พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชรฯ เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานเครื่องมือแพทย์ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ณ เรือนจํากลางคลองไผ่ และเสด็จไปทรงเปิดโซนควบคุมผู้ต้องขังในโรงพยาบาล ณ โรงพยาบาลปากช่องนานา อําเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา
ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพประชาชนทุกภาคส่วนให้สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกันทุกหมู่เหล่า ไม่เว้นแม้แต่ผู้ต้องขังที่ประสบปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ เวชภัณฑ์ และขาดบุคลากรทางการแพทย์ที่จะดูแลรักษา สมควรมีสิทธิ์ได้รับการรักษาดูแลสุขภาพอนามัย อันเป็นไปตามหลักมนุษยธรรม และเมื่อพ้นโทษจะได้มีสุขภาพสมบูรณ์ทั้งกายและใจ ออกมาสู่สังคมภายนอก และประกอบอาชีพสุจริตได้อย่างมีคุณภาพ อันเป็นการสืบสาน รักษาและต่อยอด แนวพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรทนาถบพิตร เกี่ยวกับการดูแลและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ต้องขัง เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพหลังจากพันโทษ
วันนี้ (2 มี.ค.) เวลา 14.17 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดาเสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานเครื่องมือแพทย์ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทําความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้กับเรือนจํากลางคลองไผ่,เรือนจํากลางนครพนม,เรือนจํากลางนครราชสีมา ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา ณ เรือนจํากลางคลองไผ่ และเสด็จไปทรงเปิดโซนควบคุมผู้ต้องขังในโรงพยาบาล ณ โรงพยาบาลปากช่องนานา อําเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา
การนี้พระราชทานรถเอกซเรย์เคลื่อนที่ แด่ โรงพยาบาลปากช่องนานา โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.นครราชสีมา โรงพยาบาลอุดรธานี และโรงพยาบาลขอนแก่น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรักษาผู้ต้องขังและประชาชนในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง จ.นครราชสีมา จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดขอนแก่นได้ใช้ประโยชน์ จากนั้นพระราชทานหนังสือเพื่อใส่ในมุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ปันสุข แก่หัวหน้าหัวหน้าสถานพยาบาลเรือนจํากลางคลองไผ่ หัวหน้าสถานพยาบาลเรือนจํากลาง นครราชสีมา ,หัวหน้าสถานพยาบาล ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา และ หัวหน้าสถานพยาบาลเรือนจํากลางนครพนม พร้อมพระราชทานวีดิทัศน์แก่ผู้แทนอาสาสมัครสาธารณสุขในเรือนจํา 4 แห่ง
ต่อมาเสด็จยังอาคารพยายาล ทรงกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้าย “มุมสุขภาพ ราชทัณฑ์ ปันสุข” และทอดพระเนตรห้อง Telemedicine อันเป็นการรักษาแบบการแพทย์ทางไกล ทอดพระเนตรห้องทันตกรรม ทอดพระเนตรการสาธิตของ อสรจ.ชาย ในการย้อม Slide เพื่อคัดกรองวัณโรคผ่านกล้องวงจรปิด โดยการนำแผ่นสไลด์ลนไฟ2-3 ครั้ง แล้วเขี่ยเสมหะตัวอย่าง ที่มีลักษณะเป็นหนองหรือข้นลงบนแผ่นสไลด์ที่มีความกว้างประมาณ 2 ซม.สูง3ซม. แล้วยึดสไลด์ด้วยการนไฟทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วนำไปตรวจที่กล้องจุลทัศน์
จากนั้นพระราชทานพระราชทานให้กับผู้ต้องขังชายป่วย จํานวน 6 ราย พระราชทานถุงพระราชทานให้ผู้ต้องขังชรา 15 ราย ทอดพระเนตรการสาธิตของ อสรจ.การช่วยเหลือผู้ต้องขังพยายามฆ่าตัวตาย ซึ่ง อสรจ.จะคอยสังเกตุพฤติกรรมของผู้ต้องขังที่มีอาการทางจิตเวช ถ้าผู้ต้องขังเกิดอาการหวาดระแวงและคิดจะทำร้ายตัวเอง อสรจ.ชายจะพูดเกลี่ยกล่อมให้ผู้ต้องขังคลายความหวาดกลัว โดย อสรจ.1 คนจะทำการดูแลผู้ต้องขัง50 คน
ทอดพระเนตรนิทรรศการโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ฯ และนิทรรศการจิตอาสาเราทําความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของเรือนจำ 5 เรือนจำและ4โรงพยาบาล ประกอบด้วย เรือนจํากลางคลองไผ่, เรือนจํากลางนครราชสีมาทัณฑสถานหญิง นครราชสีมา, เรือนจํากลางนครพนม, เรือนจําอําเภอสี่คิ้ว,โรงพยาบาลปากช่องนานา, โรงพยาบาลโกลเดนเกท โรงพยาบาลจังหวัดนครพนม และโรงพยาบาล อําเภอสีคิ้ว ทอดพระเนตรการฝึกวิชาชีพ และทอดพระเนตรการแสดงหุ่นกระบอกของผู้ต้องขังในบทบาทของ อสรจ. จำนวน1 ชุด
ทั้งนี้เรือนจําอําเภอสี่คิ้ว ได้มีการบำบัดน้ำเสียจากภายในเรือนจำ แล้วนำน้ำเสียไปพักยังบ่อพักน้ำทั้งภายในและภายนอกเรือนจำ จากนั้นได้ใช้กังหันน้ำบำบัดน้ำเสียให้สามารถนำกลับมาใช้ได้ และเพื่อเป็นการดับกลิ่นฟุ้งของน้ำจึงได้มีการEMเข้าไปเสริม ทั้งนี้เรือนจำอำเภอสี่คิ้วสามารถผลิตน้ำจากการบำบัดบ่อภายนอกได้วันละ 4,000 ลูกบากศ์เมตร และบ่อภายในได้วันละ 1,200 ลิตร โดยน้ำจากบ่อพักภายในจะนำไปใช้ภายในเรือนจำ ส่วนบ่อพักภายนอกที่เหลือจากการใช้ภายในเรือนจำจะนำไปช่วยเหลือทางการเกษตรให้แก่เกษตรกรในพื้นที่
โอกาสนี้สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชรฯ ได้รับสั่งให้มีการเพิ่มหลักสูตรการดูแลผู้ป่วยติดเตียง การทำกายภาพบำบัดเบื้องต้น การทำกิจกรรมสันทนาการเพื่อลดความกังวลใจและลดความเครียด เพิ่มเติม และทรงแนะนำให้จิตอาสาเราทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของทั้ง4 เรือนจำ ให้บูรณาการร่วมกับศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน (ศอญ) ในการคิดหาวิธีกำจัดของเสียจากเรือนจำให้ออกมาสู่ภายนอกให้น้อยที่สุด อีกทั้งคิดสูตรในการบำบัดน้ำเสียร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั้งภายในและนอกเรือนจำ
จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จไปทรงเปิดโซนควบคุมผู้ต้องขังในโรงพยาบาล ณ โรงพยาบาลปากช่องนานา อําเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา อันเป็นโรงพยาบาลต้นแบบลำดับต้นๆของประเทศไทยที่ได้จัดโซนในการดูแลผู้ต้องขังที่เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง
โดยสถานการณ์ของผู้ต้องขังเจ็บป่วยในเรือนจำต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่กำหนดเป็นเรือนจำตามเป้าหมายในระยะแรกมีรายละเอียดดังนี้ เรือนจากลางคลองไผ่ มีผู้ต้องขัง 4,620 คน มีผู้ต้องขังป่วยด้วยโรคเรื้อรัง รวมจำนวน 97 คน เรือนจำกลางนครราชสีมามีผู้ต้องขังทั้งสิ้น 3,484 คน มีผู้ต้องขังป่วยด้วยโรคเรื้อรัง รวมจำนวน 267 คน เรือนจำกลางนครพนม มีผู้ต้องขังทั้งสิ้น 4,409 คน มีผู้ต้องขังป่วยด้วยโรคเรื้อรัง รวมจำนวน 276 คน และทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา มีผู้ต้องขังทั้งสิ้น 2,593 คน มีผู้ต้องขังป่วยด้วยโรคเรื้อรัง รวมจำนวน 354 คน
การดำเนินงานโครงการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ เพื่อสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขังในการเข้าถึงการได้รับรักษาพยาบาลแล้ว ยังทำให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงยุติธรรมเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขมากขึ้น ทำให้ผู้ต้องคลายกังวลในเรื่องการเจ็บป่วย และยังเป็นต้นแบบให้กับเรือนจำต่างๆ ทั่วประเทศที่ไม่ได้อยู่ในเรือนจำเป้าหมายได้นำแนวทางไปปฏิบัติต่อไป ซึ่งส่งผลดีที่ผู้ต้องขังมีโอกาสเข้าถึงการเข้าถึงการรักษา พยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน