xs
xsm
sm
md
lg

ส่องฉากหลัง “วิโรจน์” ผู้บริหารไอที สู่เจ้าพ่อ IO สีส้ม พิฆาตคนเห็นต่าง?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
ชื่อของ “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ส.ส.บัญชีรายชื่อ (อดีต) พรรคอนาคตใหม่ กำลังได้รับการจับตาและถูกพูดถึงเป็นวงกว้างตั้งแต่ในสภาฯ ยันตลาดนัดขายโคกระบือ!

ด้วยลีลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจแบบ “ทิ้งบอมบ์” ใส่กองทัพ เปลื้องเบื้องลึกฉากหลังปฏิบัติการข้อมูลข่าวสาร หรือ Information Operations (IO) ที่ฝ่ายกองทัพ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) นำเงินมาจ่ายให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเดือนละ 100-300 บาท และตกรางวัลหากทำยอดได้ดีเดือนละ 2,000-3,000 บาท เพื่อใส่ไฟ “บั่นทอน-ด้อยค่า” ขั้วการเมืองฝั่งตรงข้ามรัฐบาล?

ขณะที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ปฏิเสธแบบทันที โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงข้อเท็จจริง และตรวจสอบเพิ่มเติม แถมสวนกลับ “บางพรรคก็ทำ แถมทำเยอะด้วย”


“ผมยังไม่ทราบเรื่องนี้ เพราะการทำงานโดยปกติแล้วผมก็ไม่มีนโยบายให้ทำงานแบบนี้อยู่แล้ว และวันนี้ก็เห็นว่าในโซเชียลมีเดีย มีการกระทำแบบนี้มากมาย ผมเองก็โดนซะเยอะเลยในนั้น เห็นไหมใครทำก็ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวก็ตรวจสอบอีกทีแล้วกัน ยืนยันว่าไม่มีนโยบายดังกล่าว” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ระบุทิ้งไว้ให้ขบคิด

บทบาทของนายวิโรจน์ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยเด่นชัดมากนัก เท่าที่รู้เป็นเพียงหนึ่งใน “หัวหมู่ทะลวงฟัน” เกี่ยวกับเรื่อง “ปฏิรูปกองทัพ” เท่านั้น ส่วนใหญ่ก็มุ่งเน้นใช้ลีลาพูดจาเอามัน-คลุมเครือให้สังคมเกิดความสับสน

ประวัติโดยสังเขป เป็นอดีตนิสิตวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วิศวกรรมยานยนต์) มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง สมัยเรียนหนังสือเคยเป็นโต้วาที และนั่นมีส่วนช่วยบ่มเพาะ “เทคนิคการพูด” ทำให้ “วาทกรรม” ชวนหลงใหล คนไม่ทราบข้อมูลอาจเคลิ้มตามจนประชาชนบางส่วนอาจหลงลืมหรือละเลยข้อเท็จจริงไป ก่อนได้รับการชักชวนจาก “รุ่นน้อง” ให้มาเข้าร่วมพรรคอนาคตใหม่

ในมุมทรัพย์สิน เขาแจ้งต่อ ป.ป.ช.ว่ามีทรัพย์สินทั้งสิ้น 51,435,181 บาท มีหนี้สินแค่ 42,701 บาท ถือว่าเป็นคนร่ำรวยไม่เบาสำหรับ ส.ส.หน้าใหม่รายนี้

มุมธุรกิจก่อนหน้านี้เคยเป็นกรรมการบริษัท แอสเซนเทค จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ส.ค. 2545 ทุน 1 ล้านบาท แจ้งประกอบธุรกิจ กิจกรรมการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์อื่นๆ ปัจจุบันนายวิโรจน์ออกจากกรรมการแล้ว มีคนอื่นนั่งกรรมการแทน แต่ยังคงมีสายสัมพันธ์ชิดเชื้อกันอยู่

ประเด็นอยู่ที่นายวิโรจน์เคยเป็นกรรมการบริษัท แอสเซนเทค จำกัด ทำธุรกิจเกี่ยวกับการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ นั่นจึงอาจทำให้นำข้อมูลออกจากโลกออนไลน์มาอภิปรายได้อย่างเผ็ดร้อน

อีกมุมหนึ่งที่ “บิ๊กตู่” เคยชี้แจงว่า “บางพรรคก็ทำ” ซึ่งสอดคล้องกับอดีตสมาชิกพรรคอนาคตใหม่รายหนึ่ง เคยแฉเบื้องหลังว่า “พรรคสีส้ม” จ้างมวลชนมาปฏิบัติการตอบโต้ข้อมูลข่าวสารหรือ IO ด้วยเช่นกัน ทำงานตั้งแต่ 07.00-24.00 น.

