เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายพงษ์ศักดิ์ ละมูนกิจ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง หรือ MEA ในฐานะประธาน พร้อมด้วย นายวจี พิทักษ์ปรัชญากุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ MEA คณะผู้บริหาร และพนักงาน ร่วมเปิดงานสัมมนา “สื่อสารกระบวนงานการขอใช้ไฟฟ้าสำหรับ Doing Business” เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของเกณฑ์การประเมิน Ease of Doing Business ของธนาคารโลก กับกลุ่มผู้ประกอบการติดตั้งระบบไฟฟ้าภายใน และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ณ ห้อง Auditorium อาคารวัฒนวิภาส MEA สำนักงานใหญ่ คลองเตย
รองผู้ว่าการ MEA กล่าวว่า ตามที่ MEA ได้ให้บริการด้านระบบไฟฟ้ากับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นนทบุรี และสมุทรปราการ ซึ่งมีส่วนช่วยผลักดันให้ประเทศไทยได้คะแนน Ease of Doing Business เป็นอันดับ 6 ของโลกมา 2 ปี ต่อเนื่องนั้น จะมีส่วนช่วยส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศที่จะมาลงทุนในประเทศไทย ทำให้เกิดการจ้างงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเพิ่มขึ้น และการจัดสัมมนาครั้งนี้ยังเป็นการมุ่งสร้างความสะดวกสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่เป็นคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรร โดย MEA มุ่งที่จะปรับปรุงเพื่อยกระดับคะแนนประเมิน Ease of Doing Business ในประเด็นต่างๆ เช่น
- การแก้ไขข้อบังคับ อัตราค่าบริการ (ปรับลดค่าขอไฟฟ้าเหลือ 0 บาท)
- การขึ้นทะเบียนผู้ติดตั้งระบบไฟฟ้าภายใน (ยกเลิกการตรวจสอบสายภายใน)
- การเพิ่มความสะดวกในการส่งหลักฐานและนัดตรวจแบบออนไลน์ เพิ่มช่องทางการรับชำระออนไลน์
- จัดอบรมฟรีสำหรับผู้รับเหมาติดตั้งฯ
- เปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายใต้ดินอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ MEA ยังได้นำช่องทางรับบริการออนไลน์อย่าง MEAsy ที่ใช้งานง่าย ผ่านทางเว็บไซต์ https://eservice.mea.or.th/measy/ หรือทาง MEA Smart Life Application “แอปเดียวจบครบทุกเรื่องไฟฟ้า” ดาวน์โหลดใช้งานฟรี ที่ http://onelink.to/measmartlife ซึ่งลูกค้าสามารถลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ แล้วเลือกเมนูที่ต้องการได้ง่าย หากจะดำเนินการขอไฟฟ้าสามารถปักหมุดระบุสถานที่ขอใช้ไฟฟ้า เพื่อยืนยันตัวตน จากนั้นหลังจากได้รับ email ยืนยันจาก MEA แล้วผู้ขอใช้บริการเพียงเตรียมเอกสาร ก็สามารถรอการติดต่อกลับจาก MEA ได้สะดวกรวดเร็ว ทั้งนี้ MEA ได้นำเทคโนโลยีต่างๆ เช่น ระบบแผนที่ภูมิศาสตร์ MEA ซึ่งใช้ในการสำรวจแนวสายไฟฟ้า ตลอดจนการออกแบบการปักเสาไฟฟ้าได้เบื้องต้น โดยที่ไม่ต้องออกสำรวจในพื้นที่จริง รวมถึงการพัฒนาบริการ MEA Smart Life SDK ซึ่งเป็นเครื่องมือใหม่ล่าสุดสำหรับผู้ให้บริการต่างๆ (อาทิ ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์) สามารถเชื่อมโยง Platform แอปพลิเคชันที่ใช้งานในกลุ่มลูกบ้านของตนเองให้เชื่อมโยงเข้ากับ MEA Smart Life Application เพื่อรับบริการต่างๆ ของ MEA ได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย ทำให้ลูกค้าได้รับบริการด้านระบบไฟฟ้าที่รวดเร็ว และนำไปสู่การยกระดับการประเมิน Doing Business ของประเทศไทยในอนาคต