ช้าไปต๋อย ... องค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย เจอทวิตเตอร์ปล่อยเฟกนิวส์ ไทยระบาดโควิด-19 ระยะที่ 4 ทำคนแตกตื่นรีทวีตไปเกือบ 2 หมื่นครั้ง ผ่านไป 2 วัน เพิ่งจะชี้แจง ลั่นตารางที่แคปมาเป็นความสามารถในการเตรียมความพร้อม ไม่ใช่การระบาด
วันนี้ (20 มี.ค.) องค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย ชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงกรณีที่ในทวิตเตอร์แคปหน้าจอเว็บไซต์องค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นตารางแสดงระดับความสามารถในการเตรียมความพร้อม ซึ่งประเทศไทยอยู่ในระดับที่ 4 แต่กลับโมเมว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ในระดับที่ 4 และอ้างว่า องค์การอนามัยโลกประกาศเอง ทำให้ผู้คนแตกตื่นรีทวีตจำนวนมาก
โดย องค์การอนามัยโลก ประจำประเทศไทย ชี้แจงว่า “อย่าเพิ่งสับสนระหว่าง ระดับการแพร่ระบาด กับ ระดับความสามารถการเตรียมความพร้อม เมื่อเร็วๆ นี้ มีการเผยแพร่และส่งต่อข้อความที่อาจสร้างความเข้าใจผิดเรื่องระดับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในประเทศไทย ณ วันนี้ยังอยู่ในระยะ 2 คือ แพร่ระบาดในประเทศเป็นวงจำกัด
ส่วนรายงานจากองค์การอนามัยโลก เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 เรื่องการเตรียมความพร้อมเชิงกลยุทธ์และแผนการตอบสนองของประเทศและดินแดนต่างๆ ต่อการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด- 19) หรือ COVID-19 Strategic Preparedness and Response Plan นั้น ประเทศไทยอยู่ในระดับ 4 ด้านความสามารถในการเตรียมความพร้อมและการตอบสนองต่อการระบาด ที่พบจำนวนผู้ติดเชื้อตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป”
⚠️ อย่าเพิ่งสับสนระหว่าง ระดับการแพร่ระบาด กับ ระดับความสามารถการเตรียมความพร้อม!
— WHO Thailand (@WHOThailand) March 20, 2020
เมื่อเร็วๆ นี้ มีข้อความที่อาจสร้างความเข้าใจผิดเรื่องระดับการแพร่ระบาดของ #โควิด19 ในไทย
การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทย ณ วันนี้ ยังอยู่ในระยะ 2 คือ แพร่ระบาดในประเทศเป็นวงจำกัด#WHOThailand pic.twitter.com/0JFY6JOBCj
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่โพสต์ข้อความข้างต้นยังไม่ลบข้อความ โดยมีคนรีทวีตมากกว่า 1.9 หมื่นครั้ง และยังไม่มีใครออกมาดำเนินคดีกับผู้ใช้ทวิตเตอร์รายนี้ ที่ปล่อยข่าวลือทำให้สังคมเข้าใจผิด ถึงกระนั้นพบว่าองค์การอนามัยโลกชี้แจงเรื่องนี้ช้าเกินไป ผ่านไป 2 วัน เพิ่งจะชี้แจง แสดงให้เห็นถึงความร้ายแรงในการปล่อยข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์ผ่านโซเชียลมีเดีย ที่ยังคงสร้างความเสียหายและเกิดความเข้าใจผิดแก่สังคม