ยิ่งนายวิโรจน์เคยมีบทบาทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี จึงอาจเป็นไปได้ไหมว่า แม้ฉากหน้าเจ้าตัวจะแฉ IO ของหน่วยงานรัฐ แต่เบื้องหลังแล้วเจ้าตัวคือคนคุม หรืออย่างน้อยที่สุดก็อำนวยช่วยเหลือให้คนบางกลุ่มปฏิบัติการ IO ตอบโต้หน่วยงานรัฐด้วยเช่นกัน หรือไม่ เพราะด้วยลีลาการอภิปรายที่มีความเชี่ยวชาญ รู้เทคนิค ขั้นตอน อย่างละเอียด แม่นอย่างกะจับวาง ทำให้ชวนสงสัยว่าเขาเป็นตัวการให้กลุ่มการเมืองฝ่ายค้านใช่หรือไม่


เหมือนที่ “บังซุป” หรือ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย จะออกมาแฉกลางสภาว่า มี ส.ส.บางพรรคที่ถูกยุบไป มีส่วนสัมพันธ์กับเพจเฟซบุ๊กบางเพจที่มีลักษณะ “IO สีส้ม” คอยกุข่าวบิดเบือนโจมตีพรรคร่วมรัฐบาล? พร้อมระบุว่า “วิโรจน์” รับข้อมูลมาจากเพจไอโอเช่นกันที่มุ่งโจมตีฝ่ายรัฐบาล โดย “ศุภชัย” ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล บอกว่า “วันนี้ท่านบอกว่าเรามีไอโอ ท่านก็มีไอโอ”

อีกทั้ง “บังซุป” ยังกระชากหน้ากากเจ้าของเพจให้สังคมให้เห็นว่าเป็น ส.ส.ฝ่ายค้านของพรรคที่พึ่งถูกยุบไปหมาดๆ แม้เจ้าจะลุกขึ้นมาประท้วง ออกมาปฏิเสธก็ไม่อาจทำให้สังคมคลายความสงสัยไปได้ ล่าสุดมีรายงานว่าทางฝ่ายรัฐบาลกำลังจะใช้กระบวนการทางกฎหมายเปิดโปงกระบวนการเหล่านี้ และดำเนินคดีต่อไป

ด้วยเหตุนี้จึงเป็นความย้อนแยงในตัวเองของนายวิโรจน์ รวมทั้ง ส.ส.ที่สนับสนุนตัวเขา ที่อ้างว่ากองทัพ หรือหน่วยงานรัฐทำ IO โดยไม่หันส่องกระจกตัวเองและเครือข่าย อาจเป็นตัวพ่อ ที่ทำ IO ปลุกปั่นสร้างความเกลียดชังแบ่งแยกประชาชนไม่ต่างกันใช่หรือไม่

ที่สำคัญหาก IO ของฝ่ายรัฐบาล โดยมีพรรคพลังประชารัฐ หากมีความเชี่ยวชาญจริง อย่างที่นายวิโรจน์กล่าวหา แต่ทำไมจึงไม่สามารถชนะพรรคอนาคตใหม่ ในสงครามโลกโซเชียลมีเดียได้เลย ทั้งในช่วงเลือกตั้งที่ผ่านมาและสถานการณ์ปัจจุบันนี้ ที่พรรคสีส้มมีความช่ำชองและถูกยกเป็นตัวพ่อ -ตัวแม่อันดับหนึ่ง ทั้งการอวยตัวเองและทำลายล้างผู้เห็นต่าง จนพรรคการเมืองอื่นๆไม่กล้ากระทำตาม

ไม่เชื่อลองไปดูเพจของพรรคพลังประชารัฐ ระหว่างที่ “วิโรจน์” กำลังอภิปรายในสภา เมื่อช่วงดึกวันที่ 25 กพ. แอดมินเพจ พปชร.ต้องขึ้นข้อความว่า “จะนอนอยู่แล้วเชียววววววว” พร้อมขึ้นภาพข้อความกราฟิกว่า “ ช่างกล้าพูดรัฐบาลมีไอโอ แอดโดนซอมบี้รุมทุกวัน ถ้าไม่เชื่อลงไปดูคอมเมนต์ข้างล่างสิ”


ซึ่งมีคนแสดงความเห็นถึง 1.3 หมื่นคน พร้อมกับแชร์ 6.7 พันครั้ง ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยคำด่าของบรรดาเหล่า “อวตาร รวมทั้งนักเลงเกรียนคีย์บอร์ดรุมถล่ม ด้วยข้อความคำหยาบคาย โดยขาดความรับผิดชอบ และจิตสำนึก ลักษณะการกระทำซ้ำๆ ซากๆ เหมือนมีการวางแผน นัดหมายกันมาล่วงหน้า”

โดยเฉพาะวาทกรรมด่ากราดคนที่ไม่คิดเหมือนตัวเองคือ “สลิ่ม” ที่กำลังระบาดหนักอยู่ในโซเชียลมีเดียพร้อมกันนั้นยังตอกลิ่มความความขัดแย้งคนรุ่นก่อนและรุ่นใหม่ ยกระดับเป็นสงครามเกิดขึ้นในประเทศไปแล้ว โดยปราศจากความรับผิดชอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น