พิษโควิด! เด็กหญิงเจอมรสุมพ่อป่วย-แม่ออกจากงาน ขอความช่วยเหลือทางทวิตเตอร์

เด็กหญิงตัดสินใจทวีตขอความช่วยเหลือ หลังสถานการโควิด-19 พ่อที่เป็นเสาหลักล้มป่วย แม่ออกจากงานมาดูแล ลงทะเบียนขอเงินเยียวยาจากรัฐระบบขึ้นว่ากำลังตรวจสอบ แต่มรสุมดันจ่อ จึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือผ่านทางทวิตเตอร์ ล่าสุด มีคนเข้าช่วยเหลือและบริจาคเงินจำนวนมาก เด็กหญิงได้ปิดรับบริจาคแล้ว

วันนี้ (13 เม.ย.) เพจ “Portry of Bitch” ได้เผยเรื่องราวน้ำใจของคนไทยที่ให้ความช่วยเหลือเด็กหญิงตัวน้อยที่สู้ชีวิต จนครอบครัวรอดพ้นจากวิกฤตโควิด ซึ่งทำให้เศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของครอบครัวน้องนั้นแย่ลง แถมเงินเยียวยาช่วยเหลือจากรัฐก็ต้องรอ เพราะระบบขึ้นว่ากำลังตรวจสอบนั้น

โดยทางเพจระบุว่า เรื่องราวดีๆ นี้ มาจากสังคมในทวิตเตอร์ ซึ่งติดแฮชแท็ก #เราไม่ทิ้งกัน โดยเผยว่า “ด.ญ.กวิสรา หรือ น้องหมวย อยู่ที่ จ.ชลบุรี กับพ่อและแม่ พ่อของน้องอายุ 52 ปี มีอาชีพขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ส่วนแม่ขายข้าวขาหมู ไม่ทราบอายุแน่ชัดของน้อง คาดว่า น่าจะเรียนประถมตอนปลาย หรือ ม.ต้น เมื่อเกิดไวรัสระบาดพ่อก็ไม่มีรายได้อีกเลย ต่อมาพ่อล้มป่วยเป็นอัมพฤกษ์ แม่จึงต้องหยุดงานเพื่อมาดูแลพ่อ ทำให้ทั้งบ้านต้องขาดรายได้ ซึ่งหมวยช่วยลงทะเบียนให้พ่อในโครงการเยียวยาของรัฐเพื่อรับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท แต่ระบบกำลังตรวจสอบ ทำให้ยังไม่ได้รับเงิน ค่าใช้จ่ายภายในบ้านก็รุมเร้าเข้ามา ทั้งค่าเช่าบ้าน 3,600 บาท ค่าไฟ 1,000 บาท ค่าน้ำ 600 บาท ไหนจะค่าอาหารแต่ละมื้อ ในขณะที่ทั้งบ้านมีเงินเหลือแค่ 200 บาท

หลังจากนั้น หมวยจึงตัดสินใจช่วยพ่อกับแม่ด้วยการโพสต์ขอความช่วยเหลือในทวิตเตอร์ โดยขอรับบริจาคเงินจากพี่ๆ เพียงคนละ 10-20 บาทเท่านั้น หมวยได้ถ่ายภาพพ่อซึ่งนอนป่วยอยู่ ถุงยาของพ่อ และเบอร์โทร.ของพ่อ เพื่อให้คนสามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นเรื่องจริง ได้มีคนโทร.ไปคุยกับพ่อของหมวยและไปเยี่ยมถึงบ้าน พบว่า ทุกอย่างที่หมวยโพสต์เป็นเรื่องจริง ความช่วยเหลือจึงเริ่มหลั่งไหลเข้ามา

ทั้งนี้ ด้านชาวทวิตเตอร์ช่วยกันบริจาคเงินตามกำลังทรัพย์ บางคนส่งข้าวสารอาหารแห้งไปให้ บางคนส่งชักโครกเคลื่อนที่สำหรับผู้ป่วยอัมพฤกษ์ไปให้

นอกจากนี้ ยังมีคนแจ้งไปที่หน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เข้าไปช่วยเหลือครอบครัวของหมวยด้วย ซึ่งเวลาต่อมาน้องหมวยบอกว่ามีเจ้าหน้าที่และตำรวจไปเยี่ยมที่บ้าน รวมทั้งมีช่างไปทำห้องน้ำให้ด้วย เมื่อได้ยอดเงินบริจาคประมาณ 109,000 บาท หมวยก็ขอปิดรับบริจาค โดยน้องบอกว่าเพียงพอในการต่อชีวิตครอบครัวของน้องแล้ว

อย่างไรก็ตาม น้องหมวยได้ฝากทิ้งท้ายว่าต่อไปถ้าน้องเจอคนที่ลำบากกว่า น้องก็จะช่วยเขาเหมือนที่น้องได้รับความช่วยเหลือจากพี่ๆ ในวันนี้”