ชาวเน็ตโวยสุดโต่ง-สร้างความขัดแย้ง แกนนำชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา โพสต์เฟซบุ๊กโวย รัฐสภาแห่งใหม่ ทำไมต้องมีห้องละหมาดทุกชั้น พบเป็น "ศิษย์ธรรมกาย" ตัวพ่อ
วันนี้ (23 ธ.ค.) ในโลกโซเชียลมีเดียได้วิจารณ์กรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "ประพันธุ์ กิตติฤดีกุล" ซึ่งเป็นของ นายประพันธุ์ กิตติฤดีกุล ผู้ประสานงานชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา โพสต์ภาพห้องละหมาดในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ "สัปปายะสภาสถาน" ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ที่พบว่ามีป้ายกระดาษเขียนว่า "ห้องละหมาด" เป็นห้องเล็กๆ พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมต้องมีห้องละหมาดในรัฐสภาทุกชั้น และกล่าวหาในลักษณะสร้างความขัดแย้งระหว่างศาสนา
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
หากไม่นับรวมผู้สนับสนุนนายประพันธุ์ พบว่าบรรดาชาวเน็ตต่างออกมาไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของนายประพันธุ์ เพราะสุดโต่งและสร้างความขัดแย้ง ทั้งที่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ที่รัฐพึงอุปถัมภ์และคุ้มครองพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่น ซึ่งชาวมุสลิมต้องทำพิธีละหมาดอย่างน้อย 5 ครั้งต่อวัน จึงต้องจัดห้องเฉพาะสำหรับพิธีกรรมตามที่ผู้นับถือต้องปฏิบัติทุกวันตามเวลาที่กำหนด ซึ่งไม่ใช่แค่รัฐสภา แต่ยังรวมถึงสถานที่สาธารณะอื่นๆ ส่วนศาสนาพุทธและศาสนาคริสต์ สามารถประกอบพิธีได้โดยไม่จำเป็นต้องมีห้องเฉพาะ
สำหรับนายประพันธุ์ กิตติฤดีกุล เป็นศิษย์วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่มีนายไชบูลย์ สุทธิผล หรืออดีตพระเทพญาณมหามุณี (พระไชยบูลย์ ธรรมชโย) อดีตเจ้าอาวาสวัด ที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดีอาญาแผ่นดิน กรณีถูกออกหมายจับข้อหาร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน และรับของโจร กรณีทุจริตเงินในสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยพบว่า นายประพันธุ์มักจะเคลื่อนไหวโดยอ้างตัวเองว่าเป็นชมรมพิทักษ์พระพุทธศาสนา เคลื่อนไหวทางการเมืองและศาสนากรณีต่างๆ เช่น การคัดค้านการเคลื่อนไหวของนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ เมื่อครั้งเป็นพระพุทธอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
ในบล็อก "บัณฑิตแห่งมิถิลานคร" ของ พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส หรือ นายสนิทวงศ์ เจริญรัตตะวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร วัดพระธรรมกาย ได้มีเรื่องราว "ทำไมถึงรักวัดพระธรรมกาย" หนึ่งในนั้นมีนายประพันธุ์ กล่าวว่า "ทำไมผมรักวัดพระธรรมกายหรือครับ เพราะวัดพระธรรมกายสอนให้ผมเป็นคนดี ทำให้ผมละชั่ว ทำความดี ทำจิตใจให้สงบผ่องใสได้ครับ ทำให้ผมรักในการทำความดี ทำให้ผมรักษาศีล 5 ได้ตลอดมา และรักษาศีล 8 ได้ ในเวลาที่มาวัดปฏิบัติธรรม วัดพระธรรมกายสอนให้ผมทำทานทุกวัน ทั้งทำบุญกับพระพุทธศาสนา และทำบุญทำทานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทำให้ผมรักการปฏิบัติธรรม สวดมนต์และนั่งสมาธิ วัดพระธรรมกายสอนให้ผมมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ผู้มีพระคุณและครูบาอาจารย์ วัดพระธรรมกายสอนให้ผมรู้จักหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบต่อครอบครัว ต้องขยันทำมาหากิน ทำงานที่สุจริต และเป็นประโยชน์ต่อสังคม และสอนให้ผมรู้จักการให้ การเสียสละประโยชน์ ส่วนตน เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของสังคม วัดพระธรรมกายสอนให้ผมมีเป้าหมายในการดำเนินชีวิต ให้พัฒนาตัวเอง ให้อดทน ทำความดีให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นไปทั้งทางโลกและทางธรรม และนอกจากนี้ วัดพระธรรมกายยังสอนให้ผมช่วยเหลือแบ่งปันให้ผู้อื่น ให้มีชีวิตที่เจริญรุ่งเรือง ให้ได้ทำความดี นี่ละครับ สิ่งที่ผมได้รับจากการมาปฏิบัติธรรมที่วัดพระธรรมกาย"