เป็นข่าวดังไม่แพ้ “ผู้มีเกียรติ” กัดกัน เมื่อฝูงลิงเมืองลพบุรีนับพันตัวยกพวกกัดกันแย่งของโปรด ก็คือนมเปรี้ยวที่มีผู้นำไปบริจาค ไม่ยักรู้ว่าของโปรดของลิงคือนมเปรี้ยว คนที่แจกกล้วยเลี้ยงลิงลองแจกนมเปรี้ยวดูบ้างอาจจะได้ผลมากกว่าก็ได้
ลพบุรีเป็นเมืองดังมาหลายยุคหลายสมัย เป็นชุมชนมาก่อนประวัติศาสตร์ ตั้งขึ้นเป็นเมืองใน พ.ศ.๑๐๐๒ สมัยทวาราวดีที่ขอมเรืองอำนาจ มีชื่อว่า “กรุงละโว้” เป็นเมืองสำคัญในยุคนั้นที่ได้ทิ้งพระปรางค์สามยอดไว้ให้เป็นสัญลักษณ์ของลพบุรีมาจนทุกวันนี้
ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ลพบรีเป็นราชธานีแห่งที่ ๒ รองจากกรุงศรีอยุธยา ชาวต่างประเทศหลายชาติหลายภาษาเข้ามาเดินกันขวักไขว่ ทรงสร้างพระราชวังลพบุรีด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างอยุธยา ยุโรป และเปอร์เซีย ทรงประทับว่าราชการที่ลพบุรีเป็นส่วนใหญ่
ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ “ท่านผู้นำ” จอมพล ป.พิบูลสงคราม ก็ได้สร้างเมืองลพบุรีให้รุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง ด้วยอาคารที่ทำการรัฐบาลใหญ่โตโอฬาร ถนนหนทางกว้างขวางจนคนลพบุรีเองยังตกใจ
แต่ในวันนี้เมื่อพูดถึงลพบุรี คนจะนึกถึง ลิง จนลพบุรีกลายเป็นเมืองลิงไปเสียแล้ว เพราะมีการนำลิงมาโปรโมทการท่องเที่ยว และลิงลพบุรีก็มีเสน่ห์พอที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาลพบุรีได้เสียด้วย
ไม่มีใครชี้ชัดได้ว่า ลิงเป็นพันตัวที่วิ่งขวักไขว่อยู่แถวศาลพระกาฬ พระปรางค์สามยอด และตลาดลพบุรี จนเป็นจุดขายที่ได้ผลของลพบุรีนี้มาจากไหน สันนิษฐานว่าศาลพระกาฬ หรือที่ชาวลพบุรีเรียกว่า “ศาลสูง” เพราะสร้างขึ้นบนฐานศิลาแลงของเทวสถานเก่าสมัยขอมในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช มีบันไดขึ้นไป ๒๐ กว่าขั้น แต่เดิมโดยรอบยังเป็นป่าและมีลิงอาศัยอยู่ เมื่อมีคนนำของมาเซ่นไหว้ที่ศาลอยู่เสมอ อาหารคาวหวานและผลไม้เหล่านั้นจึงเป็นอาหารอันโอชะของลิง ส่วนคนก็เชื่อว่าลิงเหล่านั้นเป็นลูกศิษย์เจ้าพ่อพระกาฬ ต้องกินเครื่องเซ่นต่อจาดเจ้าพ่อ ก็เลยสบายลิงไป อาศัยศาลพระกาฬเป็นที่อยู่กินอย่างอิ่มหมีพลีมัน ไม่ต้องหนีความเจริญของเมืองไปอย่างสัตว์ป่าประเภทอื่น และปรับพฤติกรรมอยู่ร่วมกับคนจนเป็นสัตว์เมืองไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม แม้ลิงกลุ่มนี้จะปรับพฤติกรรมจากจากลิงป่ามาอยู่ร่วมกับคนหลายชั่วอายุ แต่ลิงก็คือลิง ถ้าคนไปเที่ยวแล้วเผลอ ลิงอาจจะแย่งกระเป๋าถือหรือโทรศัพท์ไป จะตามคืนก็ลำบาก แจ้งความก็ไม่ได้เสียด้วยซี
