พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรี และหน่วยราชการในพระองค์ฯ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิต 14 ราย จากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 และในพื้นที่อำเภอนครราชสีมา
วันนี้ (13 พ.ค.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี และหน่วยราชการในพระองค์ฯ เป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิง ณ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 และในพื้นที่อำเภอนครราชสีมา เมื่อวันที่ 8 -9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่ จ.นครราชสีมา จำนวน 11 ราย จ.สกลนคร จำนวน1ราย จ.บุรีรัมย์ จำนวน 1 ราย และจังหวัดสมุทรสาคร จำนวน 1 ราย รวม 14 ราย
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี แบะหน่วยราชการในพระองค์ไปเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพดังนี้ พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์ฯประธานพระราชทานเพลิงศพ นางกรรณิการณ์ การบรรจง อายุ 22 ปี ที่วัดบ้านหนองโพธิ์ อ.ชามสะแกแสงจ.นครราชสีมา,พล.อ.ต.สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพนายสมเกียรติ วิชชุปัญญาพาณิชย์ อายุ 54 ปี วัดสุทธจินดา ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา, นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพ ด.ต.ชัชวาลย์ แท่งทอง อายุ 60 ปี ที่วัดโพธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา,นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพ นางสาวอภิกษณาภา ขันผักแว่น อายุ 45 ปี ที่วัดหนองไผ่ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา,พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพนายทัศนะ หริรักษ์ อายุ 54 ปี ที่วัดดอนขวาง ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา
นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพ นายจิรวัฒน์ รัดกลาง อายุ 41 ปี ที่วัดนามาบ อ.ขามสะแกแสงจ.นครราชสีมา,พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพนายเอกกวิน ยืนทน อายุ18 ปี ที่วัดใหม่ไทยเจริญ อ.หนองบุญมา จ.นครราชสีมา,พล.ร.อ.พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพ นายศรัณยพงศ์ พงษ์ชอุ่มดี อายุ 55 ปี ที่วัดช่องอู่ ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ,พล.อ.ท.ภักดี แสง-ชูโต เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพนายอำนาจ บุญเอื้อ อายุ47 ปี ที่วัดหนองบัว ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา,จรัลธาดา กรรณสูตร องคมนตรี เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพนายวัชรพล พาณิชย์ อายุ 41 ปี ที่วัดสะแก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา,นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพนายจักรพันธ์ ชิพิมาย อายุ44ปี ที่วัดสระบัวเกลือน ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
พล.อ.ต.ธีระ เชียงทอง เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพนางพัชรา จันทร์เพ็ง อายุ 54 ปี วัดป่าภูธรพิทักษ์ จ.สกลนคร,พล.ร.อ.ปวิตร รุจิเทศ เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพ นายอธิวัฒน์ พรมสุข อายุ18 ปี ที่วัดหนองโดน จ.บุรีรัมย์ และ จิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ เป็นประธานพระราชทานดินฝังศพ นางจุฑารัตน์ พิมพ์ศิริวรรณ อายุ 50 ปี ที่วัดอันนา อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
โดยในเวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี เป็นประธานพระราชทานเพลิงศพ นางสาวอภิกษณาภา ขันผักแว่น อายุ 45 ปี ที่วัดหนองไผ่ ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ร่วมในพิธีพระราชทานเพลิง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศพิธีพระราชทานเพลิงศพเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ประชาชนในบริเวณใกล้เคียงต่างสวมใส่ชุดดำมาร่วมงานกันเป็นจำนวนมากด้วยความอาลัยรัก
โอกาสนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี, ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา, สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา, สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ มหาวชิโรตตมางกูร สิริวิบูลยราชกุมาร, พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯและโปรดให้เชิญดอกไม้จันทน์พระราชทาน และประทาน ในการพิธีพระราชทานเพลิงด้วย
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กองพระราชพิธีได้เตรียมดอกไม้จันทน์พระราชทานจำนวนวัดละ300 ดอก และวัดดอนขวางจำนวน 500 ดอก เพื่อสำหรับให้ประชาชนได้ขึ้นประชุมเพลิงผู้เสียชีวิต
การได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณในครั้งนี้ ยังความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ทั้งหมดโดยตลอด รวมทั้ง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