ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิด "โครงการอาคารราชการต้นแบบด้านการจัดการน้ำเสีย" แก้ปัญหาการกำจัดน้ำเสียให้มีมาตรฐาน ยกระดับคุณภาพแหล่งน้ำ
วันนี้ (5 ก.พ.) เวลา 10.00 น. โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทาราศูนย์ราชการและคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายนพดล พลเสน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผช.รมว.ทส.) เป็นประธานเปิดงาน "โครงการอาคารราชการต้นแบบด้านการจัดการน้ำเสีย" พร้อมมอบนโยบายการมีส่วนร่วมของหน่วยงานราชการในการลดการระบายน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำเสียและยกระดับคุณภาพน้ำ โดยมี นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
นายนพดล เปิดเผยว่า วัตถุประสงค์โครงการดังกล่าวเพื่อส่งเสริมและกระตุ้นให้หน่วยงานภาครัฐมีการจัดการน้ำเสียจากอาคารให้เป็นไปตามกฎหมายและระบายน้ำทิ้งออกสู่สิ่งแวดล้อมเป็นไปตามมาตรฐาน พร้อมส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านการดูแลระบบบำบัดน้ำเสียและแนวทางการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 รวมทั้ง สร้างจิตสำนึกหน่วยงานภาครัฐให้ความสำคัญด้านการจัดการน้ำเสียจากอาคาร กำหนดนโยบายจัดการน้ำเสียและการประหยัดน้ำ ตลอดจนดูแลระบบบำบัดน้ำเสียอาคารของตนเองให้มีประสิทธิภาพให้เป็นต้นแบบที่ดีให้กับภาคเอกชนและประชาชน
นายนพดล เผยอีกว่า สำหรับปัญหาที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบคุณภาพแหล่งน้ำสายหลักทั่วประเทศพบว่าคุณภาพน้ำส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์พอใช้ ร้อยละ 45 และ เกณฑ์ดี ร้อยละ 55 สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการระบายน้ำเสียที่ไม่ผ่านการบำบัดและการระบายน้ำทิ้งที่ไม่ได้มาตรฐานทั้งแหล่งชุมชน อุตสาหกรรมและเกษตรกรรม ในส่วนอาคารราชการได้ดำเนินการตรวจสอบ เมื่อปี 62 จำนวน 162 หน่วยงาน พบว่าระบายน้ำทิ้งเป็นไปตามมาตรฐานเพียง 47 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 29 ซึ่งอาจเกิดจากเจ้าหน้าที่ยังไม่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสียหรือเป็นอาคารเก่าไม่ได้ออกแบบไว้บำบัดน้ำเสีย โดยหน่วยงานที่ระบายน้ำทิ้งไม่เป็นไปตามมาตรฐานได้มีหนังสือประสานไปยังหน่วยงานต้นสังกัดให้กำกับดูแลและควบคุมการระบายน้ำทิ้งให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
"ทั้งนี้ การพัฒนาอาคารหน่วยงานราชการให้เป็นต้นแบบที่ดีในด้านจัดการบำบัดน้ำเสีย รวมทั้งการประหยัดน้ำและนำน้ำทิ้งกลับมาใช้ประโยชน์ นับเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้กับภาคเอกชนและสร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคประชาชน ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมและความตระหนักในการจัดการน้ำเสียที่เกิดขึ้นในพื้นที่ของตนเอง และให้ความสำคัญในการดูแลระบบบำบัดน้ำเสียให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลให้การระบายน้ำทิ้งที่ลงสู่แหล่งน้ำมีระดับคุณภาพน้ำดีขึ้น และประชาชนสามารถใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำได้"
นายนพดล เผยต่อว่า ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและจัดอบรมให้คำแนะนำเพื่อพัฒนาแก้ไขระบบจัดการน้ำเสียให้เป็นไปตามมาตรฐาน โดยในช่วงเดือน พ.ค.63 จะมีการประเมินอาคารราชการที่ไม่ผ่านเกณฑ์จากปี 62 ให้ผ่านตามเกณฑ์ ส่วนอาคารที่ผ่านแล้วมีการมอบโล่เชิดชูเกียรติเพื่อเป็นอาคารต้นแบบต่อไป อย่างไรก็ตาม ภาคประชาชนยังมีส่วนร่วมได้หากไปติดต่อหน่วยงานราชการแล้วพบเจอน้ำเสียหรือท่อมีกลิ่นเหม็นสามารถแจ้งกรมควบคุมมลพิษเพื่อเข้าไปตรวจสอบแก้ไขปัญหาดังกล่าว