xs
xsm
sm
md
lg

นักวิชาการชี้ต่อให้นายกฯ ลาออกลดกระแสม็อบได้แค่ชั่วคราว แนะเปิดเวทีรับฟังต้องจริงใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“นักวิชาการ” ชี้ต่อให้นายกฯ ลาออกลดกระแสม็อบได้แค่ชั่วคราว ถ้ารัฐธรรมนูญต้นเหตุยังไม่ได้รับการแก้ไข แนะรัฐเปิดเวทีรับฟังนักศึกษาอย่างจริงใจต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงจริง ถึงจะช่วยลดความร้อนแรงได้มาก



วันที่ 5 มี.ค. 63 นายปุรวิชญ์ วัฒนสุข นักวิชการ วิทยาลัยการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “เปิดเวทีประชาชนดับไฟลามทุ่ง?”

โดยนายปุรวิชญ์กล่าวว่า แฟลชม็อบจุดติดตั้งแต่วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ เกิดปฏิกิริยาทันทีในกลุ่มนักศึกษา จากกลุ่มเล็กๆ เริ่มขยายออกไปเรื่อยๆ การไม่มีแกนนำไม่มีการจัดตั้งอย่างเป็นระบบ กระจัดกระจายไปทั่ว มันหยุดยั้งได้ยาก รัฐบาลจะเชิญตัวแทนนักศึกษามาคุย ก็ไม่มั่นใจว่ากลุ่มอื่นๆ จะเห็นด้วยหรือไม่

กลุ่มนักศึกษาแต่ละแห่งมีจุดร่วมกันบางอย่าง เช่น ความรู้สึกไม่ได้รับความยุติธรรม สภาพสังคมดูสิ้นหวัง ที่สำคัญสุดคือภาพวาดอนาคตประเทศไทยที่พวกเขาอยากเห็น

นายปุรวิชญ์กล่าวอีกว่า ถ้ารัฐบาลเสนอทางออกแก้รัฐธรรมนูญแล้วยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ถ้ารัฐบาลมีเจตนาจริงใจอาจฟังขึ้นในระดับหนึ่ง แต่ทุกกลุ่มไหมไม่ทราบ ส่วนธงใหญ่ของนักศึกษาคือต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปเลย เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหา

นายปุรวิชญ์กล่าวด้วยว่า การเปิดเวทีรับฟัง ตนคิดว่าเป็นการลดกระแสความร้อนแรงมากกว่า โดยใช้ช่องทางระบบรัฐสภาดึงเด็กมาเพื่อลดกระแสส่วนนึง ส่วนจะนำไปสู่การแก้ไขหรือไม่เป็นอีกเรื่องนึง

นายปุรวิชญ์กล่าวว่า หลังจากสอบเสร็จแฟลชม็อบมาอีกแน่ เพราะอารมณ์ไปไกลแล้วแม้รัฐบาลยื่นมือมาชวนให้ไปร่วมกัน นึกถึงตอนที่เรายังวัยรุ่น อะไรก็ฉุดไม่อยู่ ต้องทำให้สุด ยิ่งเรื่องการเมืองกระแสจุดติดแบบนี้ การหาทางลงตัวรัฐบาลกับนักศึกษาอาจไม่ง่าย

เราปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้นายกฯวิกฤตความชอบธรรม คนจำนวนมากไม่ยอมรับในฐานะผู้นำประเทศ การที่นายกฯลาออกมันคือวิธีปฏิบัติตามประชาธิปไตยปกติ แต่สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ถ้าลาออกจริงอาจลดกระแสได้แค่ชั่วคราว เพราะโครงสร้างระบบการเมืองยังเป็นแบบนี้ ซึ่งก็ต้องย้อนไปที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันอยู่ดี มันไม่ได้เปลี่ยนไปในทางอุดมคติของคนที่มาทำแฟลชม็อบ เหมือนโรงละครโรงหนึ่ง ที่แค่เปลี่ยนพระเอกมาแสดง

นายปุรวิชญ์ยังกล่าวอีกว่า เมื่อถามถึงกระแสมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมไหม เรามักคิดถึง 14 ตุลา 16 แต่ปี 2563 ไม่เหมือน 2516 นิสิตวันนั้นกับวันนี้รับข้อมูลข่าวสารไม่เหมือนกัน อาจมีการเรียนรู้ภาพที่ใฝ่ฝันในอนาคตเหมือนกัน แต่การออกมาเรือนแสน แฟลชม็อบคงเทียบ 14 ตุลาไม่ได้ แต่กระแสความคิดมีมหาศาลไม่ต่างกัน

สุดท้ายไม่อยากให้มีความรุนแรง อะไรที่นำมาสู่กระบวนการมีพื้นที่ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมกำหนดอนาคตร่วมกัน คิดว่าไม่จำเป็นต้องออกมาแสดงพลังขนาดนี้ หาจุดที่ยอมกันได้ แต่ฝ่ายรัฐต้องมีความต้องการเปลี่ยนแปลงด้วย อะไรที่ทำให้ลดอุณหภูมิลง ตอบสนองข้อเรียกร้องอย่างจริงใจ จะช่วยลดอุณหภูมิได้มาก


กำลังโหลดความคิดเห็น