ลิงลพบุรีจะมีอยู่ ๒ กลุ่ม คือลิงศาลพระกาฬที่วิ่งไปมาระหว่างศาลพระกาฬกับพระปรางค์สามยอดที่อยู่คนละฝั่งกับทางรถไฟ และอาศัยพระปรางค์เป็นที่หลับนอน เพราะที่ศาลมีคนพลุกพล่าน จะงีบกลางวันเสียหน่อยก็ไม่สงบ โดยเฉพาะเทศกาลต่างๆอย่างตรุษจีน มีการจุดประทัดกันสนั่นหวั่นไหว ลิงรำคาญคนที่ไม่รู้จักเกรงใจ เลยหนีไปนอนที่พระปรางค์
ลิงกลุ่มที่ศาลนี้มีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ของศาลจะนำอาหารมาเลี้ยงวันละ ๒ เวลา สร้างสระน้ำไว้ให้อาบคลายร้อน ทั้งเวลาเจ็บป่วยก็จะได้รับการดูแลจากสัตว์แพทย์ เพราะถือว่าลิงเป็นส่วนหนึ่งของศาล เรียกว่าลิงมีสังกัด
อีกกลุ่มหนึ่งเป็นลิงที่อยู่ตามตึกฝั่งตรงข้ามกับศาล เรียกว่า “ลิงตึก” ปีนป่ายหลับนอนอยู่คนละฟากถนนกับลิงกลุ่มแรก บางครั้งก็ยกพวกตีกับลิงศาลพระกาฬ แต่ก็ไม่รุนแรงเอาเป็นเอาตายเหมือนพวกนักเรียนเกเร ลิงพวกนี้ไม่สามารถจะข้ามถิ่นไปหากินที่ศาลได้ เพราะจะถูกลิงที่ศาลคอยขับไล่ปกป้องผลประโยชน์ ลิงกลุ่มนี้จึงก่อความเดือดร้อนรำคาญให้แก่คนที่อาศัยอยู่แถวนั้น ทำลายข้าวของทุกอย่าง เปิดประตูหน้าต่างไม่ได้เลย ต้องมีหนังสติ๊กไว้ขู่ พอโดนเข้าเลยกลัว ลิงพวกนี้เป็นลิงที่เร่ร่อนมา บางตัวก็แตกฝูงถูกขับไล่ออกมาจากศาลพระกาฬ บางตัวก็เป็นลิงที่คนเลี้ยงไว้ ต่อมาเจริญวัยติดสัตว์ก็กัดเจ้าของ เลยแอบเอามาปล่อยให้เป็นปัญหาของคนอื่นแทน
แม้ลิงจะก่อความเดือดร้อนรำคาญให้คนอยู่ไม่น้อย แต่ทั้งคนทั้งลิงต่างก็ปรับตัวเข้าหากัน ทุกวันนี้คนที่ถูกลิงตึกรบกวน ได้จัดหาอาหารมาให้ลิงเป็นประจำด้วยเมตตา ลิงตึกจึงเชื่องขึ้นไม่เกะกะเกเรเพราะความหิวอย่างแต่ก่อน กลายเป็นผู้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ดี จนมีการจัดเลี้ยงโต๊ะจีนลิงประจำปีขึ้น เป็นข่าวดังไปทั้งโลก วันนี้ลพบุรีจึงขาดลิงไม่ได้ ปัญหาจึงมีแค่ต้องควบคุมประชากรลิงไม่ให้มากไปกว่านี้ ซึ่งก็ใช้วิธีคุมกำเนิดบ้างแล้ว
ลิงลพบุรีเป็นลิงกลุ่มเดียวในประเทศไทยที่อยู่ร่วมสังคมกับคนได้อย่างปกติสุข ไม่ได้อยู่อย่างสัตว์ป่าหรือสัตว์เลี้ยงที่ถูกกักขัง มีอิสรเสรีที่จะไปไหนมาไหน ขึ้นรถไฟไปเที่ยวก็ยังได้ ได้รับการยอมรับว่าเป็นสัตว์เมืองเช่นเดียวกับคน จะว่าไปแล้วจะดังกว่าเสียด้วย เพราะนักท่องเที่ยวทั่วโลกรู้จักลพบุรีก็เพราะลิง แม้แต่คนไทยเองที่ไปเที่ยวลพบุรี สิ่งแรกที่อยากไปดูก็คือลิงศาลพระกาฬ ถ้าไปลพบุรีแล้วไม่ได้ไปดูลิงก็เหมือนไม่ได้ไปลพบุรี ลิงลพบุรีจึงเป็นผู้ต้อนรับแขกเมืองอย่างมีเสน่ห์ แม้แต่คนลพบุรีเองยังติดสติกเกอร์ไว้หลังรถด้วยความภูมิใจว่า “คนเมืองลิง”