แพทย์ระบุ ทหารก่อเหตุกราดยิงที่โคราช คาดแรงบันดาลใจมาจากมือปืนลพบุรี และภาพยนตร์เรื่องโจ๊กเกอร์ ก่อนฝึกซ้อมร่างกาย-ยิงปืนอย่างหนัก โพสต์เรื่องความตายหลายครั้ง แนะควบคุมอาวุธปืนทั่วประเทศ พร้อมตรวจสอบสภาพจิตใจของผู้ถือปืน
เฟซบุ๊ก "ชเนษฎ์ ศรีสุโข" ของ นพ.ชเนษฎ์ ศรีสุโข วิเคราะห์ถึงกรณีที่ จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี สังกัดกรมสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 (บชร.2) ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ก่อเหตุกราดยิงในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ถนนมิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา ระบุว่า สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะมีแรงบันดาลใจมาจากมือปืนลพบุรี คดีที่นายประสิทธิชัย เขาแก้ว อายุ 38 ปี ผู้อำนวยการโรงเรียน กราดยิงประชาชนในห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ.ลพบุรี เพื่อชิงทรัพย์ทองคำเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา รวมถึงภาพยนตร์เรื่องโจ๊กเกอร์ ที่ได้รางวัลลูกโลกทองคำ และได้เข้าชิงออสการ์
ที่กล่าวเช่นนี้ เพราะ ได้มีโอกาสเห็นเพจของตัวผู้ก่อการ ในเพจยังมีการแชร์เรื่องราวมือปืนลพบุรีหลายครั้ง และมีภาพหนึ่งในเพจเป็นภาพของนักแสดงนำเรื่องโจ๊กเกอร์ ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาของคนระดับล่างของสังคม ที่เจอปัญหาชีวิต และขาดยาจิตเวช จนกลายเป็นอาชญากร ยิงคนออกทีวี และเป็นผู้นำคนจิตป่วน-อาชญากรทั่วเมืองให้เข่นฆ่าทำร้ายผู้คน โดยเล่าเรื่องที่พยายามอธิบายเหตุผลในมุมสนับสนุนแง่คิดโจ๊กเกอร์
"ผู้ก่อการคงได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ และเป็นแรงบันดาลใจหนึ่ง" นพ.ชเนษฎ์ ระบุ
ต่อมา จ.ส.อ.จักรพันธ์ มีการเตรียมการมาก่อน จากเพจเดียวกันนั้น มีการฝึกซ้อมร่างกาย และซ้อมยิงปืนอย่างหนัก ก่อนหน้านี้หลายเดือน และมีการโพสต์ถึงความเป็นความตายในเพจหลายครั้ง น่าจะมาจากปูมหลังปัญหาที่ดิน หนี้สินตามข่าวที่ว่า ส่วนหลังนี้เป็นฟางเส้นสุดท้าย ให้สติหลุด แต่คิดไว้และเตรียมการมาก่อนแล้ว
ขณะเดียวกัน ยังใช้สื่อโซเชียลในการเติมเต็ม ความหมายของชีวิต ให้กับตนเอง เพราะ ยิงไปด้วย ฆ่าคนหลายสิบ และใช้ช่องทางติดต่อสื่อสารกับสังคมไปด้วยความคึกคะนอง อยากทำอะไรให้เป็นที่จดจำ ตัวอย่างโพส เช่น สุดท้ายทุกคนก็ต้องตายเหมือนกัน ไม่ยอมถูกจับนั้น สะท้อนว่า เขาเลือกหนทางให้เป็นที่จดจำก่อนตาย เฉกเช่นฉากที่โจ๊กเกอร์เล่นกับมุมกล้องทีวีหลังก่อเหตุ เทียบกับภาพที่ผู้ก่อเหตุเล่นกับโซเชียลหลังก่อนเหตุ เทียบกับทีวีในยุคปัจจุบัน
"เรื่องนี้หลายคนต่อว่ารัฐมนตรีดิจิทัลฯ ที่ร่วมมือกับเฟซบุ๊กระงับสัญญาณเพจของคนร้ายว่าไประงับทำไม แต่ผมมองว่า คุณบี (พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์) รัฐมนตรีทำได้ดีแล้ว เพราะที่สำคัญไม่ใช่เคสนี้เคสเดียว แต่ป้องกันปัญหาเคสเลียนแบบที่จะเกิดอีกในอนาคต และสิ่งที่ภาครัฐบาลควรทำร่วมกับสื่อมวลชน คือ ลบชื่อ ลบอัตลักษณ์ มิเช่นนั้น อาจจะก่อให้เกิดการเลียนแบบอีกหลายเคสได้" นพ.ชเนษฎ์ ระบุ
นพ.ชเนษฎ์ กล่าวว่า ทั้งสองเคสในปีนี้ ทั้งมือปืนลพบุรี และมือปืนโคราช ควรนำไปสู่แนวทางการควบคุมอาวุธปืนในภาคส่วนต่างๆ ของประเทศไทย และการตรวจสอบสภาพจิตใจของผู้ถือปืน รวมถึงเรื่องที่สำคัญมาก คือ ต้องมีนโยบายระดับชาติทางด้านการดูแลจิตใจของประชาชน และผู้ถืออาวุธ เป็นความร่วมมือกันทุกภาคส่วน ไม่ใช่เฉพาะภาครัฐอย่างเดียว
"ขอมองโลกแง่ดี เหตุที่เกิดขึ้น เป็นส่วนที่ทำให้เห็นการช่วยเหลือกันของเพื่อนมนุษย์ และหวังว่า หากป้องกันได้อย่างเหมาะสมแล้ว จะไม่เกิดเหตุแบบนี้อีกได้ง่ายนัก" นพ.ชเนษฎ์ ระบุ
