รัฐบาลไต้หวันออกมาตรการปันส่วนหน้ากากอนามัย โดยประชาชนสามารถนำบัตรประกันสุขภาพแห่งชาติไปขอซื้อหน้ากากตามร้านขายยาที่เข้าร่วมโครงการกว่า 6,000 แห่งได้คนละ 2 ชิ้นต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันการกว้านซื้อหรือกักตุน
วันนี้ (4 ก.พ.) RTI Radio Taiwan รายงานว่า ไต้หวันออกมาตรการซื้อหน้ากาอนามัยใหม่เริ่ม 6 ก.พ.นี้ คาด ปชช. เข้าถึง 5 ล้านคนในหนึ่งสัปดาห์
สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ส่งผลทำให้หน้ากากอนามัยเพียงพอกับความต้องการของประชาชน ศูนย์บัญชาการป้องกันโรคติดต่อไต้หวันจึงออกแถลงเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ก.พ.) ถึงมาตรการใหม่ล่าสุดในการซื้อหน้ากากอนามัย ซึ่งจะเริ่มใช้ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2563 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.สถานที่จัดจำหน่ายจะเปลี่ยนจากร้านสะดวกซื้อเป็นร้านขายยาที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติทั่วไต้หวันจำนวนกว่า 6,000 แห่ง หากเป็นพื้นที่ห่างไกลสามารถหาซื้อได้ที่สถานีอนามัย
2.วิธีการซื้อจะต้องมีการแสดงบัตรประกันสุขภาพ เพื่อใช้ในการซื้อทุกครั้ง
3.จำนวนการซื้อหน้ากากจำกัดครั้งละ 2 แผ่นต่อคน
4.ภายใน 7 วัน สามารถซื้อได้ 1 ครั้ง
5.ราคาจำหน่ายหน้ากากแผ่นละ 5 เหรียญไต้หวัน
6.ผู้ถือบัตรประชาชนหรือใบถิ่นที่อยู่ (ARC) ลงท้ายด้วยเลขคี่ (1,3,5,7,9) สามารถซื้อได้ในวันจันทร์/พุธ/ศุกร์ และอาทิตย์ ส่วนผู้ถือบัตรประชาชนหรือใบถิ่นที่อยู่ (ARC) ลงท้ายด้วยเลขคู่ (0,2,4,6,8) สามารถซื้อได้ในวันอังคาร/พฤหัสบดี/เสาร์ และอาทิตย์
7.การรับฝากซื้อจำกัดจำนวน 1 คน สามารถถือบัตรประกันสุขภาพเพิ่ม 1 ใบ สำหรับใช้ในการฝากซื้อได้เพียง 1 ครั้ง
เจ้าหน้าที่เผยว่า ร้านขายยาทุกแห่งจะได้รับหน้ากากอนามัยสำหรับผู้ใหญ่วันละ 200 แผ่น และสำหรับเด็กวันละ 50 แผ่น คาดว่าในสัปดาห์แรกของการเริ่มใช้มาตรการใหม่นี้จะมีประชาชนเข้าถึงการซื้อหน้ากากอนามัยประมาณ 5 ล้านคน