นักศึกษาไทยพยายามโทรศัพท์ติดต่อสถานทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี เพื่อขอเดินทางกลับ แต่ติดต่อไม่ได้ ต้องส่งอีเมลแจ้ง ได้รับคำตอบเพียงว่า “ให้อดทนรอ” หลังประเทศอินเดียประกาศ Lockdown เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อโควิด-19 จนมหาวิทยาลัยปิดการเรียนการสอน
วันนี้ (3 เม.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Bordin Janecharoen” นักศึกษาไทยในประเทศอินเดีย โพสต์แสดงความไม่พอใจที่กลับประเทศไทยไม่ได้ หลังจากมีการ Lockdown ประเทศอินเดียพยายามประสานกับทางสถานทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี ทั้งการโทรศัพท์ที่ไม่สามารถติดต่อได้เลยในทุกเบอร์ที่แจ้งไว้ จึงตัดสินใจส่ง E-mail เพื่อแจ้งถึงสภาพความเป็นอยู่และความประสงค์ที่จะกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด โดยแจ้งความประสงค์และคำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบได้เองเป็นจำนวน 3 ข้อ ดังนี้
1. การแสดงความประสงค์ขอเดินทางกลับมายังประเทศไทยโดยเร็วที่สุด
2. การสอบถามเที่ยวบินพิเศษในการเดินทางกลับประเทศไทย
3. การสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจร่างกายก่อนบินกลับประเทศไทย (โรงพยาบาลที่สามารถเข้าถึงได้ รายละเอียดที่ไม่สามารถหาคำตอบเองได้)
ซึ่งทางสถานทูตฯ ตอบกลับมานั้นตอบได้เพียงว่า ให้อดทนรอ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า
“สถานการณ์ COVID-19 ที่อินเดียในขณะนี้ อยู่ในขั้นที่เริ่มวิกฤตแล้ว ยอดผู้ป่วยพุ่งขึ้นเฉียด 3,000 คน ในวันนี้ และยังไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นได้ ขนาด Lockdown ยังขนาดนี้ ถ้าไม่ Lockdown จะขนาดไหน ป่านนี้น่าจะพุ่งสู่หลักหมื่นไปแล้ว ซึ่งการ Lockdown โดยฉับพลัน ส่งผลโดยตรงต่อการเป็นอยู่ของคนในราชอาณาจักรโดยตรง ไม่สามารถออกไปซื้ออาหารได้ และอาหารที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อโอกาสในการขยายเวลา Lockdown ของประเทศอินเดีย (ไม่สามารถกินอาหารที่หอพักจัดไว้ให้ เพราะเป็นอาหารมังสวิรัติทั้งหมด) ตอนนี้คุณภาพชีวิตต่ำมาก
ผมเป็นนักศึกษาทุนเรียนภาษาฮินดีที่เมืองอัครา ประเทศอินเดีย ทางมหาลัยปิดการเรียนการสอนแล้ว และนักศึกษาต่างชาติเริ่มทยอยกลับประเทศต้นทาง ผ่านการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและสถานทูตของประเทศอื่นๆ ได้ประสานกับทางรัฐบาลอินเดีย เพื่อส่งเที่ยวบินพิเศษมารับประชาชนของประเทศตัวกลับไปโดยเร็วที่สุด เพราะพวกเขาเล็งเห็นแล้วว่าขืนอยู่ต่อไปประชาชนของพวกเขาต้องได้รับความลำบากมากกว่านี้ หรืออาจจะติดเชื้อได้อย่างแน่นอน
แล้วประเทศไทยละ มีการประสานหรือส่งเที่ยวบินกลับไหม? ฝันไปเถอะ
หลังจากมีการ Lockdown ประเทศอินเดีย ผมพยายามประสานกับทางสถานทูตไทย ณ กรุงนิวเดลี ทั้งการโทรศัพท์ที่ไม่สามารถติดต่อได้เลยในทุกเบอร์ที่ให้ไว้ จึงตัดสินใจส่ง E-mail เพื่อแจ้งถึงสภาพความเป็นอยู่และความประสงค์ที่จะกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด โดยแจ้งความประสงค์และคำถามที่ไม่สามารถหาคำตอบได้เองเป็นจำนวน 3 ข้อ ดังนี้
1. การแสดงความประสงค์ขอเดินทางกลับมายังประเทศไทยโดยเร็วที่สุด
2. การสอบถามเที่ยวบินพิเศษในการเดินทางกลับประเทศไทย
3. การสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการตรวจร่างกายก่อนบินกลับประเทศไทย (โรงพยาบาลที่สามารถเข้าถึงได้ รายละเอียดที่ไม่สามารถหาคำตอบเองได้)
ผมได้พยายามประสานทางสถานทูตไทยก่อนวันที่ 2 เม.ย. 62 ที่รัฐบาลไทยจะประกาศเคอร์ฟิวและชะลอการเดินทางกลับของคนไทยในต่างประเทศด้วยซ้ำ
แต่สิ่งที่ทางสถานทูตตอบกลับมานั้นตอบได้เพียงว่า ให้อดทนรอ รอ รอ แล้วก็รอ ซึ่งไม่รู้ว่ารออะไร และต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ อีกทั้งยังไม่ตอบคำถามหรือให้รายละเอียดที่ชัดเจนทั้งสิ้น แถมเบอร์ที่ให้ไว้ก็ไม่สามารถติดได้ ติดต่อแต่เพียงเบอร์ของศูนย์รับฟังปัญหาของสถานทูต ที่ก็ไม่สามารถตอบคำถามหรือให้ข้อมูลใดๆ ได้เช่นกัน
ผมได้พยายามติดต่อและทำทุกวิถีทางในการขอกลับประเทศไทย แต่ไม่ได้รับความช่วยเหลือในการประสานงานกลับประเทศจากทุกฝ่าย ความช่วยเหลือเพียงสิ่งเดียวที่ได้รับ คือ ให้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่อยู่ใหม่ ซึ่งเป็นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมาก และไม่มั่นใจในเรื่องของความปลอดภัย และที่สำคัญ หากต้องการย้ายที่อยู่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการย้ายที่อยู่เองอีกด้วย
การมาเรียนต่างประเทศในครั้งนี้ และเกิดเหตุการณ์ COVID-19 นี้ ทำให้รู้สึกว่าถูกสถานทูตไทยและรัฐบาลทอดทิ้ง มันน่าเศร้านะ ที่เวลาประเทศอื่นๆ ถามว่า ประเทศคุณไม่ส่งเครื่องบินมารับเหรอ เราก็ตอบได้เพียงว่า “รัฐบาลเขาไม่สนใจพวกฉันหรอก”