นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประกาศห้ามประชาชนเดินทางออกนอกประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ตั้งแต่ 18-31 มี.ค.นี้ รวมทั้งไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเข้าประเทศ หวังยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมสั่งหยุดสถานที่ทางศาสนา และออฟฟิศทั้งหมด เว้นบริการสาธารณูปโภค โทรคมนาคม และ ซูเปอร์มาร์เก็ต
วันนี้ (16 มี.ค.) สื่อต่างประเทศรายงานว่า นายมูห์ยิดดิน ยัสซิน นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แถลงข่าวทางโทรทัศน์ ว่า ทางการมาเลเซียจะห้ามไม่ให้ประชาชนออกนอกประเทศ และห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศเป็นเวลา 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค. 2563 ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการจำกัดความเคลื่อนไหว ที่ประกาศโดยรัฐบาลมาเลเซีย เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งนี้ เป็นไปตามพระราชบัญญัติป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อปี 1988 และพระราชบัญญัติตำรวจปี 1967
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวห้ามมิให้ประชาชนชาวมาเลเซียทุกคนออกนอกประเทศ และผู้ที่เดินทางจากต่างประเทศจะต้องตรวจคัดกรองและกักตัวเองเป็นเวลา 14 วัน ส่วนชาวต่างชาติจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศมาเลเซียในช่วงเวลาดังกล่าวอีกด้วย นอกจากนี้ ยังไม่อนุญาตให้มีการรวมตัวกันทำกิจกรรมในที่สาธารณะ รวมทั้งกิจกรรมทางศาสนา การแข่งขันกีฬา กิจกรรมสังคมและวัฒนธรรม
นายมูห์ยิดดิน กล่าวว่า เพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง สถานที่ทางศาสนา สถานที่ราชการ และสถานประกอบการภาคธุรกิจทั้งหมด จะต้องหยุดให้บริการ เช่นเดียวกับสถานรับเลี้ยงเด็ก โรงเรียนรัฐบาลและเอกชน รวมทั้งโรงเรียนประจำ โรงเรียนนานาชาติ ศูนย์ตาฮิซ และสถานศึกษาเตรียมอุดมศึกษา มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน และศูนย์ฝึกอาชีพก็จะต้องหยุดการเรียนการสอนเช่นกัน
ยกเว้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับสาธารณูปโภคที่จำเป็น เช่น ประปา ไฟฟ้า พลังงาน โทรคมนาคม ไปรษณีย์ การขนส่ง บริหารจัดการน้ำ ธุรกิจน้ำมัน ปิโตรเลียม เชื้อเพลิง การกระจายเสียง การเงินการธนาคาร สุขภาพ ร้านขายยา งานดับเพลิงและกู้ภัย เรือนจำ ท่าเรือ สนามบิน การรักษาความปลอดภัย ความมั่นคง งานรักษาความสะอาด ค้าปลีก ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหาร รวมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านขายของชำ และร้านสะดวกซื้อ ที่ซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน
เขาอธิบายว่า มาตรการดังกล่าวทราบดีว่า อาจทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวก และเป็นอุปสรรคในชีวิตประจำวัน แต่รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งอาจจะช่วยชีวิตประชาชนของเรา รัฐบาลได้เห็นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประเทศอื่นที่เพิ่มขึ้นจากไม่กี่ร้อยเป็นสอง-สามพันคนในระยะเวลาอันสั้น มั่นใจว่า ประชาชนไม่ต้องการให้เกิดขึ้น และรัฐบาลไม่อาจรอจนกว่าสถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งขึ้น มาตรการขั้นเด็ดขาดจะต้องดำเนินการทันที เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัส ด้วยการจำกัดความเคลื่อนไหว เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะหยุดยั้งไม่ให้ประชาชนติดเชื้อเพิ่มขึ้น
นายมูห์ยิดดิน คาดหวังว่า ประชาชนชาวมาเลเซียทุกคนจะอดทน ไม่ตื่นตระหนก อย่าวิตกกังวล และอยู่ในความสงบ เชื่อว่า ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยหยุดยั้งการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 ได้ พร้อมให้ความมั่นใจว่าอาหารและเวชภัณฑ์ที่จำเป็น เช่น หน้ากากอนามัย มีปริมาณเพียงพอ โดยสั่งการให้กระทรวงการค้าติดตามสถานการณ์อาหารและสิ่งของที่จำเป็นในชีวิตประจำวันระหว่างระยะเวลาที่มีคำสั่งจำกัดการเคลื่อนไหว และเรียกร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด เพราะถือเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล และต้องดำเนินการรับผิดชอบในฐานะประชาชนที่ต้องดูแลครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ปัจจุบันประเทศมาเลเซีย มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวม 553 ราย โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 125 ราย ก่อนหน้านี้ มีผู้ป่วยกว่า 300 ราย ที่กลับจากการร่วมงานเผยแพร่ศาสนาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 28 ก.พ. ถึง 1 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 16,000 คน นำไปสู่การแพร่เชื้อในประเทศสิงคโปร์ บรูไน และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ กิจกรรมทางศาสนาและการละหมาดทุกวันศุกร์ ที่มัสยิดและสุเหร่าทั่วประเทศ จะหยุดเป็นเวลา 10 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-26 มี.ค. 2563
