รอยเตอร์ - อินเดียจะถอนมาตรการล็อกดาวน์ประเทศ 3 สัปดาห์อย่างเป็นขั้นเป็นตอน จากการเปิดเผยของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี ในวันพฤหัสบดี (2 เม.ย.) แม้เจ้าหน้าที่พยายามดิ้นรนต่อสู้อย่างหนัก เพื่อควบคุมกลุ่มก้อนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ใหญ่ที่สุดของประเทศในกรุงนิวเดลี
มาตรการล็อกดาวน์ซึ่งทำชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของเอเชียตกอยู่ในภาวะแน่นิ่ง มีกำหนดหมดอายุลงในวันที่ 14 เมษายน
ในมาตรการดังกล่าว โมดี สั่งประชากร 1,300 ล้านคนของประเทศอยู่แต่ในบ้านเพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ครั้งมโหฬาร อย่างไรก็ตาม ภาวะชัตดาวน์ใหญ่ที่สุดของโลก ส่งผลให้คนหลายล้านต้องตกงาน และบีบให้แรงงานต่างเมืองแห่แหนหลบหนีกลับไปยังภูมิลำเนา บ้านเกิดเมืองนอน ที่พวกเขายังพอมีที่ซุกหัวนอนและอาหารประทังชีวิต
โมดีบอกกับมุขมนตรีของรัฐต่างๆ ว่า มาตรการล็อกดาวน์ช่วยจำกัดการแพร่เชื้อได้จริง แต่สถานการณ์ทั่วโลกยังห่างไกลจากระดับที่น่าพอใจ และเชื่อว่า จะมีการระบาดระลอก 2 ตามมา
รัฐบาลอ้างคำพูดของนายกรัฐมนตรีระหว่างการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ว่า “นายกรัฐมนตรีบอกว่ามันสำคัญที่ต้องกำหนดยุทธศาสตร์ออกจากล็อกดาวน์ร่วมกัน เพื่อหลีกเลี่ยงการรวมกลุ่มของประชาชนเมื่อครั้งที่ล็อคดาวน์สิ้นสุดลง”
อินเดียพบผู้ติดเชื้อแล้ว 1,965 คน ในนั้นเสียชีวิต 50 ราย ถือว่าเล็กน้อยมากหากเทียบกับสหรัฐฯ, จีน, อิตาลี และสเปน
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลใหญ่หลวง ว่า การรวมกลุ่มของประชาชนจะเกิดขึ้นอีกครั้งในนิวเดลี หลังจากการรวมตัวของกลุ่มคณะผู้สอนศาสนามุสลิมกลุ่มหนึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว กลายเป็นชนวนของเคสผู้ติดเชื้อหลายสิบคนทั่วประเทศ
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คนอินเดียจำนวนมากต่างพากันเบียดเสียด เพื่อขึ้นรถไฟ หรือรถเมล์ให้ทันก่อนที่กิจการทุกอย่างจะหยุดชะงัก ขณะที่ผู้คนอีกมากต้องยอมเดินเท้าเพื่อกลับไปยังหมู่บ้านของตัวเอง หลังจากที่ภาครัฐสั่งปิดระบบขนส่งสาธารณะ และคงไว้เฉพาะบริการสำคัญๆ เพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัสที่ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมในอินเดียแล้วกว่า 1,000 คน
จากสถิติของรัฐบาลเมื่อช่วงปี 2016-2017 พบว่า อินเดียมีแรงงานผู้อพยพไร้ทักษะหรือทักษะต่ำอยู่ประมาณ 100 ล้านคน หรือคิดเป็นราวๆ 1 ใน 5 ของแรงงานทั้งประเทศ
เมื่อไม่มีงานให้ทำ แรงงานส่วนใหญ่โดยเฉพาะในรัฐที่ยากจน เช่น พิหาร และ อุตตรประเทศ จึงพากันมุ่งหน้าสู่เมืองใหญ่ และรัฐที่ร่ำรวยทางตอนใต้ คนเหล่านี้ต้องอาศัยนอนในห้องพักที่คับแคบ และมีชั่วโมงทำงานที่ยาวนานในแต่ละวัน โดยได้ค่าจ้างเพียงเล็กน้อย และไม่มีความปลอดภัยหรือสวัสดิการใดๆ จากภาครัฐ
เงินที่เหลือจากการใช้จ่ายจะถูกส่งกลับไปจุนเจือครอบครัวที่บ้าน
สื่ออินเดียคาดการณ์ว่า คำสั่งล็อกดาวน์ได้ก่อให้เกิดการอพยพเคลื่อนย้ายประชากรนับแสนๆ คน