เพจ “Doctor D” โพสต์ความรู้กรณีหน้ากากอนามัย สีเขียว-ขาว สามารถป้องกันไวรัสได้จริง เพราะสีเขียวมีสารเคลือบเพื่อกันน้ำ ลอยมาก็จะไม่ซึมเข้ามาสัมผัสตัวเรา ส่วนด้านสีขาวที่เป็นด้านในนั้น มีคุณสมบัติในการดูดซึมละอองไอของเหลวจากตัวเรา โดยหน้ากากอนามัยดังกล่าวเหมาะกับบุคลากรทางการแพทย์ สำหรับประชาชนทั่วไปวิธีที่ดีสุด กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. เพจ “Doctor D” ได้ออกมาให้ข้อมูลกรณีหน้ากากอนามัย สีเขียว-ขาว นั้น สามารถป้องกันไวรัสได้ เพราะว่า ด้านสีเขียวมีสารเคลือบเพื่อกันน้ำ หากมีสารคัดหลั่งลอยมาก็จะไม่ซึมเข้ามาสัมผัสตัวเรา ส่วนด้านสีขาวที่เป็นด้านในนั้น มีคุณสมบัติในการดูดซึมละอองไอของเหลวจากตัวเรา ซึ่งถ้าหากเราป่วย เชื้อโรคจะถูกเก็บไว้ในส่วนนี้ ไม่ซึมออกไปด้านนอกซึ่งมีสารกันน้ำอยู่
สำหรับ หน้ากากผ้าที่จะป้องกันไวรัสได้ดี จะต้องมีคุณสมบัติเหมือนกับหน้ากากอนามัย “อย่างน้อย” 2 ชั้น วัตถุดิบที่เหมาะสำหรับทำหน้ากากชั้นนอก ตามที่สมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์เมื่อวานนี้ คือ ผ้าที่ทอด้วยเส้นใยชนิดพิเศษ เป็นผ้าเส้นใยสังเคราะห์เป็นเส้นใยยาว ป้องกันการเป็นแหล่งเพาะเชื้อ เป็นขุยและฝุ่นละออง ทอด้วยวิธีพิเศษ มีประสิทธิภาพการกรองได้ถึง 0.3 ไมครอน เพิ่มการกันน้ำด้วย Fluorocarbon C6 หรือ เทฟลอน สามารถกรองได้ทั้งฝุ่น PM 2.5 และไวรัสโควิด-19 สามารถซักได้ไม่น้อยกว่า 50 ครั้ง โดยที่คุณสมบัติไม่เปลี่ยนซึ่งจะเป็นผ้าที่ใช้ทำหน้ากากผ้าได้ดีที่สุด
โดยสรุปแล้ว ผู้ที่ควรใช้หน้ากากอนามัย เขียว-ขาว คือ บุคลากรทางการแพทย์, ผู้ป่วย, ผู้ที่ต้องอยู่ใกล้ชิดผู้ป่วย สำหรับประชาชนทั่วไป ขอรณรงค์ให้ใช้หน้ากากผ้าตามแบบที่แนะนำ คือ ด้านนอกกันน้ำ และด้านในสามารถดูดซึมน้ำได้ เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์ของเราที่มีความเสี่ยงสูง และเป็นปราการด่านหน้าในการต่อสู้กับโรคร้าย และ วิธีการป้องกันไวรัสที่ดีที่สุดสำหรับประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เป็นโรค คือ การกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อยๆ อย่างถูกวิธี คือ ล้างด้วยน้ำสบู่จนทั่วโดยใช้เวลาไม่น้อยกว่า 20 วินาที ถ้าไม่สะดวกล้างมือด้วยสบู่ สามารถใช้เจลล้างมือที่มีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ระหว่าง 70-75% ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข