดเจ้าพ่อโซเชียลมีเดียจะออกเป็นแอปพลิเคชันสำหรับเดสก์ท็อปแบบแยกเดี่ยว เพื่อให้ผู้ใช้ได้คลิกใช้ต่างหากจากบริการเฟซบุ๊กหลัก โดยจะให้บริการ Messenger ทั้งบนเครื่องแมค (macOS) และวินโดวส์ (Windows)
New Messenger Desktop App for Group Video Calls and Chats https://t.co/wk1zFyp7tk pic.twitter.com/bLBwRDZ1a3
— Facebook Newsroom (@fbnewsroom) April 2, 2020
แอปพลิเคชันสำหรับเดสก์ท็อปนี้ถูกเปิดตัวต่อสาธารณชนครั้งแรกในปี 2019 ระหว่างงานประชุม F8 กำหนดการเปิดให้บริการจริงจะตรงกับช่วงเวลาที่ผู้คนทั่วโลกต้องทำงานจากบ้าน เพื่อต่อสู้กับการแพร่กระจายของไวรัส จุดนี้รายงานย้ำว่า Messenger จะมีหลักการเช่นเดียวกับ Zoom เพราะผู้ใช้ Messenger สามารถทำงานร่วมกัน และสื่อสารกับผู้อื่นผ่านวิดีโอคอลล์ได้ขณะทำงานอื่นคู่ไปด้วย (เป็นแอปที่ทำงานอยู่ในพื้นหลังหรือ background)
อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดคือ Messenger อนุญาตให้ใช้การโทรวิดีโอได้สูงสุด 8 คนเท่านั้น น้อยกว่า Zoom ที่สามารถจัดการการประชุมได้ 100-500 คนพร้อมกัน
การสนทนาทางวิดีโอแบบกลุ่มของ Messenger ในแอพใหม่นี้จะรองรับ GIF และรวมถึงโหมดมืด Dark Mode ด้วย คาดว่าทั้งหมดนี้จะส่งผลให้สถานการณ์ตลาดวิดีโอคอลล์ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้ง.